วัด Conversion

Conversion คือการกระทําของลูกค้าที่สําคัญต่อธุรกิจ เช่น การซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ คุณสามารถใช้การวัด Conversion เพื่อดูว่าการโต้ตอบกับโฆษณานำไปสู่กิจกรรมของลูกค้าที่มีคุณค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด

วัด Conversion ด้วย Google Ads

การวัด Conversion จะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากลูกค้าโต้ตอบกับโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์ ลงชื่อสมัครรับจดหมายข่าว โทรหาธุรกิจ หรือดาวน์โหลดแอป

gtag.js

  1. สร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion ก่อนตั้งค่าการวัด Conversion ใน Google Ads
  2. ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกตัวเลือกที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณที่สุดในส่วนแท็ก Google และทำตามวิธีการติดตั้งแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งแท็ก Google
  3. (ไม่บังคับ) แก้ไขแท็ก Google ตามที่ต้องการ ดังนี้

    • หากไม่ต้องการให้แท็ก Google เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้งในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ให้เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ลงในคำสั่ง 'config' ในแท็ก Google

      gtag('config', 'TAG_ID', {'send_page_view': false});
      
    • หากไม่ต้องการรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้ง ให้เพิ่มคำสั่ง gtag('set') ต่อไปนี้ลงในแท็ก Google เหนือคำสั่ง gtag('js') วิธีนี้จะปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับบัญชี Google Ads ที่กำหนดค่าทั้งหมด

      <script async
      src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG_ID"></script>
      <script>
      window.dataLayer = window.dataLayer || [];
      function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
      gtag('set', 'allow_ad_personalization_signals', false);
      gtag('js', new Date());
      gtag('config', 'TAG_ID');
      </script>
      
  4. ข้าง "ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์" ให้เลือกว่าจะวัด Conversion ในการโหลดหน้าเว็บหรือคลิก

    • การโหลดหน้าเว็บ: นับ Conversion เมื่อลูกค้าเข้าชมหน้า Conversion เช่น หน้ายืนยันการซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ นี่คือตัวเลือกเริ่มต้นและใช้บ่อยที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของ Google
    • คลิก: นับ Conversion เมื่อลูกค้าคลิกปุ่มหรือลิงก์ (เช่น ปุ่ม "ซื้อเลย")
  5. คัดลอกข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ จากนั้นทำตามวิธีการเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในเว็บไซต์ หรือคลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดไว้เพิ่มภายหลัง

    • หากคุณวัด Conversion ตามการโหลดหน้าเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บ
    • หากคุณวัด Conversion ตามการคลิก ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่มีปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการตรวจสอบจำนวนคลิก

    ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ของ Google Ads ใช้ gtag('event', 'conversion', ...) เพื่อทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion เหตุการณ์ Conversion จะส่งออบเจ็กต์ที่มีพารามิเตอร์ send_to, value และ currency ดูตัวอย่างด้านล่างนี้

    <script>
     gtag('event', 'conversion', {
       'send_to': 'AW-123456789/AbC-D_efG-h12_34-567',
       'value': 1.0,
       'currency': 'USD'
     });
    </script>
    
  6. คลิกถัดไป แล้วคลิกเสร็จสิ้น

  7. หากคุณวัดการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion ให้ทำตามวิธีการเหล่านี้ เพื่อเพิ่มโค้ดส่วนเพิ่มเติมลงในปุ่มหรือลิงก์ที่ต้องการวัด ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อให้การวัด Conversion ทำงานได้

Tag Manager

  1. ใน Tag Manager ให้สร้างแท็ก Google Ads จากหน้าจอหลัก ให้เลือก แท็กใหม่ > การกำหนดค่าแท็ก > เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
  2. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads เพื่อดูค่าที่คุณจะใช้เพื่อตั้งค่าแท็กให้สมบูรณ์
    1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกเครื่องมือและการตั้งค่า ()
    2. เลือกการวัด: Conversion ซึ่งจะเปิดไปที่ตารางการกระทําที่ถือเป็น Conversion
    3. เลือกชื่อ Conversion ที่ต้องการใช้จากคอลัมน์การกระทำที่ถือเป็น Conversion
    4. ขยายแท็บสำหรับการตั้งค่าแท็กเพื่อดูรายละเอียดแท็ก
    5. เลือกใช้ Google Tag Manager
    6. คัดลอกรหัสแท็กและป้ายกํากับ Conversion
    7. เพิ่มรหัสแท็กและค่าป้ายกำกับ Conversion ที่จำเป็นลงในช่องที่กำหนด และคุณยังสามารถเพิ่มมูลค่า Conversion, รหัสคำสั่งซื้อ และรหัสสกุลเงินได้อีกด้วย อย่าลืมใช้ตัวแปรเครื่องจัดการแท็กกับค่าของช่องเหล่านี้ เมื่อใดก็ตามที่เกี่ยวข้อง เช่น ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ตัวแปร สำหรับรหัสคำสั่งซื้อ
  3. เลือกทริกเกอร์อย่างน้อย 1 รายการในส่วนการทริกเกอร์เพื่อระบุว่าแท็กควรเริ่มทำงานเมื่อใด
  4. บันทึกและนำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริง
  5. ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  6. ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง และpublishเมื่อพร้อม

วัด Conversion ด้วย Google Analytics 4

หากต้องการตั้งค่าการวัด Conversion ด้วยพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ให้ทําดังนี้

gtag.js

  1. ส่งเหตุการณ์ที่ต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion (หมายเหตุ: เหตุการณ์หลายประเภทจะได้รับการรวบรวมโดยอัตโนมัติ)

    gtag('event', 'login', {
      'method': 'Google'
    });
    
  2. ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion

Tag Manager

  1. ตั้งค่าแท็กเหตุการณ์ GA4 เพื่อส่งประเภทเหตุการณ์ที่คุณต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion (หมายเหตุ: เหตุการณ์หลายประเภทจะได้รับการรวบรวมโดยอัตโนมัติ)
  2. ใน Google Analytics ให้ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็น Conversion
ได้

วัด Conversion ด้วย Display & Video 360 และ Campaign Manager 360

ระบบจะวัด Conversion ใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 โดยใช้แท็ก Floodlight แท็กตัวนับ Floodlight ใช้ในการนับจำนวนครั้งที่ผู้ใช้เข้าชมหน้าเว็บใดหน้าเว็บหนึ่งหลังจากดูหรือคลิกโฆษณา และใช้แท็กยอดขาย Floodlight เพื่อวัดจำนวนและมูลค่าของการซื้อ หากต้องการตั้งค่าการวัด Conversion ด้วยแท็ก Floodlight ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้

gtag.js

คุณอาจคัดลอกแท็ก Floodlight จากใน Display & Video 360 และ Campaign Manager 360 การติดตั้งแต่ละครั้งใช้แท็ก Google มาตรฐานเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อข้อมูลกับผลิตภัณฑ์ และแท็กเหตุการณ์ที่รวบรวมข้อมูลที่ต้องการ ขั้นตอนมีดังนี้

  1. ติดตั้งแท็ก Google แทนที่ DC-XXXXXX ในตัวอย่างนี้ด้วยรหัสการกำหนดค่าที่ถูกต้อง หรือคัดลอกแท็กจากภายในผลิตภัณฑ์ของคุณ

    <!-- Google tag (gtag.js) -->
    <script async src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=DC-XXXXXX"></script>
    <script>
     window.dataLayer = window.dataLayer || [];
     function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
     gtag('js', new Date());
    
     gtag('config', 'DC-XXXXXX');
    </script>
    
  2. ส่งเหตุการณ์ที่คุณต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion ด้วย gtag('event', ...)

    ควรวางแท็กเหตุการณ์ในหน้าเว็บที่มีเหตุการณ์ที่คุณต้องการทําเครื่องหมายเป็น Conversion วางแท็กเหตุการณ์ไว้หลังข้อมูลโค้ดที่ติดทั่วเว็บไซต์ภายในส่วน <head>

    ช่องในข้อมูลโค้ดเหตุการณ์จะแตกต่างกันไปตามประเภทแท็ก วิธีการนับ และข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งไปยังแท็ก

    คุณคัดลอกแท็กเหตุการณ์ได้จากในผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างด้านล่าง

    <script>
      gtag('event', 'conversion', {
        'allow_custom_scripts': true,
        'u1': '[variable]',
        'send_to': 'DC-[floodlightConfigID]/[activityGroupTagString]/[activityTagString]+[countingMethod]'
      });
    </script>
    <noscript>
    <img src="https://ad.doubleclick.net/ddm/activity/src=[floodlightConfigID];type=[activityGroupTagString];cat=[activityTagString];dc_lat=;dc_rdid=;tag_for_child_directed_treatment=;ord=1?" width="1" height="1" alt=""/>
    </noscript>
    

Tag Manager (ตัวนับ)

การเพิ่มแท็กตัวนับ Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์มี 2 วิธีดังนี้

  • ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ Campaign Manager 360
  • ใช้เทมเพลตแท็กตัวนับ Floodlight

ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชเข้ามา

คุณจะพุชแท็กตัวนับ Floodlight จากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ Campaign Manager 360 ไปยังคอนเทนเนอร์ได้โดยตรง ทั้งนี้เมื่อพุชแท็ก Floodlight ไปยังเครื่องจัดการแท็ก คุณจะต้องอนุมัติคำขอลิงก์และแท็กที่พุชมา

วิธียอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชเข้ามา

  1. ไปที่คิวการอนุมัติ > แท็ก
  2. คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางอย่าง (เช่น ค่าของ "src= ", "type= " และ "cat= ") จะได้รับการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า
  3. ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามต้องการในแท็ก แล้วคลิกอนุมัติ
  4. ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  5. บันทึกและpublish

ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคีย์-ค่าที่สามารถใช้เพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่คุณรวบรวม ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ u1=, u2= ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปร Tag Manager ล่วงหน้าในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง หากต้องการกำหนดค่าตัวแปรเหล่านี้ให้ส่งข้อมูลที่เหมาะสม ให้แมปกับตัวแปร Tag Manager

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุมัติของ Floodlight

สร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่

วิธีสร้างแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง

  1. ใน Tag Manager ให้คลิกแท็ก > ใหม่
  2. คลิกการกำหนดค่าแท็ก และเลือกประเภทแท็กตัวนับ Floodlight
  3. หากต้องการรวบรวมค่าที่จำเป็นสำหรับการกำหนดค่าแท็ก ให้เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์อีกหน้าต่าง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อของผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าเหล่านี้ ในแท็กตัวนับ Floodlight ใหม่ของ Tag Manager
    • รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อผู้ลงโฆษณา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า src= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกลุ่ม: ในตารางกิจกรรม ให้ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งาน และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า type= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกิจกรรม: ในตารางกิจกรรม ให้ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งาน และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า cat= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
  4. ตั้งค่าวิธีการนับที่ต้องการ ดังนี้
    • มาตรฐาน: นับทุก Conversion
    • ไม่ซ้ำ: นับ Conversion แรกของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละรายในช่วง 24 ชม. ของแต่ละวัน ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเที่ยงคืน ตามเวลาตะวันออก (สหรัฐฯ)
    • ต่อเซสชัน: นับ 1 Conversion ต่อผู้ใช้ต่อเซสชัน ระยะเวลาเซสชันจะกำหนดโดยเว็บไซต์ซึ่งมีการใช้แท็ก Floodlight อยู่
  5. ป้อนค่าสําหรับตัวแปร U และ Tran สําหรับการติดตั้งใช้งานแบบเดิมที่ใช้ตัวแปรเหล่านี้
  6. ป้อนตัวแปรที่กำหนดเองที่คุณจำเป็นต้องใช้กับการติดตั้งใช้งาน ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้ได้ โดยจะมีการจัดรูปแบบคีย์เป็น "u1=", "u2=" ฯลฯ คลิก +ตัวแปรที่กำหนดเองเพื่อเพิ่มคู่คีย์-ค่าใหม่ สำหรับตัวแปรที่กำหนดเองแต่ละรายการ ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ที่มีค่าที่คุณต้องการส่งต่อไปยังตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight
  7. คลิกการทริกเกอร์ และเลือกทริกเกอร์ที่ตรงกับหน้า Landing Page สำหรับแคมเปญที่คุณต้องการให้แท็กเริ่มทำงาน
  8. ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  9. บันทึกและpublish

Tag Manager (ยอดขาย)

การเพิ่มแท็กยอดขาย Floodlight ลงในคอนเทนเนอร์มี 2 วิธีดังนี้

  • ยอมรับแท็กที่พุชมาจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ Campaign Manager 360
  • ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight

ยอมรับแท็ก Floodlight ที่พุชมาจาก Campaign Manager 360

คุณสามารถเพิ่มแท็ก Floodlight ที่ส่งมาจาก Campaign Manager 360 ลงในคอนเทนเนอร์ Tag Manager ได้โดยตรง ซึ่งทำได้โดยการอนุมัติคำขอลิงก์และแท็กที่พุชมา ดังนี้

  1. ไปที่ผู้ดูแลระบบ > คิวการอนุมัติ > แท็ก
  2. คลิกชื่อกิจกรรม พารามิเตอร์บางอย่าง (เช่น ค่าของ src=, type= และ cat=) จะได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้า
  3. ค่าพารามิเตอร์รายได้จะได้รับการเติมด้วย cost ตัวแปร Tag Manager สร้างและกำหนดค่าตัวแปร cost ที่ดึงจำนวนเงินรายได้ หากคุณได้สร้างตัวแปรที่บันทึกรายได้จากธุรกรรมอยู่แล้ว ให้เปลี่ยน cost เป็นชื่อตัวแปรนั้น
  4. ค่าพารามิเตอร์รหัสคำสั่งซื้อจะได้รับการเติมด้วยตัวแปร&lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; Tag Manager สร้างและกำหนดค่าตัวแปร &lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; ที่ดึงรหัสคำสั่งซื้อ (หรือหากใช้สินค้าที่ขาย ให้กำหนดค่าตัวแปรนี้เป็นการนับจำนวนสินค้าที่ขาย) หากคุณมีตัวแปรที่บันทึกรหัสคำสั่งซื้ออยู่แล้ว ให้เปลี่ยน &lbrace;&lbrace;ord&rbrace;&rbrace; เป็นชื่อของตัวแปรนั้นๆ
  5. ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคู่คีย์-ค่าที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ _u1=, _u2= ฯลฯ สำหรับแท็กที่พุชเข้ามา ระบบจะเติมชื่อตัวแปรในช่องตัวแปรที่กำหนดเอง แมปตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองเหล่านี้กับตัวแปรเครื่องจัดการแท็กเพื่อให้ส่งค่าของตัวแปรไปยังแท็ก Floodlight ได้
  6. แก้ไขแท็ก Floodlight ตามต้องการ แล้วคลิกอนุมัติ
  7. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  8. บันทึกและpublish

อ่านการอนุมัติเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ใช้เทมเพลตแท็กยอดขาย Floodlight

วิธีตั้งค่าแท็กยอดขาย Floodlight ใหม่ด้วยตนเอง

  1. คลิกแท็ก > ใหม่
  2. คลิกการกําหนดค่าแท็ก > ยอดขาย Floodlight
  3. หากต้องการรวบรวมค่าที่จำเป็นสำหรับการกำหนดค่าแท็ก ให้เปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์อีกหน้าต่าง แล้วลงชื่อเข้าใช้ Campaign Manager 360 คลิกผู้ลงโฆษณา แล้วคลิกชื่อของผู้ลงโฆษณา ป้อนค่าเหล่านี้ในแท็ก Tag Manager Floodlight Sales ใหม่
    • รหัสผู้ลงโฆษณา: รหัสผู้ลงโฆษณาจะปรากฏในหน้ารายละเอียดผู้ลงโฆษณาด้านล่างชื่อผู้ลงโฆษณา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า src= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกลุ่ม: ในตารางกิจกรรม ให้ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งาน และค้นหาสตริงแท็กกลุ่มที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า type= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
    • สตริงแท็กกิจกรรม: ในตารางกิจกรรม ให้ระบุกิจกรรมที่คุณต้องการใช้งาน และค้นหาสตริงแท็กกิจกรรมที่แสดงในคอลัมน์ทางด้านขวา นอกจากนี้ค่านี้ยังพบเป็นค่า cat= ในแท็ก Floodlight ที่สร้างขึ้นอีกด้วย
  4. สำหรับรายได้ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บจำนวนเงินรายได้ สําหรับรหัสคําสั่งซื้อ ให้เลือกตัวแปรที่เก็บรหัสคําสั่งซื้อ หากคุณได้เลือกสินค้าที่ขายเป็นวิธีการนับ ให้เลือกตัวแปรที่มีการนับจํานวนสินค้าที่ขาย สร้างตัวแปรเหล่านี้ใน เครื่องจัดการแท็กหากยังไม่มี
  5. ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight เป็นคู่คีย์-ค่าที่ใช้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ใช้ได้ ตัวแปร Floodlight ที่กำหนดเองใช้คีย์ _u1=, _u2= ฯลฯ สำหรับตัวแปรที่กำหนดเองแต่ละรายการ ให้เลือกตัวแปร Tag Manager ที่มีค่าที่คุณต้องการส่งต่อไปให้ตัวแปรที่กำหนดเองของ Floodlight
  6. เลือกทริกเกอร์ที่ตรงกับเหตุการณ์การซื้อ หรือสร้างทริกเกอร์ใหม่หากไม่ได้มีอยู่แล้ว คุณสร้างทริกเกอร์ได้หลายวิธีซึ่งขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ เป้าหมาย และการติดตั้งใช้งานเครื่องจัดการแท็ก ตัวอย่างเช่น ทริกเกอร์การดูหน้าเว็บมักใช้เพื่อช่วยเริ่มการทำงานของแท็กในหน้ายืนยันการซื้อ สำหรับตัวกรองทริกเกอร์ ให้เพิ่ม URL ของหน้ายืนยันการซื้อ หรือใช้ชั้นข้อมูลเพื่อพุชเหตุการณ์ที่กำหนดเอง (dataLayer.push({ 'event': 'purchase' });) และตั้งค่าทริกเกอร์เป็นทริกเกอร์เหตุการณ์ที่กำหนดเองโดยมีเงื่อนไขของเหตุการณ์เป็น "purchase"
  7. เมื่อป้อนข้อมูลแท็กเสร็จแล้ว ให้คลิกบันทึก
  8. ตรวจสอบว่าได้เปิดใช้ Conversion Linker แล้ว
  9. บันทึกและpublish

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือแท็ก Google สำหรับ Display & Video 360 และ Campaign Manager 360