พารามิเตอร์การกำหนดค่าที่ลบล้างได้

พารามิเตอร์การกำหนดค่าที่ลบล้างได้มีตัวเลือกที่ช่วยให้เครื่องมือแก้ไขรายงานแก้ไขค่าเริ่มต้นในแหล่งข้อมูลได้ การกำหนดพารามิเตอร์การกำหนดค่าเป็นแบบลบล้างได้จะทำให้ แหล่งข้อมูลมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สร้างเทมเพลตรายงานที่ผู้ใช้กำหนดค่าได้

ตัวอย่างเช่น เครื่องมือเชื่อมต่อที่ให้ข้อมูลสภาพอากาศอาจมีพารามิเตอร์ตำแหน่ง ที่ช่วยให้ผู้ดูรายงานขอรายงานสภาพอากาศจากสถานที่ ที่แตกต่างจากค่าเริ่มต้นได้

เอกสารนี้อธิบายวิธีกำหนดพารามิเตอร์ที่ลบล้างได้ วิธีเปิดใช้เพื่อ แก้ไข และวิธีที่ผู้ใช้รายงานจะแก้ไขค่าพารามิเตอร์ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้พารามิเตอร์ใน Looker Studio ได้ที่พารามิเตอร์แหล่งข้อมูล

บทบาท

บทบาทของผู้ใช้ที่อ้างอิงตลอดทั้งเอกสารมีดังนี้

บทบาท คำจำกัดความ
นักพัฒนาเครื่องมือเชื่อมต่อ ผู้ใช้ที่สร้างปลั๊กอินจากชุมชนสำหรับใช้ลิงก์ข้อมูล
เจ้าของแหล่งข้อมูล ผู้ใช้ที่สร้างและเป็นเจ้าของแหล่งข้อมูล
เครื่องมือแก้ไขรายงาน ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงโหมดแก้ไขในรายงาน
ผู้ดูรายงาน ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงรายงานในโหมดดู

การกำหนดพารามิเตอร์แบบลบล้างได้

นักพัฒนาเครื่องมือเชื่อมต่อจะกำหนดพารามิเตอร์การกำหนดค่าในฟังก์ชัน getConfig() ของเครื่องมือเชื่อมต่อชุมชน หากต้องการกำหนดพารามิเตอร์การกำหนดค่าเป็นแบบลบล้างได้ เครื่องมือเชื่อมต่อ จะเรียกใช้ setAllowOverride(true)

ตัวอย่างต่อไปนี้กำหนดพารามิเตอร์ที่ลบล้างได้ 2 รายการ ได้แก่ zipcode และ units และพารามิเตอร์ที่ลบล้างไม่ได้ 1 รายการ ได้แก่ days-to-forcecast

ภาพหน้าจอของพารามิเตอร์แบบลบล้างได้ 2 รายการ

function getConfig(request) {
  var config = cc.getConfig();

  // A
  config
      .newTextInput()
      .setId("zipcode")
      .setName("ZIP Code")
      .setAllowOverride(true);

  // B
  config
    .newSelectSingle()
    .setId("units")
    .setName("Units")
    .addOption(
        config
          .newOptionBuilder()
          .setLabel("Metric")
          .setValue("metric")
    )
    .addOption(
      config
        .newOptionBuilder()
        .setLabel("Imperial")
        .setValue("imperial")
    )
    .setAllowOverride(true);

  // C
  config
    .newTextInput()
    .setId("days-to-forecast")
    .setName("Days to forecast")
      .setAllowOverride(false);


  return config.build();
}

เมื่อใดที่ไม่ควรระบุพารามิเตอร์เป็นแบบลบล้างได้

เราขอแนะนำให้คุณดูวิธีที่เครื่องมือเชื่อมต่อ แหล่งข้อมูล และรายงานทำงานร่วมกันโดยอ่านวิธีที่ Looker Studio เชื่อมต่อกับข้อมูล

หลีกเลี่ยงการกำหนดพารามิเตอร์เป็นแบบลบล้างได้ในกรณีต่อไปนี้

  1. เมื่อค่าของพารามิเตอร์มีผลต่อสคีมา
    • หากผู้ใช้เปลี่ยนค่าพารามิเตอร์และสคีมาของข้อมูลใหม่ ที่ส่งคืนแตกต่างจากที่กำหนดไว้ในแหล่งข้อมูล รายงานใดก็ตาม ที่ขึ้นอยู่กับแหล่งข้อมูลอาจใช้งานไม่ได้เนื่องจากไม่มีฟิลด์
  2. หากค่าพารามิเตอร์ควบคุมข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น การเลือกบัญชี
    • อย่ากำหนดพารามิเตอร์เป็นพารามิเตอร์ที่ลบล้างได้หากคุณต้องการป้องกัน การดูหรือการแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ตั้งใจ

การเปิดใช้พารามิเตอร์สำหรับผู้ใช้รายงาน

เจ้าของแหล่งข้อมูลจะควบคุมพารามิเตอร์ที่ลบล้างได้ซึ่งเครื่องมือแก้ไขรายงานได้รับอนุญาตให้แก้ไข ในทำนองเดียวกัน ผู้แก้ไขรายงานจะควบคุมว่าผู้ดูรายงานจะแก้ไขพารามิเตอร์ใดได้

อนุญาตให้เครื่องมือแก้ไขรายงานแก้ไขค่าพารามิเตอร์

เจ้าของแหล่งข้อมูลจะควบคุมพารามิเตอร์ที่อนุญาตให้แก้ไขในรายงาน การตั้งค่านี้จะดำเนินการในระหว่างการสร้างหรือแก้ไขแหล่งข้อมูล และใช้ได้กับพารามิเตอร์ที่กำหนดเป็นลบล้างได้โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์เครื่องมือเชื่อมต่อ เท่านั้น หากเปิดใช้ ผู้แก้ไขรายงานจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้ แก้ไขพารามิเตอร์ในรายงาน

ในตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวเชื่อมต่อมีพารามิเตอร์ 2 รายการที่กำหนดให้ลบล้างได้ ดังนี้ zipcode และ units เจ้าของแหล่งข้อมูลอนุญาตให้แก้ไขได้เฉพาะ zipcode ในรายงาน ในรายงาน เครื่องมือแก้ไขรายงานจะมีตัวเลือกในการแก้ไข ค่าพารามิเตอร์ zipcode

การเปิดใช้ตัวเลือกการลบล้าง

อนุญาตให้ผู้ดูรายงานแก้ไขค่าพารามิเตอร์

ผู้แก้ไขรายงานจะควบคุมพารามิเตอร์ที่ผู้ดูรายงานแก้ไขได้ จากนั้นผู้ดูรายงานจะแก้ไขค่าพารามิเตอร์ผ่าน URL ของรายงานได้

ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาตัวเชื่อมต่อที่มีพารามิเตอร์ 2 รายการที่กำหนดเป็นลบล้างได้ ดังนี้ zipcode และ units (รูปที่ 1) หากเจ้าของแหล่งข้อมูลอนุญาตให้แก้ไข zipcodeในรายงาน (รูปที่ 2) ผู้แก้ไขรายงานจะอนุญาตให้ผู้ดูรายงานแก้ไขzipcodeได้เท่านั้น ผู้แก้ไข รายงานจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงหรือสิทธิ์ในการมองเห็นเพื่ออนุญาตให้ผู้ดูรายงานแก้ไขพารามิเตอร์ units

เปิดใช้พารามิเตอร์รหัสไปรษณีย์แล้ว
รูปที่ 1: การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่อ

แก้ไขได้เฉพาะพารามิเตอร์รหัสไปรษณีย์
รูปที่ 2: จัดการพารามิเตอร์

พารามิเตอร์ URL

หากต้องการอนุญาตให้ผู้ดูรายงานแก้ไขค่าพารามิเตอร์ผ่าน URL ของรายงาน ให้ทำดังนี้

  1. แก้ไขรายงาน
  2. เลือกแหล่งข้อมูล -> จัดการพารามิเตอร์รายงาน
  3. ใช้ช่องทําเครื่องหมายอนุญาตให้แก้ไขใน URL ของรายงานเพื่ออนุญาตหรือ ไม่อนุญาตให้แก้ไขค่าพารามิเตอร์ใน URL ของรายงาน ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ
  4. คลิกปิดที่ด้านขวาบน

การแก้ไขค่าพารามิเตอร์

เครื่องมือแก้ไขรายงานจะแก้ไขค่าพารามิเตอร์ได้โดยใช้แผงพร็อพเพอร์ตี้รายงาน ขณะที่ผู้ดูรายงานจะแก้ไขค่าพารามิเตอร์ได้ผ่าน URL ของรายงาน

แผงพร็อพเพอร์ตี้ของรายงาน

ดูวิธีที่ผู้แก้ไขรายงานสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ได้ที่ แก้ไขพารามิเตอร์ในรายงาน

พารามิเตอร์ของ URL รายงาน

สำหรับพารามิเตอร์ที่อนุญาตให้แก้ไขใน URL ของรายงาน คุณสามารถตั้งค่าได้ผ่านออบเจ็กต์ JSON ที่เข้ารหัส URL ซึ่งต่อท้าย URL ของรายงานในโหมดดู

วิธีสร้างการกำหนดค่า URL

  1. รวบรวมชื่อพารามิเตอร์

    1. แก้ไขรายงาน
    2. เลือกแหล่งข้อมูล -> จัดการพารามิเตอร์รายงาน
    3. จดชื่อพารามิเตอร์ที่คุณต้องการตั้งค่าผ่าน URL ของรายงาน

    เช่น ในรูปภาพด้านล่าง ชื่อพารามิเตอร์คือ ds0.zipcode

    การเปิดใช้พารามิเตอร์ URL

  2. สร้างออบเจ็กต์พารามิเตอร์

    พารามิเตอร์จะกำหนดผ่านออบเจ็กต์ JSON คีย์สำหรับค่าพารามิเตอร์ คือชื่อพารามิเตอร์

    {
      "parameterName": parameterValue
    }
    

    ประเภทค่าพารามิเตอร์คือ STRING, NUMBER หรือ BOOLEAN สำหรับ พารามิเตอร์ที่ยอมรับค่าหลายค่า (เช่น เมนูแบบเลื่อนลงแบบเลือกหลายรายการ) ให้ใช้อาร์เรย์ของค่า

    เช่น หากชื่อพารามิเตอร์คือ ds0.zipcode และต้องการตั้งค่ารหัสไปรษณีย์เป็น 94094 JSON จะเป็นดังนี้

    {
      "ds0.zipcode": "94094"
    }
    
  3. เข้ารหัส URL ของออบเจ็กต์พารามิเตอร์

    หลังจากสร้างออบเจ็กต์พารามิเตอร์แล้ว ให้ใช้ JSON.stringify() เพื่อเปลี่ยนออบเจ็กต์เป็นสตริง จากนั้นใช้ [encodeURIComponent] เพื่อเข้ารหัส URL

    var params = {
      "ds0.zipcode": "94094"
    };
    var paramsAsString = JSON.stringify(params);
    var encodedParams = encodeURIComponent(paramsAsString)
    

    ซึ่งจะส่งผลให้ได้สตริงที่เข้ารหัสดังนี้

    "%7B%22ds0.zipcode%22%3A%2294094%22%7D"
    
  4. สร้าง URL ของรายงาน

    เมื่อมีออบเจ็กต์พารามิเตอร์ที่เข้ารหัส URL แล้ว ให้ผนวกออบเจ็กต์ดังกล่าวเข้ากับ URL ของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานโดยใช้พารามิเตอร์การค้นหา params

    https://lookerstudio.google.com/reporting/REPORT_ID/page/PAGE_ID?params=%7B%22ds0.zipcode%22%3A%2294094%22%7D

    โปรดตรวจสอบว่าได้แทนที่ REPORT_ID และ PAGE_ID ด้วยค่าสำหรับรายงานและหน้าเว็บ

  5. ใช้ URL

    URL ของรายงานจะลบล้างพารามิเตอร์ตามที่กำหนดไว้ในออบเจ็กต์พารามิเตอร์ JSON โดยอิงตามการรับค่าพารามิเตอร์

ตัวอย่างออบเจ็กต์พารามิเตอร์

ออบเจ็กต์พารามิเตอร์ต่อไปนี้แสดงวิธีตั้งค่าพารามิเตอร์หลายรายการ นอกจากนี้ ยัง แสดงการตั้งค่าพารามิเตอร์สำหรับอินพุตประเภทต่างๆ ด้วย

  • ds0.includeToday เป็นอินพุตช่องทำเครื่องหมาย
  • ds0.units เป็นอินพุตแบบเลือกรายการเดียว
  • ds1.countries เป็นอินพุตแบบเลือกหลายรายการ
  • ds1.labelName คือการป้อนข้อความ
  {
    "ds0.includeToday": true,
    "ds0.units": "Metric",
    "ds1.countries": ["Canada", "Mexico"],
    "ds1.labelName": "Population"
  }

การรับช่วงพารามิเตอร์

ค่าที่ใช้สําหรับพารามิเตอร์จะเป็นไปตามลําดับความสําคัญตามตําแหน่งที่ตั้งค่า พารามิเตอร์ พารามิเตอร์ที่ตั้งค่าไว้ในตำแหน่งที่มีลำดับความสำคัญสูงกว่าจะลบล้าง พารามิเตอร์ที่ตั้งค่าไว้ในตำแหน่งที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า ลำดับความสำคัญ (จากต่ำสุดไปสูงสุด) มีดังนี้

  1. แหล่งข้อมูล (ค่าเริ่มต้น)
  2. รายงาน URL
  3. แผงพร็อพเพอร์ตี้รายงานตามกฎการสืบทอดพารามิเตอร์ของแหล่งข้อมูล