ประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง

หากแอปต้องการบันทึกข้อมูลที่ยังไม่ได้ครอบคลุมโดยข้อมูลประเภทใดประเภทหนึ่งที่มีอยู่แล้วในแพลตฟอร์ม Google Fit คุณสร้างประเภทข้อมูลที่กำหนดเองได้

การสร้างประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง

สร้างหรือระบุประเภทข้อมูลที่กำหนดเองเพื่อบันทึกข้อมูลที่กำหนดเอง เมื่อสร้างประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง โปรดตรวจสอบว่า

  • ชื่อประเภทข้อมูลแสดงถึงข้อมูลที่สำคัญอย่างถูกต้อง
  • คำนำหน้าของชื่อประเภทข้อมูลตรงกับชื่อแพ็กเกจของแอป

Android

หากต้องการสร้างประเภทข้อมูลที่กำหนดเองเป็นครั้งแรก ให้ใช้เมธอด ConfigClient.createCustomDataType ดังนี้

val request = DataTypeCreateRequest.Builder()
    // The prefix of your data type name must match your app's package name
    .setName("com.packagename.appname.custom_data_type") // Add some custom fields, both int and float
    .addField("field1", Field.FORMAT_INT32)
    .addField("field2", Field.FORMAT_FLOAT)
    // Add some common fields
    .addField(Field.FIELD_ACTIVITY)
    .build()

Fitness.getConfigClient(this, account)
    .createCustomDataType(request)
    .addOnSuccessListener { dataType ->
        // Use this custom data type to insert data into your app.
        Log.d(TAG, "Created data type: ${dataType.name}")
    }

REST

ประเภทข้อมูลเป็นพร็อพเพอร์ตี้ของแหล่งข้อมูลใน REST API หากต้องการบันทึกข้อมูลที่กำหนดเอง คุณต้องสร้างแหล่งข้อมูลแล้วระบุประเภทข้อมูลดังนี้

  1. เรียกใช้ REST API เพื่อสร้างแหล่งข้อมูลใหม่ เช่น FlexibilityMeasure
  2. ตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำให้กับประเภทข้อมูล ซึ่งแสดงถึงข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้อย่างใกล้ชิด

  3. ระบุช่องของประเภทข้อมูลและรูปแบบ

เมธอด HTTP

POST

URL คำขอ

https://www.googleapis.com/fitness/v1/users/me/dataSources

เนื้อความของคำขอ

{
  "dataStreamName": "FlexibilityMeasure",
  "type": "raw",
  "application": {
    "detailsUrl": "http://recoveryapps.com",
    "name": "Stretch Flex",
    "version": "1"
  },
  "dataType": {
    "name": "com.recoveryapps.stretchflex.flexibility",
    "field": [
     {
      "name": "ankle_range_degrees",
      "format": "integer"
     },
     {
      "name": "wrist_range_degrees",
      "format": "integer",
      "optional": true
     }
    ]
   }
}

คำตอบ

หากสร้างแหล่งข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับรหัสสถานะการตอบกลับ HTTP 200 OK ส่วนเนื้อหาของการตอบกลับจะแสดงรูปแบบ JSON ของแหล่งข้อมูล รวมถึงพร็อพเพอร์ตี้ datasource.dataStreamId ใช้รหัสนี้เป็น dataSourceId เพื่อเพิ่มข้อมูล

การใช้ประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง

Android

แปลงชื่อของประเภทข้อมูลที่กำหนดเองจากสตริง (com.packagename.appname.custom_data_type) เป็นออบเจ็กต์ DataType โดยใช้เมธอด ConfigClient.readDataType ใช้ออบเจ็กต์ที่แสดงผลเพื่อแทรกและอ่านข้อมูลที่กำหนดเอง

Fitness.getConfigClient(this, account)
    .readDataType("com.packagename.appname.custom_data_type")
    .addOnSuccessListener { dataType ->
        // Use this custom data type to insert data into your app.
        Log.d(TAG, "Retrieved data type: ${dataType.name}")
    }

REST

หากต้องการเพิ่มหรืออ่านข้อมูลที่กำหนดเองโดยใช้ประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง คุณจะต้องมีแหล่งข้อมูลของประเภทนั้นๆ หากต้องการตรวจสอบแหล่งข้อมูลของประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง ให้ส่งคำขอ GET ไปยัง REST API

การเพิ่มข้อมูลที่กำหนดเอง

หากต้องการแทรกข้อมูลที่กำหนดเอง ให้สร้างชุดข้อมูลที่มีจุดข้อมูลใหม่ ระบุแหล่งข้อมูลที่คุณสร้างสำหรับประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง จุดข้อมูลต้องมีช่องและรูปแบบที่ถูกต้องทั้งหมดที่ระบุไว้ในประเภทข้อมูลที่กำหนดเอง

การอ่านข้อมูลที่กำหนดเอง

หากต้องการอ่านข้อมูลที่กำหนดเอง ให้ระบุแหล่งข้อมูลที่คุณสร้างสำหรับประเภทข้อมูลที่กำหนดเองเมื่อดึงจุดข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Google Fit