การใช้งานและการเรียกเก็บเงินของ API ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์

Geolocation API ใช้รูปแบบการกำหนดราคาแบบจ่ายเมื่อใช้ คำขอ Geolocation API ทำให้เกิดการเรียก SKU เดียวสำหรับทุกแอป ยกเว้นแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากข้อกำหนดในการให้บริการโดยรวมของ Google แล้ว ยังมีขีดจำกัดการใช้งานสำหรับ Geolocation API โดยเฉพาะ จัดการค่าใช้จ่ายและการใช้งานด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ใน Google Cloud Console

วิธีเรียกเก็บเงิน Geolocation API

Geolocation API ใช้รูปแบบการกำหนดราคาแบบจ่ายเมื่อใช้ Google Maps Platform API และ SDK เรียกเก็บเงินตาม SKU มีการติดตามการใช้งานสำหรับ SKU แต่ละรายการ และ API หรือ SDK ใดก็ตามอาจมี SKU ผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 รายการ ค่าใช้จ่ายคำนวณโดย

การใช้ SKU × ราคาต่อการใช้งานแต่ละครั้ง

ใช้เครื่องคำนวณราคาและการใช้งานเพื่อประมาณค่าใช้จ่ายในการใช้งานต่อ API หรือ SDK สำหรับ SKU ของ Google Maps Platform ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ คุณจะได้รับเครดิต Google Maps Platform มูลค่า 200 USD ในแต่ละเดือนสำหรับบัญชีสำหรับการเรียกเก็บเงินแต่ละบัญชี ระบบจะใช้เครดิตนี้กับ SKU ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์โดยอัตโนมัติ

ราคาสำหรับ Geolocation API

คำขอสำหรับ Geolocation API ถูกเรียกเก็บเงินโดยใช้ SKU สำหรับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์

SKU: ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์

SKU ของ Geolocation จะเรียกเก็บเงินสำหรับคำขอไปยัง Geolocation API

ช่วงระดับเสียงรายเดือน
(ราคาต่อคำขอ)
0-100,000 100,001-500,000 มากกว่า 500,000 คน
0.005 USD ต่อแต่ละรายการ
(5.00 USD ต่อ 1,000)
0.004 USD ต่อแต่ละรายการ
(4.00 USD ต่อ 1,000)
ติดต่อฝ่ายขายเพื่อขอข้อมูลราคาปริมาณ

ข้อจำกัดในข้อกำหนดในการให้บริการ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการได้ที่นโยบายสำหรับ Geolocation API และส่วนข้อจำกัดของใบอนุญาตของข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Maps Platform

จัดการต้นทุนในการใช้งาน

กำหนดขีดจำกัดโควต้ารายวันสำหรับคำขอทั้งหมดที่ส่งไปยัง API ใดก็ตามเพื่อจัดการต้นทุนในการใช้ Geolocation API หรือเพื่อตอบสนองความต้องการของปริมาณการรับส่งข้อมูลที่ใช้งานจริง ระบบจะรีเซ็ตโควต้ารายวัน ในเวลาเที่ยงคืนตามเวลาแปซิฟิก

หากต้องการดูหรือเปลี่ยนแปลงขีดจำกัดโควต้าสำหรับ Geolocation API ให้ทำดังนี้

  1. เปิดหน้าโควต้า Google Maps Platform ใน Cloud Console
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง API แล้วเลือก Geolocation API
  3. หากต้องการดูขีดจำกัดโควต้า ให้เลื่อนลงไปที่การ์ดคำขอ
    ตารางแสดงชื่อโควต้าและขีดจำกัด
  4. หากต้องการเปลี่ยนขีดจำกัดโควต้า ให้คลิกไอคอนแก้ไขสำหรับขีดจำกัดนั้น
    ในกล่องโต้ตอบที่ปรากฏขึ้น ให้ป้อนขีดจำกัดโควต้ารายวันที่เรียกเก็บเงินได้ที่ต้องการ (ถึงขีดจำกัดโควต้าที่ Google ระบุไว้) แล้วเลือกบันทึก ในช่องขีดจำกัดโควต้า

หากการใช้งาน API ของคุณถึงขีดจำกัดโควต้าที่เรียกเก็บเงินได้ในวันใดวันหนึ่งแล้ว แอปพลิเคชันของคุณจะไม่สามารถเข้าถึง API นั้นได้สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของวันนั้นๆ