วัด Conversion และเหตุการณ์สําคัญ

Conversion คือการกระทําของลูกค้าที่สําคัญต่อธุรกิจ เช่น การซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ คุณสามารถใช้การวัด Conversion เพื่อดูว่าการโต้ตอบกับโฆษณานําไปสู่กิจกรรมของลูกค้าที่มีคุณค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด

วัด Conversion ด้วย Google Ads

การวัด Conversion ช่วยแสดงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลูกค้าโต้ตอบกับโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์ ลงชื่อสมัครรับจดหมายข่าว โทรหาธุรกิจ หรือดาวน์โหลดแอป

gtag.jsTag Manager
  1. สร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ก่อนที่จะตั้งค่าการวัด Conversion ใน Google Ads
  2. ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกตัวเลือกที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุดในส่วนแท็ก Google แล้วทําตามวิธีการติดตั้งแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งแท็ก Google
  3. (ไม่บังคับ) แก้ไขแท็ก Google ตามที่ต้องการ ดังนี้

    • หากไม่ต้องการให้แท็ก Google เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้งในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ให้เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ลงในคำสั่ง 'config' ของแท็ก Google

      gtag('config', 'TAG_ID', {'send_page_view': false});
    • หากไม่ต้องการรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้ง ให้เพิ่มคำสั่ง gtag('set') ต่อไปนี้ลงในแท็ก Google เหนือคำสั่ง gtag('js') วิธีนี้จะปิดใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งสําหรับบัญชี Google Ads ที่กำหนดค่าไว้ทั้งหมด

      <script async
      src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG_ID"></script>
      <script>
      window
      .dataLayer = window.dataLayer || [];
      function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
      gtag('set', 'allow_ad_personalization_signals', false);
      gtag
      ('js', new Date());
      gtag
      ('config', 'TAG_ID');
      </script>
  4. ข้าง "ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์" ให้เลือกว่าจะวัด Conversion ในการโหลดหน้าเว็บหรือคลิก

    • การโหลดหน้าเว็บ: นับ Conversion เมื่อลูกค้าไปที่หน้า Conversion เช่น หน้ายืนยันการซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ นี่คือตัวเลือกเริ่มต้นและใช้บ่อยที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของ Google
    • คลิก: นับ Conversion เมื่อลูกค้าคลิกปุ่มหรือลิงก์ (เช่น ปุ่ม "ซื้อเลย")
  5. คัดลอกข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ จากนั้นทำตามวิธีการเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในเว็บไซต์ หรือคลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดไว้เพิ่มภายหลัง

    • หากคุณวัด Conversion ตามการโหลดหน้าเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บ
    • หากคุณวัด Conversion ตามการคลิก ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่มีปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการตรวจสอบการคลิก

    ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ของ Google Ads ใช้ gtag('event', 'conversion', ...) เพื่อทำเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion เหตุการณ์ Conversion จะส่งออบเจ็กต์ที่มีพารามิเตอร์ send_to, value และ currency ดูตัวอย่างด้านล่างนี้

    <script>
     gtag
    ('event', 'conversion', {
       
    'send_to': 'AW-123456789/AbC-D_efG-h12_34-567',
       
    'value': 1.0,
       
    'currency': 'USD'
     
    });
    </script>
  6. คลิกถัดไป แล้วคลิกเสร็จสิ้น

  7. หากคุณวัดการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion ให้ทําตามวิธีการเหล่านี้เพื่อเพิ่มโค้ดอีกส่วนหนึ่งลงในปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการวัด ขั้นตอนนี้จําเป็นต่อการวัด Conversion

  1. สร้างแท็ก Google Ads ใน Tag Manager จากหน้าจอหลัก ให้เลือกแท็กใหม่ > การกําหนดค่าแท็ก > เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
  2. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads เพื่อดูค่าทั้งหมดที่คุณจะใช้เพื่อตั้งค่าแท็กให้สมบูรณ์
    1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกเครื่องมือและการตั้งค่า ()
    2. เลือกการวัด: Conversion ซึ่งจะเปิดไปที่ตารางการกระทําที่ถือเป็น Conversion
    3. เลือกชื่อ Conversion ที่ต้องการใช้จากคอลัมน์การกระทําที่ถือเป็น Conversion
    4. ขยายแท็บสำหรับการตั้งค่าแท็กเพื่อดูรายละเอียดแท็ก
    5. เลือกใช้ Google Tag Manager
    6. คัดลอกรหัสแท็กและป้ายกํากับ Conversion
    7. เพิ่มค่ารหัสแท็กและป้ายกํากับ Conversion ที่จําเป็นลงในช่องที่กําหนด หรือคุณจะเพิ่มมูลค่า Conversion, รหัสคำสั่งซื้อ และรหัสสกุลเงินก็ได้เช่นกัน (ไม่บังคับ) อย่าลืมใช้ตัวแปร Tag Manager กับค่าของช่องเหล่านี้เมื่อจำเป็น เช่น ในกรณีส่วนใหญ่จะใช้ตัวแปรสำหรับรหัสคำสั่งซื้อ
  3. เลือกทริกเกอร์อย่างน้อย 1 รายการในส่วนการทริกเกอร์เพื่อระบุว่าแท็กควรเริ่มทํางานเมื่อใด
  4. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
  5. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  6. ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง และเผยแพร่เมื่อพร้อม

วัดเหตุการณ์สําคัญด้วย Google Analytics 4

หากต้องการตั้งค่าการวัดเหตุการณ์สําคัญด้วยพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ให้ทําดังนี้

gtag.jsTag Manager
  1. ส่งเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* ระบบจะรวบรวมเหตุการณ์หลายประเภทโดยอัตโนมัติ)*

    gtag('event', 'login', {
     
    'method': 'Google'
    });
  2. ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ

  1. ตั้งค่าแท็กเหตุการณ์ GA4 เพื่อส่งประเภทเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* ระบบจะรวบรวมเหตุการณ์หลายประเภทโดยอัตโนมัติ)* เหตุการณ์สําคัญ (หมายเหตุ:* ระบบจะรวบรวมเหตุการณ์หลายประเภทโดยอัตโนมัติ)*
  2. ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ

วัด Conversion ด้วย Display & Video 360 และ Campaign Manager 360

ระบบจะวัด Conversion ใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 ด้วยแท็ก Floodlight แท็กตัวนับ Floodlight ใช้สำหรับนับจํานวนครั้งที่ผู้ใช้เข้าชมหน้าเว็บใดหน้าหนึ่งหลังจากดูหรือคลิกโฆษณา และแท็กยอดขาย Floodlight ใช้เพื่อวัดจํานวนและความคุ้มค่าของการซื้อ หากต้องการตั้งค่าการวัด Conversion ด้วยแท็ก Floodlight ให้เลือกตัวเลือกด้านล่าง

คุณอาจคัดลอกแท็ก Floodlight ได้จากภายใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 การติดตั้งแต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับแท็ก Google มาตรฐานเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ และแท็กเหตุการณ์ที่รวบรวมข้อมูลที่คุณต้องการ ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ติดตั้งแท็ก Google แทนที่ DC-XXXXXX ในตัวอย่างนี้ด้วยรหัสการกําหนดค่าที่ถูกต้อง หรือคัดลอกแท็กจากภายในผลิตภัณฑ์

    <!-- Google tag (gtag.js) -->
    <script async src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=DC-XXXXXX"></script>
    <script>
     window
    .dataLayer = window.dataLayer || [];
     
    function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
     gtag
    ('js', new Date());

     gtag
    ('config', 'DC-XXXXXX');
    </script>
  2. ส่งเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion ด้วย gtag('event', ...)

    แท็กเหตุการณ์ควรวางไว้ในหน้าเว็บซึ่งมีเหตุการณ์ที่คุณต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion วางแท็กเหตุการณ์ไว้หลังข้อมูลโค้ดที่ติดทั่วเว็บไซต์ภายในส่วน <head>

    ช่องในข้อมูลโค้ดเหตุการณ์จะแตกต่างกันไปตามประเภทแท็ก วิธีนับ และข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งไปยังแท็ก

    คุณคัดลอกแท็กกิจกรรมได้จากภายในผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างแสดงอยู่ด้านล่าง

    <script>
      gtag
    ('event', 'conversion', {
       
    'allow_custom_scripts': true,
       
    'u1': '[variable]',
       
    'send_to': 'DC-[floodlightConfigID]/[activityGroupTagString]/[activityTagString]+[countingMethod]'
     
    });
    </script>
    <noscript>
    <img src="https://ad.doubleclick.net/ddm/activity/src=[floodlightConfigID];type=[activityGroupTagString];cat=[activityTagString];dc_lat=;dc_rdid=;tag_for_child_directed_treatment=;ord=1?" width="1" height="1" alt=""/>
    </noscript>

การเพิ่มแท็กตัวนับ Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์ทำได้ 2 วิธี ดังนี้

  • ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360
  • ใช้เทมเพลตแท็กตัวนับ Floodlight

ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมา

คุณสามารถพุชแท็กตัวนับ Floodlight จากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360 ไปยังคอนเทนเนอร์ได้โดยตรง เมื่อพุชแท็ก Floodlight ไปยัง Tag Manager คุณจะต้องอนุมัติคำขอลิงก์และแท็กที่พุชมา

วิธียอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมา

  1. ไปที่คิวการอนุมัติ > แท็ก
  2. คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางตัว (เช่น ค่าของ "src= ", "type= " และ "cat= ") จะได้รับการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า
  3. ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามต้องการในแท็ก แล้วคลิกอนุมัติ
  4. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  5. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง

ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคีย์-ค่าที่ใช้เพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่คุณรวบรวมได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ u1=, u2= ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปร Tag Manager ให้ล่วงหน้าในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง หากต้องการกำหนดค่าตัวแปรเหล่านี้ให้ส่งข้อมูลที่เหมาะสม ให้แมปเข้ากับตัวแปร Tag Manager

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุมัติของ Floodlight

สร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่

วิธีสร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง

  1. ใน Tag Manager ให้คลิกแท็ก > ใหม่
  2. คลิกการกําหนดค่าแท็ก แล้วเลือกประเภทแท็กตัวนับ Floodlight
  3. หากต้องการรวบรวมค่าที่จําเป็นต่อการกําหนดค่าแท็ก ให้เปิดเบราว์เซอร์อีกหน้าต่างหนึ่ง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าเหล่านี้ในแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่ของ Tag Manager
    • รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อของผู้ลงโฆษณา ค่านี้ยังพบเป็นค่า src= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกลุ่ม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า type= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกิจกรรม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า cat= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
  4. ตั้งค่าวิธีการนับที่ต้องการ ดังนี้
    • มาตรฐาน: นับทุก Conversion
    • ไม่ซ้ำ: นับ Conversion แรกของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละรายในช่วง 24 ชม. ของแต่ละวัน ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเที่ยงคืน ตามเวลาตะวันออก (สหรัฐอเมริกา)
    • ต่อเซสชัน: นับ 1 Conversion ต่อผู้ใช้ต่อเซสชัน ระยะเวลาในเซสชันจะกำหนดโดยเว็บไซต์ซึ่งมีการใช้แท็ก Floodlight อยู่
  5. ป้อนค่าสําหรับตัวแปร U และ Tran หากเป็นการติดตั้งใช้งานแบบเดิมที่ใช้ตัวแปรเหล่านี้
  6. ป้อนตัวแปรที่กำหนดเองที่คุณจำเป็นต้องใช้กับการติดตั้งใช้งาน ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้ได้ โดยจะมีการจัดรูปแบบคีย์เป็น "u1=", "u2=" ฯลฯ คลิก +ตัวแปรที่กำหนดเองเพื่อเพิ่มคู่คีย์-ค่าใหม่ สําหรับตัวแปรที่กําหนดเองแต่ละรายการ ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ซึ่งมีค่าที่คุณต้องการส่งไปยังตัวแปรที่กําหนดเองของ Floodlight
  7. คลิกการทริกเกอร์ แล้วเลือกทริกเกอร์ที่ตรงกับหน้า Landing Page สำหรับแคมเปญที่คุณต้องการให้แท็กเริ่มทำงาน
  8. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  9. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง

การเพิ่มแท็กยอดขาย Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์ทำได้ 2 วิธีดังนี้

  • ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Campaign Manager 360
  • ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight

ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมาจาก Campaign Manager 360

คุณสามารถเพิ่มแท็ก Floodlight ที่พุชจาก Campaign Manager 360 ลงในคอนเทนเนอร์ Tag Manager ได้โดยตรง หากต้องการอนุญาต ให้อนุมัติคําขอลิงก์และแท็กที่พุชเข้ามา

  1. ไปที่ผู้ดูแลระบบ > คิวการอนุมัติ > แท็ก
  2. คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางตัว (เช่น ค่าของ src=, type= และ cat=) จะมีการกำหนดไว้ล่วงหน้า
  3. ค่าพารามิเตอร์รายได้จะมาจากตัวแปร Tag Manager cost สร้างและกำหนดค่าตัวแปร cost ที่ดึงจำนวนเงินรายได้ หากมีตัวแปรที่บันทึกรายได้จากธุรกรรมอยู่แล้ว ให้เปลี่ยน cost เป็นชื่อตัวแปรนั้น
  4. ค่าพารามิเตอร์รหัสคำสั่งซื้อจะมาจากตัวแปร Tag Manager &lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; สร้างและกำหนดค่าตัวแปร &lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; ที่ดึงรหัสคำสั่งซื้อ (หรือหากใช้วิธีการนับตามสินค้าที่ขาย ให้กําหนดค่าตัวแปรนี้เป็นการนับจํานวนสินค้าที่ขาย) หากมีตัวแปรที่บันทึกรหัสคำสั่งซื้ออยู่แล้ว ให้เปลี่ยน &lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; เป็นชื่อตัวแปรนั้น
  5. ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight คือคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ _u1=, _u2= ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปรให้ในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง จับคู่ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองเหล่านี้กับตัวแปรเครื่องจัดการแท็กเพื่อให้ส่งค่าของตัวแปรไปยังแท็ก Floodlight ได้
  6. แก้ไขแท็ก Floodlight ตามต้องการ แล้วคลิกอนุมัติ
  7. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  8. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง

อ่านการอนุมัติเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight

วิธีสร้างแท็กยอดขาย Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง

  1. คลิกแท็ก > ใหม่
  2. คลิกการกําหนดค่าแท็ก > ยอดขาย Floodlight
  3. หากต้องการรวบรวมค่าที่จําเป็นต่อการกําหนดค่าแท็ก ให้เปิดเบราว์เซอร์อีกหน้าต่างหนึ่ง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าต่อไปนี้ในแท็กยอดขาย Floodlight ใหม่ของ Tag Manager
    • รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อของผู้ลงโฆษณา ค่านี้ยังพบเป็นค่า src= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกลุ่ม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า type= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกิจกรรม: ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งานในตารางกิจกรรม และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา ค่านี้ยังพบเป็นค่า cat= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
  4. สำหรับรายได้ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บจำนวนเงินรายได้ สําหรับรหัสคําสั่งซื้อ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บรหัสคําสั่งซื้อ หากใช้วิธีการนับตามสินค้าที่ขาย ให้เลือกตัวแปรที่เก็บการนับจํานวนสินค้าที่ขาย สร้างตัวแปรเหล่านี้ใน Tag Manager หากยังไม่มี
  5. ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight คือคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองจะใช้คีย์ _u1=, _u2= ฯลฯ สำหรับตัวแปรที่กำหนดเองแต่ละตัว ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ที่มีค่าที่คุณต้องการส่งต่อไปให้ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight
  6. เลือกทริกเกอร์ที่ตรงกับเหตุการณ์การซื้อ หรือสร้างทริกเกอร์ใหม่หากไม่ได้มีอยู่แล้ว คุณจะสร้างทริกเกอร์ได้ด้วยวิธีต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ เป้าหมาย และการติดตั้งใช้งาน Tag Manager ตัวอย่างเช่น ทริกเกอร์การดูหน้าเว็บมักใช้เพื่อช่วยเริ่มทํางานของแท็กในหน้ายืนยันการซื้อ สำหรับตัวกรองทริกเกอร์ ให้เพิ่ม URL ของหน้ายืนยันการซื้อ หรือใช้ชั้นข้อมูลเพื่อพุชเหตุการณ์ที่กําหนดเอง (dataLayer.push({ 'event': 'purchase' });) และตั้งค่าทริกเกอร์เป็นทริกเกอร์เหตุการณ์ที่กําหนดเองโดยตั้งค่าเงื่อนไขของเหตุการณ์เป็น "purchase"
  7. เมื่อป้อนข้อมูลแท็กเสร็จแล้ว คลิกบันทึก
  8. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  9. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัดแท็ก Google สําหรับ Display & Video 360 และ Campaign Manager 360