ในการเรียกเว็บฮุค คุณจะจัดเก็บค่าพารามิเตอร์สำหรับผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจงในเซสชันต่างๆ ในพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ใช้ได้ จากนั้นการดำเนินการจะใช้ค่าที่เก็บไว้เหล่านั้นภายหลังในข้อความแจ้งและเงื่อนไขได้ และโค้ดเว็บฮุคจะเข้าถึงค่าในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ได้ตามความจำเป็น
ระบบจะส่งสถานะของพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ใช้ไปในคำขอ app.handle()
และจัดเก็บไว้ในออบเจ็กต์ user
อ่านและเขียนข้อมูลในการสนทนาต่างๆ
หากต้องการอัปเดตหรือกำหนดค่าใหม่ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ ให้กำหนดค่าให้กับช่อง params
ของออบเจ็กต์ user
ในการเรียกเว็บฮุค ตัวอย่างต่อไปนี้ตั้งค่า "exampleColor" เป็น "red" ในพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ใช้
Node.js
// Assign color to user storage app.handle('storeColor', conv => { let color = 'red'; conv.user.params.exampleColor = color; });
JSON
{ "responseJson": { "session": { "id": "1234567890123456789", "params": {} }, "prompt": { "override": false }, "user": { "locale": "en-US", "params": { "verificationStatus": "VERIFIED", "exampleColor": "red" } } } }
หากต้องการเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ ให้กำหนดข้อมูลดังกล่าวให้กับตัวแปรในการเรียกใช้เว็บฮุค ตัวอย่างต่อไปนี้ดึงค่าจาก "exampleColor" ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้
Node.js
// Retrieve color from user storage app.handle('getStoredColor', conv => { let color = conv.user.params.exampleColor; });
JSON
{ "responseJson": { "session": { "id": "1234567890123456789", "params": {} }, "prompt": { "override": false }, "user": { "locale": "en-US", "params": { "verificationStatus": "VERIFIED", "exampleColor": "red" } } } }
หากต้องการล้างค่าที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ให้ตั้งค่าเป็น null
ในการเรียกใช้เว็บฮุค
ตัวอย่างต่อไปนี้จะล้างค่า "exampleColor" ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้
Node.js
// Clear color from user storage app.handle('clearStoredColor', conv => { conv.user.params.exampleColor = null; });
JSON
{ "responseJson": { "session": { "id": "1234567890123456789", "params": {} }, "prompt": { "override": false }, "user": { "locale": "en-US", "params": { "verificationStatus": "VERIFIED" } } } }
อ้างอิงค่าที่จัดเก็บไว้ภายในข้อความแจ้ง
คุณสามารถอ้างอิงค่าที่เก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ได้ในข้อความแจ้ง หากต้องการอ้างอิงค่า ให้ใช้ไวยากรณ์ $user.params.PARAMETER_NAME
โดยที่ PARAMETER_NAME
คือชื่อที่ระบุในเว็บฮุคเมื่อมีการตั้งค่าพารามิเตอร์
เช่น ก่อนหน้านี้คุณเก็บค่าสีไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้เป็นพารามิเตอร์ exampleColor
หากต้องการเข้าถึงค่านั้นในพรอมต์ ให้อ้างอิงค่านั้นโดยใช้ $user.params.exampleColor
ดังนี้
JSON
{ "candidates": [{ "first_simple": { "variants": [{ "speech": "Your favorite color is $user.params.exampleColor." }] } }] }
อ้างอิงค่าที่จัดเก็บไว้ภายในเงื่อนไข
นอกจากนี้ คุณยังอ้างอิงค่าที่เก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ในconditionsได้ด้วย หากต้องการอ้างอิงค่า ให้ใช้ไวยากรณ์ user.params.PARAMETER_NAME
โดยที่ PARAMETER_NAME
คือชื่อที่ระบุในเว็บฮุคเมื่อมีการตั้งค่าพารามิเตอร์
เช่น ก่อนหน้านี้คุณจัดเก็บค่าสีไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้เป็นพารามิเตอร์ exampleColor
และคุณต้องการจับคู่กับค่า "red" ในเงื่อนไขหนึ่งๆ ในเงื่อนไขของคุณ คุณอ้างอิงค่าที่จัดเก็บไว้โดยใช้ user.params.exampleColor
นิพจน์เงื่อนไขจะมีลักษณะดังนี้
ไวยากรณ์ของเงื่อนไข
user.params.exampleColor == "red"
การหมดอายุของข้อมูลพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้
สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยัน ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้จะหมดอายุตามการตั้งค่ากิจกรรมบนเว็บและแอป และตัวการดำเนินการจะล้างออกได้ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ยืนยัน Assistant จะล้างเนื้อหาในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้เมื่อสิ้นสุดการสนทนา
Actions on Google จะตั้งสถานะการยืนยันของผู้ใช้เมื่อเริ่มต้นการสนทนาแต่ละครั้งโดยอิงตามสัญญาณบอกสถานะต่างๆ เมื่อการสนทนาเริ่มต้นขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบ Google Assistant ในอุปกรณ์เคลื่อนที่มีสถานะการยืนยันเป็น VERIFIED
เหตุผลที่อาจทำให้ผู้ใช้มีสถานะการยืนยันเป็น GUEST
มีดังนี้
- ผู้ใช้ปิดผลการค้นหาเฉพาะบุคคลไว้
- ผู้ใช้ปิดใช้กิจกรรมบนเว็บและแอป โปรดทราบว่าผู้ใช้บางคนอาจปิดใช้การตั้งค่านี้ในระดับโดเมน
- หากอุปกรณ์เปิดใช้ Voice Match แต่จับคู่ไม่สำเร็จหรือผู้ใช้เรียกใช้ Assistant โดยไม่ใช้เสียงของตน (เช่น การกดอุปกรณ์ Nest Home ค้างไว้)
- ผู้ใช้ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้
ตรวจสอบสถานะการยืนยันของผู้ใช้เสมอก่อนที่จะจัดเก็บข้อมูลด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ที่เป็นผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับคุณลักษณะที่ทำไม่สำเร็จ
ระดับการเข้าถึงผู้ใช้
ในฐานะผู้ใช้ คุณสามารถดูข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้สำหรับการดำเนินการที่คุณเรียกใช้ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ออกจากการดำเนินการหนึ่งๆ หรือหยุดบริการไม่ให้จดจำคุณได้อีกด้วย
หากต้องการดูข้อมูลที่จัดเก็บไว้หรือหยุดไม่ให้บริการจดจำคุณ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ไปที่ไดเรกทอรี Assistant
- ค้นหาและเลือกการดำเนินการที่ต้องการดูหรือล้างพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้
- เลื่อนลงไปที่ด้านล่างของหน้า
- หากต้องการดูเนื้อหาในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ ให้คลิก [ดูข้อมูลที่จัดเก็บไว้]
- หากต้องการรีเซ็ตข้อมูลที่เก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ของบริการ ให้คลิกรีเซ็ต
- หากต้องการนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในพื้นที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้ออกและหยุดไม่ให้บริการจดจำคุณ ให้คลิกหยุด action_name ไม่ให้จดจำฉัน