Package google.shopping.merchant.accounts.v1beta

ดัชนี

AccountIssueService

บริการที่รองรับ AccountIssueService API

ListAccountIssues

rpc ListAccountIssues(ListAccountIssuesRequest) returns (ListAccountIssuesResponse)

แสดงรายการปัญหาเกี่ยวกับบัญชีทั้งหมดของบัญชี Merchant Center

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

AccountTaxService

จัดการข้อมูลการตั้งค่าภาษีระดับบัญชี

API นี้กำหนดโมเดลทรัพยากรต่อไปนี้

  • AccountTax
GetAccountTax

rpc GetAccountTax(GetAccountTaxRequest) returns (AccountTax)

แสดงกฎภาษีที่ตรงกับเงื่อนไขของ GetAccountTaxRequest

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListAccountTax

rpc ListAccountTax(ListAccountTaxRequest) returns (ListAccountTaxResponse)

แสดงการตั้งค่าภาษีของบัญชีย่อยเฉพาะในบัญชี Merchant Center เรียกใช้เมธอดนี้ได้เฉพาะในบัญชีหลายลูกค้า มิฉะนั้นจะแสดงข้อผิดพลาด

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateAccountTax

rpc UpdateAccountTax(UpdateAccountTaxRequest) returns (AccountTax)

อัปเดตการตั้งค่าภาษีของบัญชี

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

AccountsService

บริการเพื่อรองรับ Accounts API

CreateAndConfigureAccount

rpc CreateAndConfigureAccount(CreateAndConfigureAccountRequest) returns (Account)

สร้างบัญชี Merchant Center แบบสแตนด์อโลนที่มีการกําหนดค่าเพิ่มเติม เพิ่มผู้ใช้ที่ส่งคำขอเป็นผู้ดูแลระบบสำหรับบัญชีใหม่

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

DeleteAccount

rpc DeleteAccount(DeleteAccountRequest) returns (Empty)

ลบบัญชีที่ระบุไม่ว่าจะเป็นบัญชีแบบสแตนด์อโลน, MCA หรือบัญชีย่อย การลบ MCA จะเป็นการลบบัญชีย่อยทั้งหมด การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetAccount

rpc GetAccount(GetAccountRequest) returns (Account)

เรียกข้อมูลบัญชีจากบัญชี Merchant Center หลังจากใส่ อัปเดต หรือลบบัญชี อาจใช้เวลาหลายนาทีก่อนที่การเปลี่ยนแปลงจะมีผล

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListAccounts

rpc ListAccounts(ListAccountsRequest) returns (ListAccountsResponse)

แสดงรายการบัญชีที่ผู้ใช้ที่โทรเข้าถึงได้และตรงกับข้อจำกัดของคำขอ เช่น ขนาดหน้าหรือตัวกรอง ข้อมูลที่ได้ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงบัญชีย่อยของ MCA เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบัญชีทั้งหมดที่ผู้ใช้ที่โทรเข้าถึงด้วย ซึ่งรวมถึง MCA อื่นๆ, บัญชีที่ลิงก์, บัญชีแบบสแตนด์อโลน และอื่นๆ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListSubAccounts

rpc ListSubAccounts(ListSubAccountsRequest) returns (ListSubAccountsResponse)

แสดงรายการบัญชีย่อยทั้งหมดสำหรับบัญชีหลายลูกค้าที่ระบุ นี่คือ Wrapper ที่สะดวกสำหรับเมธอด ListAccounts ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีนี้จะให้ผลลัพธ์เหมือนกับการเรียกใช้ ListsAccounts ด้วยตัวกรองต่อไปนี้ relationship(providerId={parent} AND service(type="ACCOUNT_AGGREGATION"))

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateAccount

rpc UpdateAccount(UpdateAccountRequest) returns (Account)

อัปเดตบัญชีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสแตนด์อโลน, MCA หรือบัญชีย่อย การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

BusinessIdentityService

บริการเพื่อรองรับ Business identity API

GetBusinessIdentity

rpc GetBusinessIdentity(GetBusinessIdentityRequest) returns (BusinessIdentity)

เรียกข้อมูลอัตลักษณ์ทางธุรกิจของบัญชี

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateBusinessIdentity

rpc UpdateBusinessIdentity(UpdateBusinessIdentityRequest) returns (BusinessIdentity)

อัปเดตข้อมูลประจำตัวทางธุรกิจของบัญชี การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

BusinessInfoService

บริการเพื่อรองรับ Business Profile API

GetBusinessInfo

rpc GetBusinessInfo(GetBusinessInfoRequest) returns (BusinessInfo)

เรียกข้อมูลธุรกิจของบัญชี

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateBusinessInfo

rpc UpdateBusinessInfo(UpdateBusinessInfoRequest) returns (BusinessInfo)

อัปเดตข้อมูลธุรกิจของบัญชี การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

EmailPreferencesService

บริการที่รองรับ EmailPreferences API

บริการนี้อนุญาตให้เรียกข้อมูลและอัปเดตค่ากำหนดของอีเมลสำหรับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้วเท่านั้น

GetEmailPreferences

rpc GetEmailPreferences(GetEmailPreferencesRequest) returns (EmailPreferences)

แสดงค่ากำหนดของอีเมลสำหรับผู้ใช้บัญชี Merchant Center

ใช้ชื่อแทน name=accounts/*/users/me/emailPreferences เพื่อรับค่ากำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้ว

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateEmailPreferences

rpc UpdateEmailPreferences(UpdateEmailPreferencesRequest) returns (EmailPreferences)

อัปเดตค่ากำหนดของอีเมลสำหรับผู้ใช้บัญชี Merchant Center ผู้ใช้ MCA ควรระบุบัญชี MCA แทนบัญชีย่อยของ MCA

ค่ากำหนดที่ไม่ได้เลือกอย่างชัดแจ้งในมาสก์การอัปเดตจะไม่อัปเดต

การระบุค่าสถานะการเลือกรับที่ยังไม่ได้ยืนยันนั้นไม่ถูกต้องสำหรับการอัปเดต

ใช้ชื่อแทน name=accounts/*/users/me/emailPreferences เพื่ออัปเดตค่ากำหนดสำหรับผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้ว

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

HomepageService

บริการเพื่อรองรับ API สำหรับหน้าแรกของร้านค้า

ClaimHomepage

rpc ClaimHomepage(ClaimHomepageRequest) returns (Homepage)

อ้างสิทธิ์หน้าแรกของร้านค้า การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

หากมีการอ้างสิทธิ์หน้าแรกแล้ว ระบบจะตรวจสอบการยืนยันอีกครั้ง (เว้นแต่ผู้ขายจะได้รับการยกเว้นจากการอ้างสิทธิ์ ซึ่งได้รับการยกเว้นจากการยืนยันด้วย) และส่งการตอบกลับที่สำเร็จ หากยืนยันการเป็นเจ้าของไม่ได้อีกต่อไป ระบบจะแสดงข้อผิดพลาด แต่จะไม่ล้างการอ้างสิทธิ์ หากไม่สำเร็จ ระบบจะแสดงข้อความแสดงข้อผิดพลาดตามรูปแบบบัญญัติ ดังนี้ * PERMISSION_DENIED: ผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ที่จำเป็นในบัญชี MC นี้ * FAILED_PRECONDITION: - บัญชีไม่ใช่บัญชี Merchant Center - บัญชี MC ไม่มีหน้าแรก - อ้างสิทธิ์ไม่สำเร็จ (ในกรณีนี้ ข้อความแสดงข้อผิดพลาดจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม)

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetHomepage

rpc GetHomepage(GetHomepageRequest) returns (Homepage)

ดึงข้อมูลหน้าแรกของร้านค้า

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UnclaimHomepage

rpc UnclaimHomepage(UnclaimHomepageRequest) returns (Homepage)

ถอนการอ้างสิทธิ์หน้าแรกของร้านค้า การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateHomepage

rpc UpdateHomepage(UpdateHomepageRequest) returns (Homepage)

อัปเดตหน้าแรกของร้านค้า การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

OnlineReturnPolicyService

บริการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการการกำหนดค่านโยบายคืนสินค้าไม่พอใจของผู้ขาย ซึ่งรวมถึงนโยบายคืนสินค้าสำหรับทั้งโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรี

โปรแกรม API นี้กำหนดโมเดลทรัพยากรต่อไปนี้

[นโยบายการคืนสินค้าออนไลน์][google.shopping.merchant.accounts.v1.OnlineReturnPolicy]

GetOnlineReturnPolicy

rpc GetOnlineReturnPolicy(GetOnlineReturnPolicyRequest) returns (OnlineReturnPolicy)

รับนโยบายคืนสินค้าที่มีอยู่

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListOnlineReturnPolicies

rpc ListOnlineReturnPolicies(ListOnlineReturnPoliciesRequest) returns (ListOnlineReturnPoliciesResponse)

แสดงนโยบายคืนสินค้าที่มีอยู่ทั้งหมด

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ProgramsService

บริการสำหรับการจัดการโปรแกรม

โปรแกรมมีกลไกสำหรับการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานในบัญชีผู้ขาย ตัวอย่างโดยทั่วไปของกรณีนี้คือโปรแกรมข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากร้านค้าของผู้ขายแสดงใน Google ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

บริการนี้แสดงวิธีดึงข้อมูลการเข้าร่วมของผู้ขายในโปรแกรมที่มีอยู่ทั้งหมด นอกเหนือไปจากวิธีการเปิดหรือปิดใช้การเข้าร่วมแต่ละโปรแกรมอย่างชัดแจ้ง

DisableProgram

rpc DisableProgram(DisableProgramRequest) returns (Program)

ปิดการเข้าร่วมโปรแกรมที่ระบุสำหรับบัญชี การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

EnableProgram

rpc EnableProgram(EnableProgramRequest) returns (Program)

เปิดใช้การเข้าร่วมโปรแกรมที่ระบุสำหรับบัญชี การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetProgram

rpc GetProgram(GetProgramRequest) returns (Program)

เรียกข้อมูลโปรแกรมที่ระบุสำหรับบัญชี

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListPrograms

rpc ListPrograms(ListProgramsRequest) returns (ListProgramsResponse)

เรียกข้อมูลโปรแกรมทั้งหมดของบัญชี

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

RegionsService

จัดการการกำหนดค่าภูมิภาค

API นี้กำหนดโมเดลทรัพยากรต่อไปนี้

  • Region
CreateRegion

rpc CreateRegion(CreateRegionRequest) returns (Region)

สร้างคําจํากัดความภูมิภาคในบัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

DeleteRegion

rpc DeleteRegion(DeleteRegionRequest) returns (Empty)

ลบคําจํากัดความภูมิภาคออกจากบัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetRegion

rpc GetRegion(GetRegionRequest) returns (Region)

ดึงข้อมูลภูมิภาคที่กำหนดไว้ในบัญชี Merchant Center

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListRegions

rpc ListRegions(ListRegionsRequest) returns (ListRegionsResponse)

แสดงรายการภูมิภาคในบัญชี Merchant Center

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateRegion

rpc UpdateRegion(UpdateRegionRequest) returns (Region)

อัปเดตคําจํากัดความภูมิภาคในบัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ShippingSettingsService

บริการสำหรับรับข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งตามเมธอดของ Merchant API

GetShippingSettings

rpc GetShippingSettings(GetShippingSettingsRequest) returns (ShippingSettings)

เรียกดูข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่ง

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

InsertShippingSettings

rpc InsertShippingSettings(InsertShippingSettingsRequest) returns (ShippingSettings)

แทนที่การตั้งค่าการจัดส่งของผู้ขายด้วยการตั้งค่า "ขอการจัดส่ง" การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

TermsOfServiceAgreementStateService

บริการที่รองรับ TermsOfServiceAgreementState API

GetTermsOfServiceAgreementState

rpc GetTermsOfServiceAgreementState(GetTermsOfServiceAgreementStateRequest) returns (TermsOfServiceAgreementState)

แสดงสถานะของข้อตกลงเกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

RetrieveForApplicationTermsOfServiceAgreementState

rpc RetrieveForApplicationTermsOfServiceAgreementState(RetrieveForApplicationTermsOfServiceAgreementStateRequest) returns (TermsOfServiceAgreementState)

เรียกดูสถานะของข้อตกลงสำหรับข้อกำหนดในการให้บริการของแอปพลิเคชัน

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

TermsOfServiceService

บริการที่รองรับ TermsOfService API

AcceptTermsOfService

rpc AcceptTermsOfService(AcceptTermsOfServiceRequest) returns (Empty)

ยอมรับ TermsOfService การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetTermsOfService

rpc GetTermsOfService(GetTermsOfServiceRequest) returns (TermsOfService)

เรียกข้อมูล TermsOfService ที่เชื่อมโยงกับเวอร์ชันที่ระบุ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

RetrieveLatestTermsOfService

rpc RetrieveLatestTermsOfService(RetrieveLatestTermsOfServiceRequest) returns (TermsOfService)

ดึงข้อมูล TermsOfService เวอร์ชันล่าสุดสำหรับ kind และ region_code ที่ระบุ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UserService

บริการเพื่อรองรับ API ผู้ใช้

CreateUser

rpc CreateUser(CreateUserRequest) returns (User)

สร้างผู้ใช้บัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

DeleteUser

rpc DeleteUser(DeleteUserRequest) returns (Empty)

ลบผู้ใช้บัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

GetUser

rpc GetUser(GetUserRequest) returns (User)

เรียกข้อมูลผู้ใช้บัญชี Merchant Center

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

ListUsers

rpc ListUsers(ListUsersRequest) returns (ListUsersResponse)

แสดงผู้ใช้ทั้งหมดของบัญชี Merchant Center

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

UpdateUser

rpc UpdateUser(UpdateUserRequest) returns (User)

อัปเดตผู้ใช้บัญชี Merchant Center การเรียกใช้วิธีนี้ต้องมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/content

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมของ OAuth 2.0

AcceptTermsOfServiceRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด AcceptTermsOfService

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ รูปแบบ: termsOfService/{version}

account

string

ต้องระบุ บัญชีที่จะยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ

region_code

string

ต้องระบุ รหัสภูมิภาคตามที่กำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศเมื่อข้อกำหนดในการให้บริการมีผลบังคับใช้ในประเทศนั้นโดยเฉพาะ หรือ 001 เมื่อบังคับใช้ทั่วโลก

ยอมรับ

อธิบายข้อกำหนดในการให้บริการที่ยอมรับ

ช่อง
terms_of_service

string

termsOfService ที่ยอมรับ

accepted_by

string

บัญชีที่มีการบันทึกการยอมรับ ซึ่งอาจเป็นบัญชีตัวเองหรือในกรณีของบัญชีย่อย อาจเป็นบัญชี MCA

valid_until

Date

เมื่อตั้งค่าแล้ว ระบบจะระบุว่า TermsOfService ที่ยอมรับจะใช้ได้จนถึงวันที่สิ้นสุดวันที่นี้เท่านั้น (เวลา UTC) คุณต้องยอมรับข้อกำหนดใหม่ก่อนวันที่ดังกล่าว ข้อมูลของ TermsOfService ที่จําเป็นจะอยู่ในข้อความต้องระบุ

AccessRight

สิทธิ์ในการเข้าถึง

Enum
ACCESS_RIGHT_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
STANDARD สิทธิ์การเข้าถึงระดับมาตรฐาน
ADMIN สิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ
PERFORMANCE_REPORTING ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์นี้จะมีสิทธิ์เข้าถึงประสิทธิภาพและข้อมูลเชิงลึก

บัญชี

บัญชี

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของบัญชี รูปแบบ: accounts/{account}

account_id

int64

เอาต์พุตเท่านั้น รหัสบัญชี

account_name

string

ต้องระบุ ชื่อบัญชีที่มนุษย์อ่านได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ชื่อร้านค้าและชื่อธุรกิจ

adult_content

bool

บัญชีนี้มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่หรือไม่

test_account

bool

เอาต์พุตเท่านั้น บัญชีนี้เป็นบัญชีทดสอบหรือไม่

time_zone

TimeZone

ต้องระบุ เขตเวลาของบัญชี

ในการเขียน time_zone จะตั้งค่าทั้ง reporting_time_zone และ display_time_zone

สำหรับการอ่าน time_zone จะแสดงผล display_time_zone เสมอ หากไม่มี display_time_zone สำหรับบัญชีของคุณ แสดงว่า time_zone จะว่างเปล่า

language_code

string

ต้องระบุ รหัสภาษา BCP-47 ของบัญชี เช่น en-US หรือ sr-Latn

AccountIssue

AccountIssue

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของปัญหาระดับบัญชี รูปแบบ: accounts/{account}/issues/{id}

title

string

ชื่อของปัญหาในภาษาท้องถิ่น

severity

Severity

ความรุนแรงโดยรวมของปัญหา

impacted_destinations[]

ImpactedDestination

ผลกระทบที่ปัญหานี้มีต่อปลายทางหลายแห่ง

detail

string

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหา

documentation_uri

string

ลิงก์ไปยังศูนย์ช่วยเหลือของ Merchant Center เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาและวิธีแก้ไข

ImpactedDestination

ผลกระทบของปัญหาต่อปลายทาง

ช่อง
impacts[]

Impact

ผลกระทบ (เชิงลบ) ต่อภูมิภาคต่างๆ ในปลายทางที่ระบุ

reporting_context

ReportingContextEnum

บริบทการรายงานที่ได้รับผลกระทบ

มีอิทธิพล

ผลกระทบของปัญหาในภูมิภาค

ช่อง
region_code

string

รหัสภูมิภาคของ CLDR ที่ปัญหานี้มีผล

severity

Severity

ความรุนแรงของปัญหาในปลายทางและภูมิภาค

ความรุนแรง

ความรุนแรงของปัญหาทั้งหมดที่เป็นไปได้

Enum
SEVERITY_UNSPECIFIED ไม่ทราบความรุนแรง
CRITICAL ปัญหานี้ทำให้ข้อเสนอไม่แสดง
ERROR ปัญหาอาจส่งผลต่อข้อเสนอ (ในอนาคต) หรืออาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับข้อเสนอ
SUGGESTION ปัญหานี้เป็นคำแนะนำสำหรับการปรับปรุง

AccountTax

การตั้งค่าภาษีของบัญชีผู้ขาย วิธีการทั้งหมดจะต้องมีบทบาทผู้ดูแลระบบ

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อของการตั้งค่าภาษี รูปแบบ: "{account_tax.name=accounts/{account}}"

account

int64

เอาต์พุตเท่านั้น รหัสของบัญชีที่มีการตั้งค่าภาษีของบัญชีเหล่านี้

tax_rules[]

TaxRule

กฎภาษี "กำหนดกฎภาษีในแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ จะไม่มีการเสนอภาษีหากภูมิภาคไม่มีกฎ"

ที่อยู่

ที่อยู่สำหรับจัดส่งของคลังสินค้า

ช่อง
street_address

string

ส่วนระดับถนนของที่อยู่ เช่น 111w 31st Street

city

string

ต้องระบุ เมือง อาจรวมถึงย่านย่อยหรือย่านย่อยที่เกี่ยวข้องด้วย (เช่น ย่านหรือชานเมือง)

administrative_area

string

ต้องระบุ เขตบริหารย่อยระดับสูงสุดของประเทศ เช่น รัฐอย่างแคลิฟอร์เนีย ("CA") หรือจังหวัดอย่างควิเบก ("QC")

postal_code

string

ต้องระบุ รหัสไปรษณีย์ (เช่น "94043")

region_code

string

ต้องระบุ รหัสประเทศ CLDR (เช่น "US")

BusinessDayConfig

วันทำการของคลังสินค้า

ช่อง
business_days[]

Weekday

ต้องระบุ วันทำการปกติ ต้องระบุ

ตั๋ววันธรรมดา

Enum
WEEKDAY_UNSPECIFIED
MONDAY
TUESDAY
WEDNESDAY
THURSDAY
FRIDAY
SATURDAY
SUNDAY

BusinessIdentity

การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของธุรกิจ

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของอัตลักษณ์ของธุรกิจ รูปแบบ: accounts/{account}/businessIdentity

black_owned

IdentityAttribute

ไม่บังคับ ระบุว่าธุรกิจระบุว่ามีเจ้าของเป็นคนผิวดำหรือไม่ ช่องที่ไม่บังคับนี้จะมีให้บริการแก่ผู้ขายที่ตั้งค่าประเทศของธุรกิจเป็นUSเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้ไม่ได้กับมาร์เก็ตเพลสหรือผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

women_owned

IdentityAttribute

ไม่บังคับ ระบุว่าธุรกิจระบุว่ามีเจ้าของเป็นผู้หญิงหรือไม่ ช่องที่ไม่บังคับนี้จะมีให้บริการแก่ผู้ขายที่ตั้งค่าประเทศของธุรกิจเป็นUSเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้ไม่ได้กับมาร์เก็ตเพลสหรือผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

veteran_owned

IdentityAttribute

ไม่บังคับ ระบุว่าธุรกิจระบุว่ามีเจ้าของเป็นทหารผ่านศึกหรือไม่ ช่องที่ไม่บังคับนี้จะมีให้บริการแก่ผู้ขายที่ตั้งค่าประเทศของธุรกิจเป็นUSเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้ไม่ได้กับมาร์เก็ตเพลสหรือผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

latino_owned

IdentityAttribute

ไม่บังคับ ระบุว่าธุรกิจระบุว่ามีเจ้าของเป็นชาวลาตินหรือไม่ ช่องที่ไม่บังคับนี้จะมีให้บริการแก่ผู้ขายที่ตั้งค่าประเทศของธุรกิจเป็นUSเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้ไม่ได้กับมาร์เก็ตเพลสหรือผู้ขายในมาร์เก็ตเพลส

small_business

IdentityAttribute

ไม่บังคับ ระบุว่าธุรกิจระบุว่าตนเองเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือไม่ ช่องที่ไม่บังคับนี้จะมีให้บริการแก่ผู้ขายที่ตั้งค่าประเทศของธุรกิจเป็นUSเท่านั้น รวมถึงใช้ไม่ได้กับมาร์เก็ตเพลส

IdentityAttribute

ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแอตทริบิวต์อัตลักษณ์

ช่อง
identity_declaration

IdentityDeclaration

ต้องระบุ การประกาศข้อมูลประจำตัวสำหรับแอตทริบิวต์นี้

IdentityDeclaration

การตั้งค่าที่เป็นไปได้ทั้งหมดเกี่ยวกับการประกาศตัวตน

Enum
IDENTITY_DECLARATION_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้นที่ระบุว่าไม่มีการเลือก
SELF_IDENTIFIES_AS ระบุว่าบัญชีระบุด้วยแอตทริบิวต์
DOES_NOT_SELF_IDENTIFY_AS ระบุว่าบัญชีไม่ได้ระบุด้วยแอตทริบิวต์

PromotionsConsent

การตั้งค่าที่เป็นไปได้ทั้งหมดเกี่ยวกับการโปรโมตที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ของธุรกิจ

Enum

BusinessInfo

การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของข้อมูลธุรกิจ รูปแบบ: accounts/{account}/businessInfo

address

PostalAddress

ไม่บังคับ ที่อยู่ของธุรกิจ

phone

PhoneNumber

ไม่บังคับ หมายเลขโทรศัพท์ของธุรกิจ

phone_verification_state

PhoneVerificationState

เอาต์พุตเท่านั้น สถานะการยืนยันทางโทรศัพท์ของธุรกิจ

customer_service

CustomerService

ไม่บังคับ ฝ่ายบริการลูกค้าของธุรกิจ

CarrierRate

รายการอัตราของผู้ให้บริการขนส่งที่ main_table หรือ single_value อ้างอิงได้

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่ออัตราของผู้ให้บริการขนส่ง ต้องไม่ซ้ำกันต่อกลุ่มอัตรา

carrier

string

ต้องระบุ บริการของผู้ให้บริการ เช่น "UPS" หรือ "Fedex"

carrier_service

string

ต้องระบุ บริการของผู้ให้บริการ เช่น "ground" หรือ "2 days"

origin_postal_code

string

ต้องระบุ ต้นทางการจัดส่งสำหรับอัตราของผู้ให้บริการขนส่งนี้

percentage_adjustment

string

ไม่บังคับ ตัวแก้ไขอัตราค่าจัดส่งแบบทวีคูณเป็นตัวเลขในรูปแบบทศนิยม อาจเป็นเชิงลบได้ ตัวอย่างเช่น "5.4" เพิ่มอัตรา 5.4% และ "-3" จะลดอัตรานี้ 3%

flat_adjustment

Price

ไม่บังคับ ตัวแก้ไขอัตราค่าจัดส่งเพิ่มเติม อาจเป็นเชิงลบได้ ตัวอย่างเช่น { "amount_micros": 1, "currency_code" : "USD" } เพิ่ม $1 ลงในอัตรา { "amount_micros": -3, "currency_code" : "USD" } จะนำ $3 ออกจากราคา

ClaimHomepageRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ClaimHomepage

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อหน้าแรกที่จะอ้างสิทธิ์ รูปแบบ: accounts/{account}/homepage

CreateAndConfigureAccountRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด CreateAndConfigureAccount

ช่อง
account

Account

ต้องระบุ บัญชีที่ต้องการสร้าง

users[]

CreateUserRequest

ไม่บังคับ เพิ่มผู้ใช้ลงในบัญชี

service[]

AddAccountService

ไม่บังคับ หากระบุ บริการบัญชีระหว่างบัญชีที่จะสร้างและบัญชีผู้ให้บริการจะเริ่มต้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง

accept_terms_of_service

AcceptTermsOfService

ไม่บังคับ ระบบจะยอมรับข้อกําหนดในการให้บริการ (ToS) ทันทีหลังจากสร้างบัญชี

AcceptTermsOfService

การอ้างอิงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการ

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ

region_code

string

ต้องระบุ รหัสภูมิภาคตามที่กำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศเมื่อข้อกำหนดในการให้บริการมีผลกับประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะ หรือ001 เมื่อมีผลบังคับใช้ทั่วโลก

AddAccountService

วิธีการเพิ่มเติมในการเพิ่มบริการของบัญชีในระหว่างการสร้างบัญชี

ช่อง
ช่องการรวม service_type ขณะนี้รองรับเฉพาะบัญชีหลักประเภทหลายลูกค้า service_type ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้
account_aggregation

Empty

ผู้ให้บริการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลสำหรับบัญชี

provider

string

ไม่บังคับ ผู้ให้บริการ รูปแบบ: accounts/{account}

CreateRegionRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด CreateRegion

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ บัญชีที่จะใช้สร้างภูมิภาค รูปแบบ: accounts/{account}

region_id

string

ต้องระบุ ตัวระบุสำหรับภูมิภาค ซึ่งจะไม่ซ้ำกันในทุกภูมิภาคของบัญชีเดียวกัน

region

Region

ต้องระบุ ภูมิภาคที่จะสร้าง

CreateUserRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด CreateUser

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของบัญชีที่จะสร้างผู้ใช้ รูปแบบ: accounts/{account}

user_id

string

ต้องระบุ อีเมลของผู้ใช้ (เช่น john.doe@gmail.com)

user

User

ต้องระบุ ผู้ใช้ที่ต้องการสร้าง

CustomerService

ข้อมูลฝ่ายบริการลูกค้า

ช่อง
uri

string

ไม่บังคับ URI ตำแหน่งที่อาจมีฝ่ายบริการลูกค้า

email

string

ไม่บังคับ อีเมลที่ใช้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า

phone

PhoneNumber

ไม่บังคับ หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้โทรหาฝ่ายบริการลูกค้า

CutoffTime

คำจำกัดความของเวลาปิดรับคำสั่งซื้อสำหรับวันทำการ

ช่อง
hour

int32

ต้องระบุ ชั่วโมงก่อนเวลาปิดรับคำสั่งซื้อที่ต้องดำเนินการเพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อภายในวันเดียวกัน

minute

int32

ต้องระบุ นาทีก่อนเวลาปิดรับคำสั่งซื้อก่อนที่จะประมวลผลคำสั่งซื้อภายในวันเดียวกัน

time_zone

string

ต้องระบุ ตัวระบุเขตเวลา เช่น "ยุโรป/ซูริค"

DeleteAccountRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด DeleteAccount

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อบัญชีที่จะลบ รูปแบบ: accounts/{account}

DeleteRegionRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด DeleteRegion

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของภูมิภาคที่จะลบ รูปแบบ: accounts/{account}/regions/{region}

DeleteUserRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด DeleteUser

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของผู้ใช้ที่จะลบ รูปแบบ: accounts/{account}/users/{email}

นอกจากนี้ยังลบผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับผู้โทรโดยใช้ me แทนที่จะใช้อีเมลตามที่แสดงใน accounts/{account}/users/me ได้อีกด้วย

DeliveryTime

เวลาที่ใช้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่การสั่งซื้อไปจนถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์

ช่อง
warehouse_based_delivery_times[]

WarehouseBasedDeliveryTime

ไม่บังคับ ระบุว่าเวลานำส่งควรคำนวณตามคลังสินค้า (สถานที่ตั้งต้นทางการจัดส่ง) ตามการตั้งค่าของผู้ให้บริการขนส่งที่เลือก เมื่อตั้งค่าแล้ว ไม่ควรตั้งค่าช่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเวลาขนส่งใน [เวลาจัดส่ง][[google.shopping.content.bundles.ShippingSetting. DeliveryTime]

min_transit_days

int32

จำนวนวันทำการขั้นต่ำที่ใช้ในการขนส่ง 0 หมายถึงการนำส่งวันเดียวกัน 1 หมายถึงการนำส่งในวันถัดไป ต้องตั้งค่า min_transit_days, max_transit_days หรือ transit_time_table อย่างใดอย่างหนึ่ง

max_transit_days

int32

จำนวนวันทำการสูงสุดที่ใช้ในการขนส่ง 0 หมายถึงการนำส่งวันเดียวกัน 1 หมายถึงการนำส่งในวันถัดไป ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ min_transit_days

cutoff_time

CutoffTime

คำจำกัดความของเวลาปิดรับคำสั่งซื้อสำหรับวันทำการ หากไม่ได้กำหนดค่าเวลาปิดรับคำสั่งซื้อ จะมีค่าเริ่มต้นเป็น 8:00 น. PST

min_handling_days

int32

จำนวนวันทำการขั้นต่ำที่ใช้ก่อนที่จะจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อ 0 หมายถึงจัดส่งในวันเดียวกัน 1 หมายถึงจัดส่งในวันถัดไป

max_handling_days

int32

จำนวนวันทำการสูงสุดที่ใช้ไปก่อนจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อ 0 หมายถึงจัดส่งในวันเดียวกัน 1 หมายถึงจัดส่งในวันถัดไป ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ min_handling_days

transit_time_table

TransitTable

ตารางเวลาขนส่ง จำนวนวันทำการที่ใช้ในการขนส่งตามมิติข้อมูลของแถวและคอลัมน์ ตั้งค่า min_transit_days, max_transit_days หรือ transit_time_table ได้ แต่ตั้งค่าทั้ง 2 อย่างไม่ได้

handling_business_day_config

BusinessDayConfig

วันทำการในระหว่างที่จัดการคำสั่งซื้อได้ หากไม่ได้ระบุค่าไว้ ระบบจะถือว่าวันจันทร์ถึงศุกร์ทำการ

transit_business_day_config

BusinessDayConfig

วันทำการที่คำสั่งซื้อสามารถอยู่ระหว่างการขนส่งได้ หากไม่ได้ระบุค่าไว้ ระบบจะถือว่าวันจันทร์ถึงศุกร์ทำการ

DisableProgramRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด DisableProgram

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อโปรแกรมที่จะปิดใช้งานการเข้าร่วมสำหรับบัญชีที่ระบุ รูปแบบ: accounts/{account}/programs/{program}

ระยะทาง

รัศมีสูงสุดสำหรับการนำส่ง ขั้นตอนนี้จำเป็นสำหรับประเภทการจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น

ช่อง
value

int64

ค่าจำนวนเต็มของระยะทาง

unit

Unit

หน่วยอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ พารามิเตอร์จะต้องเป็นค่ารวมไมล์และกิโลเมตร

หน่วย

หน่วยอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ พารามิเตอร์จะต้องเป็นค่ารวมไมล์และกิโลเมตร

Enum
UNIT_UNSPECIFIED ไม่ได้ระบุหน่วย
MILES หน่วยเป็นไมล์
KILOMETERS หน่วยเป็นกิโลเมตร

EmailPreferences

หมวดหมู่การแจ้งเตือนที่ผู้ใช้เลือกรับ / เลือกไม่รับ ค่ากำหนดของอีเมลจะไม่รวมประกาศที่จำเป็นต้องได้รับ เนื่องจากผู้ใช้เลือกไม่รับไม่ได้

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อของ EmailPreferences มีเพียงผู้ใช้ที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้วเท่านั้นที่รองรับปลายทาง

news_and_tips

OptInState

ไม่บังคับ ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ๆ เคล็ดลับ และแนวทางปฏิบัติแนะนำ

OptInState

เลือกใช้สถานะของค่ากำหนดของอีเมล

Enum
OPT_IN_STATE_UNSPECIFIED ไม่ได้ระบุสถานะการเลือกใช้
OPTED_OUT ผู้ใช้เลือกไม่รับอีเมลประเภทนี้
OPTED_IN ผู้ใช้เลือกรับอีเมลประเภทนี้
UNCONFIRMED ผู้ใช้เลือกรับอีเมลประเภทนี้และส่งอีเมลยืนยันไปแล้ว แต่ผู้ใช้ยังไม่ได้ยืนยันการเลือกรับ (มีผลในบางประเทศเท่านั้น)

EnableProgramRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด EnableProgram

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อโปรแกรมที่จะช่วยให้การเข้าร่วมสำหรับบัญชีที่ระบุ รูปแบบ: accounts/{account}/programs/{program}

GetAccountRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetAccount

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อบัญชีที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}

GetAccountTaxRequest

ขอดูการตั้งค่าภาษี

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อที่ใช้ในการตั้งค่าภาษี

GetBusinessIdentityRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetBusinessIdentity

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของอัตลักษณ์ของธุรกิจ รูปแบบ: accounts/{account}/businessIdentity

GetBusinessInfoRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetBusinessInfo

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของข้อมูลธุรกิจ รูปแบบ: accounts/{account}/businessInfo

GetEmailPreferencesRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด GetEmailPreferences

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากร EmailPreferences รูปแบบ: accounts/{account}/users/{email}/emailPreferences

GetHomepageRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetHomepage

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อหน้าแรกที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/homepage

GetOnlineReturnPolicyRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetOnlineReturnPolicy

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของนโยบายคืนสินค้าที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/onlineReturnPolicies/{return_policy}

GetProgramRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด GetProgram

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อโปรแกรมที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/programs/{program}

GetRegionRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetRegion

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของภูมิภาคที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/regions/{region}

GetShippingSettingsRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetShippingSetting

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของการตั้งค่าการจัดส่งที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/shippingsetting

GetTermsOfServiceAgreementStateRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetTermsOfServiceAgreementState

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ รูปแบบ: accounts/{account}/termsOfServiceAgreementState/{identifier}

GetTermsOfServiceRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetTermsOfService

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ รูปแบบ: termsOfService/{version}

GetUserRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด GetUser

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของผู้ใช้ที่จะดึงข้อมูล รูปแบบ: accounts/{account}/users/{email}

คุณยังสามารถเรียกข้อมูลผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับผู้โทรโดยใช้ me แทนที่จะใช้อีเมลตามที่แสดงใน accounts/{account}/users/me

ส่วนหัว

รายการส่วนหัวของแถวหรือคอลัมน์ที่ไม่ว่างเปล่าสำหรับตาราง ต้องตั้งค่า prices, weights, num_items, postal_code_group_names หรือ location ที่แน่นอน

ช่อง
prices[]

Price

ต้องระบุ รายการขอบเขตบนของราคาคำสั่งซื้อที่รวมเข้าด้วยกัน ค่าของราคาล่าสุดอาจเป็นอนันต์ได้โดยตั้งค่า price amount_micros = -1 เช่น [{"amount_micros": 10000000, "currency_code": "USD"}, {"amount_micros": 500000000, "currency_code": "USD"}, {"amount_micros": -1, "currency_code": "USD"}] แสดงส่วนหัว "<= $10", "<= $500" และ "> $500" ราคาทั้งหมดในบริการต้องมีสกุลเงินเดียวกัน ต้องระบุ ต้องเป็นค่าบวกยกเว้น -1 ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

weights[]

Weight

ต้องระบุ รายการขอบเขตบนของน้ำหนักคำสั่งซื้อที่รวมทุกอย่าง ค่าน้ำหนักสุดท้ายเป็นอนันต์ได้โดยตั้งค่า price amount_micros = -1 เช่น [{"amount_micros": 10000000, "unit": "kg"}, {"amount_micros": 50000000, "unit": "kg"}, {"amount_micros": -1, "unit": "kg"}] แสดงถึงส่วนหัว "<= 10 กก.", "<= 50 กก." และ "> 50 กก." น้ำหนักทั้งหมดภายในบริการต้องมีหน่วยเดียวกัน ต้องระบุ ต้องเป็นค่าบวกยกเว้น -1 ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

number_of_items[]

string

ต้องระบุ ขอบเขตบนของจำนวนรายการที่รวมจำนวนรายการ ค่าสุดท้ายสามารถเป็น "infinity" ได้ เช่น ["10", "50", "infinity"] แสดงถึงส่วนหัว "<= 10 รายการ", "<= 50 รายการ" และ "> 50 รายการ" ต้องระบุ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

postal_code_group_names[]

string

ต้องระบุ รายการชื่อกลุ่มทางไปรษณีย์ ค่าสุดท้ายสามารถเป็น "all other locations" ได้ ตัวอย่างเช่น ["zone 1", "zone 2", "all other locations"] กลุ่มรหัสไปรษณีย์ที่อ้างอิงต้องตรงกับประเทศที่นำส่งของบริการ ต้องระบุ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

locations[]

LocationIdSet

ต้องระบุ รายการชุดรหัสสถานที่ตั้ง ต้องระบุ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

หน้าแรก

หน้าแรกของร้านค้า

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของหน้าแรกของร้านค้า รูปแบบ: accounts/{account}/homepage

claimed

bool

เอาต์พุตเท่านั้น มีการอ้างสิทธิ์หน้าแรกไหม ดู https://support.google.com/merchants/answer/176793

uri

string

ต้องระบุ URI (โดยปกติจะเป็น URL) หน้าแรกของร้านค้า

InsertShippingSettingsRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด InsertShippingSetting

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ บัญชีที่จะแทรกผลิตภัณฑ์นี้ รูปแบบ: accounts/{account}

shipping_setting

ShippingSettings

ต้องระบุ บัญชีเวอร์ชันใหม่

ListAccountIssuesRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListAccountIssues

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ ระดับบนสุดซึ่งเป็นเจ้าของคอลเล็กชันปัญหานี้ รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนสูงสุดของปัญหาที่จะแสดง บริการอาจแสดงผลน้อยกว่าค่านี้ หากไม่ระบุ ระบบจะแสดงผลผู้ใช้ไม่เกิน 50 ราย ค่าสูงสุดคือ 100 ค่าที่มากกว่า 100 จะถูกเปลี่ยนเป็น 100

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListAccountIssues ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListAccountIssues ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ

language_code

string

ไม่บังคับ ปัญหาในการตอบกลับจะมีช่องที่มนุษย์อ่านได้ในภาษาที่ระบุ รูปแบบคือ BCP-47 เช่น en-US หรือ sr-Latn หากไม่ได้ระบุค่า ระบบจะใช้ en-US

time_zone

TimeZone

ไม่บังคับ เขตเวลา IANA ที่ใช้เพื่อแปลเวลาในฟิลด์ที่ผู้ใช้อ่านได้ เช่น 'America/Los_Angeles' หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะใช้ "America/Los_Angeles"

ListAccountIssuesResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListAccountIssues

ช่อง
account_issues[]

AccountIssue

ปัญหาจากบัญชีที่ระบุ

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListAccountTaxRequest

ขอแสดงการตั้งค่าภาษีของบัญชีย่อยทั้งหมดสำหรับผู้ขายที่ส่งคำขอเท่านั้น วิธีนี้เรียกได้ในบัญชีหลายลูกค้าเท่านั้น มิฉะนั้นระบบจะแสดงข้อผิดพลาด

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ ผู้เผยแพร่โฆษณาหลักที่เป็นเจ้าของการเก็บภาษีของบัญชีนี้ รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

จำนวนการตั้งค่าภาษีสูงสุดที่จะแสดงในการตอบกลับ ซึ่งใช้สำหรับการแบ่งหน้า

page_token

string

โทเค็นที่ส่งกลับโดยคำขอก่อนหน้า

ListAccountTaxResponse

ตอบกลับคำขอรายการภาษีของบัญชี วิธีนี้เรียกใช้ได้ในบัญชีหลายลูกค้าเท่านั้น มิฉะนั้นจะแสดงข้อผิดพลาด

ช่อง
account_taxes[]

AccountTax

หน้าการตั้งค่าภาษีของบัญชี

next_page_token

string

โทเค็นสำหรับการดึงข้อมูลในหน้าถัดไปของการตั้งค่าภาษีในบัญชี

ListAccountsRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListAccounts

ช่อง
page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนบัญชีสูงสุดที่จะแสดง บริการอาจแสดงผลน้อยกว่าค่านี้ หากไม่ระบุ ระบบจะส่งคืนบัญชีไม่เกิน 250 บัญชี ค่าสูงสุดคือ 500 ค่าที่มากกว่า 500 จะถูกเปลี่ยนเป็น 500

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListAccounts ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListAccounts ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ

filter

string

ไม่บังคับ ตัวกรองที่ไม่บังคับเพื่อให้แสดงเฉพาะบัญชีที่ตรงกับตัวกรอง

ตัวอย่างตัวกรองที่ใช้ได้มีดังนี้

  • accountName = "*store*" AND relationship(providerId = 123)
  • relationship(providerId = 123 AND service(type = "ACCOUNT_AGGREGATION"))
  • (accountName = "storeA") OR (accountName = "storeB")
  • relationship(service( handshakeState = "APPROVED" AND type = "ACCOUNT_MANAGEMENT"))
  • relationship(callerHasAccessToProvider() AND externalAccountId = "extAcctId" AND accountIdAlias = "alias")
  • (relationship(service(type = "ACCOUNT_MANAGEMENT") AND service(handshakeState = "PENDING"))) OR (accountName = "store" AND relationship(...))

ตัวกรองในระดับบัญชีจะมีความหมายดังต่อไปนี้

  • accountName หมายถึงช่อง accountName ของบัญชี
  • relationship(...) หมายถึงความสัมพันธ์ที่บัญชีมีอยู่ร่วมกับบัญชีอื่น สามารถระบุความสัมพันธ์นี้เพิ่มเติมภายในฟังก์ชันได้

ตัวกรองในระดับความสัมพันธ์จะมีความหมายดังนี้

  • providerId หมายถึงรหัสที่เป็นตัวเลขของบัญชีที่เป็นสมาชิกรายอื่นในความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น หากตัวกรองควรจำกัดเฉพาะบัญชีที่มีความสัมพันธ์กับบัญชี accounts/name/123 ควรกรอง providerId เป็น providerId = 123
  • callerHasAccessToProvider() การดำเนินการนี้จะจำกัดบัญชีผลลัพธ์ไว้กับบัญชีที่มีความสัมพันธ์กับบัญชีอื่นซึ่งผู้ใช้ที่โทรมีสิทธิ์เข้าถึงสมาชิกรายอื่นในความสัมพันธ์ (หรือผู้ให้บริการ) ได้ด้วย
  • externalAccountId คือรหัสบัญชีภายนอกที่กำหนดค่าสำหรับความสัมพันธ์
  • accountIdAlias หมายถึงชื่อแทนรหัสบัญชีที่กำหนดค่าสำหรับความสัมพันธ์
  • service(...) หมายถึงบริการที่มีให้โดยเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ หมายเหตุ: ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 บัญชีอาจประกอบด้วยบริการหลายอย่าง

ตัวกรองในระดับบริการมีความหมายต่อไปนี้

  • handshakeState หมายถึงสถานะแฮนด์เชคของบริการ เมื่อมีการให้บริการแล้ว บางครั้งสมาชิกของความสัมพันธ์นั้นต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกรายอื่นหรือทั้งสองฝ่ายก่อน ดังนั้นบริการอาจอยู่ในสถานะ PENDING หรือ APPROVED
  • type ส่วนนี้หมายถึงประเภทของบริการ โดยค่าที่เป็นไปได้มีดังนี้
    • ACCOUNT_MANAGEMENT ผู้ให้บริการเป็นผู้จัดการบัญชี
    • ACCOUNT_AGGREGATION ผู้ให้บริการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลบัญชี

ตัวกรองเป็นไปตามชุดย่อยของข้อกำหนดของตัวกรอง AIP และไวยากรณ์ EBNF อย่างเป็นทางการ ไวยากรณ์สำหรับตัวกรองนี้จะมีข้อจำกัดและเจาะจงมากกว่า

filter
    : accountFilterDisj
    | accountFilterConj
    ;
accountFilterDisj
    : "(" accountFilterConj " OR " accountFilterConj ")"
    ;
accountFilterConj
    : accountFilter {" AND " accountFilter}
    ;
accountFilter
    : accountNameFilter | relationshipFn
    ;
accountNameFilter
    : "accountName" comparator value
    ;
relationshipFn
    : "relationship(" relationshipConj ")"
    ;
relationshipConj
    : relationshipFilter {" AND " relationshipFilter}
    ;
relationshipFilter
    : "providerId = " numValue
    | "callerHasAccessToProvider()"
    | "externalAccountId" comparator value
    | "accountIdAlias" comparator value
    | serviceFn
    ;
serviceFn
    : "service(" serviceConj ")"
    ;
serviceConj
    : serviceFilter {" AND " serviceFilter}
    ;
serviceFilter
    : handshakeStateFilter
    | typeFilter
    ;
handshakeStateFilter
    : "handshakeState = " value
    ;
typeFilter
    : "type = " value
    ;
comparator
    : " = " | " != "
    ;

นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้

  • ช่องแต่ละช่องในคำสันธานอาจปรากฏเพียงครั้งเดียว (เช่น สามารถกรอง accountName ได้เพียงครั้งเดียวในระดับบัญชี หรือสามารถกรอง providerId ได้เพียงครั้งเดียวในแต่ละระดับความสัมพันธ์)
  • สำหรับช่องสตริง (เช่น accountName หรือ accountIdAlias) คุณจะแสดงโอเปอเรเตอร์ CONTAINS ด้วยการล้อมรอบคำค้นหาใน * ได้ เช่น accountName = "*foo*" จะแสดงผลบัญชีทั้งหมดที่มี accountName ที่มี foo คุณสามารถเลือกที่จะแสดงโอเปอเรเตอร์ NOT_CONTAINS ได้โดยใช้ != เช่น accountName != "*foo*" จะแสดงผลบัญชีทั้งหมดที่มี accountName ที่ไม่มี foo หมายเหตุ: คุณสามารถค้นหาบัญชีที่มี accountName ซึ่งมีอักขระดาว * ได้โดยใช้ ***
  • ระบบจะไม่สนใจช่องว่างเพิ่มเติม
  • ค่าทั้งหมดยกเว้นค่าที่เป็นตัวเลขเท่านั้นจะต้องอยู่ในเครื่องหมายคำพูดคู่
  • หากใช้การแยกส่วน คำสันธานในแต่ละด้านต้องใช้วงเล็บ แม้ว่าสันธานจะมีนิพจน์เดียวก็ตาม ไม่อนุญาตให้มีเครื่องหมายวงเล็บในที่อื่น ยกเว้นการเรียกฟังก์ชัน (เช่น relationship หรือ service) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคำสันธานจะเชื่อมโยงได้ดีกว่าการแบ่งแยกอย่างมีเหตุผล

ListAccountsResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListAccounts

ช่อง
accounts[]

Account

บัญชีที่ตรงกับ ListAccountsRequest

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListOnlineReturnPoliciesRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListOnlineReturnPolicies

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ บัญชีผู้ขายที่จะแสดงนโยบายคืนสินค้า รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนทรัพยากร OnlineReturnPolicy สูงสุดที่จะแสดง บริการจะแสดงผลน้อยกว่าค่านี้หากจำนวนนโยบายคืนสินค้าของผู้ขายที่ระบุน้อยกว่า pageSize ค่าเริ่มต้นคือ 10 ค่าสูงสุดคือ 100 หากระบุค่าที่สูงกว่าค่าสูงสุด ค่า pageSize จะเปลี่ยนเป็นค่าสูงสุด

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListOnlineReturnPolicies ก่อนหน้า ระบุโทเค็นหน้าเพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListOnlineReturnPolicies ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ โทเค็นแสดงผลเป็น nextPageToken ในการตอบกลับคำขอก่อนหน้า

ListOnlineReturnPoliciesResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListOnlineReturnPolicies

ช่อง
online_return_policies[]

OnlineReturnPolicy

นโยบายคืนสินค้าที่ดึงมา

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น pageToken เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListProgramsRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด ListPrograms

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ ชื่อบัญชีที่จะดึงข้อมูลโปรแกรมทั้งหมด รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนโปรแกรมสูงสุดที่จะแสดงในการตอบกลับเดียว หากไม่ระบุ (หรือ 0) จะใช้ขนาดเริ่มต้นคือ 1000 ค่าสูงสุดคือ 1,000 ค่าที่มากกว่า 1000 จะถูกเปลี่ยนเป็น 1000

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นต่อเนื่องที่ได้รับจากการโทร ListPrograms ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกดูหน้าถัดไป

ListProgramsResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListPrograms

ช่อง
programs[]

Program

โปรแกรมสำหรับบัญชีที่ระบุ

next_page_token

string

โทเค็นที่ส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไปได้ หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListRegionsRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListRegions

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ บัญชีที่จะแสดงภูมิภาค รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนภูมิภาคสูงสุดที่จะแสดง บริการอาจแสดงผลน้อยกว่าค่านี้ หากไม่ระบุ ระบบจะแสดงผลสูงสุด 50 ภูมิภาค ค่าสูงสุดคือ 1,000 ค่าที่มากกว่า 1000 จะถูกเปลี่ยนเป็น 1000

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListRegions ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListRegions ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ

ListRegionsResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListRegions

ช่อง
regions[]

Region

ภูมิภาคจากผู้ขายที่ระบุ

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListSubAccountsRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListSubAccounts

ช่อง
provider

string

ต้องระบุ บัญชีผู้ปกครอง รูปแบบ: accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนบัญชีสูงสุดที่จะแสดง บริการอาจแสดงผลน้อยกว่าค่านี้ หากไม่ระบุ ระบบจะส่งคืนบัญชีไม่เกิน 250 บัญชี ค่าสูงสุดคือ 500 ค่าที่มากกว่า 500 จะถูกเปลี่ยนเป็น 500

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListAccounts ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListAccounts ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ

ListSubAccountsResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListSubAccounts

ช่อง
accounts[]

Account

บัญชีที่บัญชีหลักที่ระบุเป็นผู้รวบรวมข้อมูล

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

ListUsersRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด ListUsers

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ ระดับบนสุดซึ่งเป็นเจ้าของคอลเล็กชันผู้ใช้นี้ รูปแบบ: "accounts/{account}

page_size

int32

ไม่บังคับ จำนวนผู้ใช้สูงสุดที่จะส่งคืน บริการอาจแสดงผลน้อยกว่าค่านี้ หากไม่ระบุ ระบบจะแสดงผลผู้ใช้ไม่เกิน 50 ราย ค่าสูงสุดคือ 100 ค่าที่มากกว่า 100 จะถูกเปลี่ยนเป็น 100

page_token

string

ไม่บังคับ โทเค็นของหน้าเว็บที่ได้รับจากการโทร ListUsers ก่อนหน้า โปรดระบุข้อมูลนี้เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป

เมื่อใส่เลขหน้า พารามิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดที่ให้กับ ListUsers ต้องตรงกับการเรียกใช้ที่ระบุโทเค็นของหน้าเว็บ

ListUsersResponse

ข้อความตอบกลับสำหรับเมธอด ListUsers

ช่อง
users[]

User

ผู้ใช้จากบัญชีที่ระบุ

next_page_token

string

โทเค็นซึ่งสามารถส่งเป็น page_token เพื่อเรียกข้อมูลหน้าถัดไป หากเว้นช่องนี้ไว้ จะไม่มีหน้าลำดับต่อมา

LocationIdSet

รายการชุดรหัสสถานที่ตั้ง ต้องระบุ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

ช่อง
location_ids[]

string

ต้องระบุ รายการรหัสสถานที่ตั้งที่ไม่ว่างเปล่า โดยทั้งหมดต้องอยู่ในประเภทสถานที่ตั้งเดียวกัน (เช่น รัฐ)

MinimumOrderValueTable

ตารางมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำต่อร้านค้าสำหรับประเภทการจำหน่ายแบบมารับที่ร้าน

ช่อง
store_code_set_with_movs[]

StoreCodeSetWithMov

ต้องระบุ รายการชุดรหัสร้านค้าที่แชร์มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOV) เดียวกัน ต้องมีอย่างน้อย 2 ชุด โดยชุดสุดท้ายต้องว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่า "MOV สำหรับร้านค้าอื่นๆ ทั้งหมด" รหัสร้านค้าแต่ละรหัสจะปรากฏได้เพียงครั้งเดียวในทุกชุด ราคาทั้งหมดในบริการต้องมีสกุลเงินเดียวกัน

StoreCodeSetWithMov

รายการชุดรหัสร้านค้าที่มีมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำเท่ากัน ต้องมีอย่างน้อย 2 ชุด โดยชุดสุดท้ายต้องว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่า "MOV สำหรับร้านค้าอื่นๆ ทั้งหมด" รหัสร้านค้าแต่ละรหัสจะปรากฏได้เพียงครั้งเดียวในทุกชุด ราคาทั้งหมดในบริการต้องมีสกุลเงินเดียวกัน

ช่อง
store_codes[]

string

ไม่บังคับ รายการรหัสร้านค้าที่ไม่ซ้ำกันหรือเว้นว่างไว้สำหรับจับทั้งหมด

value

Price

มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับร้านค้าที่ระบุ

OnlineReturnPolicy

นโยบายคืนสินค้าออนไลน์ ปัจจุบัน URL นี้ใช้เพื่อแสดงนโยบายคืนสินค้าของโปรแกรมโฆษณาและโปรแกรมข้อมูลที่แสดงฟรี

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากร OnlineReturnPolicy รูปแบบ: accounts/{account}/onlineReturnPolicies/{return_policy}

return_policy_id

string

เอาต์พุตเท่านั้น รหัสนโยบายคืนสินค้าที่ Google สร้างขึ้น

label

string

ช่องนี้แสดงป้ายกำกับที่ไม่ซ้ำที่ผู้ใช้กำหนดของนโยบายคืนสินค้า โปรดทราบว่าคุณใช้ป้ายกำกับเดียวกันในนโยบายคืนสินค้าที่แตกต่างกันสำหรับประเทศเดียวกันไม่ได้ นโยบายจะได้รับการติดป้ายกำกับเป็น "ค่าเริ่มต้น" โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่าผลิตภัณฑ์จะระบุแอตทริบิวต์ป้ายกำกับที่เฉพาะเจาะจง หากต้องการกำหนดนโยบายคืนสินค้าที่กำหนดเองให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์บางกลุ่ม ให้ทำตามวิธีการที่ระบุไว้ในป้ายกำกับนโยบายคืนสินค้า ป้ายกำกับมีอักขระได้สูงสุด 50 ตัว

countries[]

string

ประเทศที่ขายที่ใช้นโยบายคืนสินค้า ค่าต้องเป็นรหัส ISO 3166 แบบ 2 ตัวอักษรที่ถูกต้อง

policy

Policy

นโยบายคืนสินค้า

restocking_fee

RestockingFee

ค่าธรรมเนียมในการนำสินค้ากลับเข้าคลังที่ใช้กับหมวดหมู่เหตุผลในการคืนสินค้าทั้งหมด ซึ่งจะถือว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการนำสินค้ากลับเข้าคลังฟรีหากไม่ได้ตั้งค่าไว้

return_methods[]

ReturnMethod

วิธีการคืนสินค้าของลูกค้า ต้องระบุค่านี้ ยกเว้นในกรณีที่ประเภทนโยบายคืนสินค้าเป็น noReturns

item_conditions[]

ItemCondition

ต้องระบุเงื่อนไขสินค้าที่ยอมรับสำหรับการคืนสินค้า เว้นแต่จะประเภทนโยบายคืนสินค้าเป็น "ไม่คืนสินค้า"

return_shipping_fee

ReturnShippingFee

ค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้า ควรตั้งค่าเมื่อลูกค้าต้องดาวน์โหลดและพิมพ์ป้ายกำกับการคืนสินค้าเท่านั้น

return_policy_uri

string

URI นโยบายคืนสินค้า Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของนโยบาย ต้องเป็น URL ที่ถูกต้อง

accept_defective_only

bool

ช่องนี้ระบุว่าผู้ขายยอมรับเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องในการคืนสินค้าเท่านั้นหรือไม่และต้องระบุช่องนี้

process_refund_days

int32

ช่องนี้ระบุจำนวนวันที่ใช้ในการดำเนินการคืนเงินให้แก่ผู้ขาย และเป็นช่องที่ไม่บังคับ

accept_exchange

bool

ช่องนี้ระบุว่าผู้ขายอนุญาตให้ลูกค้าแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือไม่ ต้องระบุช่องนี้

ItemCondition

เงื่อนไขรายการที่พร้อมใช้งาน

Enum
ITEM_CONDITION_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
NEW ใหม่
USED ใช้แล้ว

นโยบาย

นโยบายที่มีอยู่

ช่อง
type

Type

ประเภทนโยบาย

days

int64

จำนวนวันที่สามารถส่งคืนสินค้าหลังการนำส่ง โดย 1 วันหมายถึง 24 ชั่วโมงหลังจากการประทับเวลาการนำส่ง ต้องระบุสำหรับการส่งคืน NUMBER_OF_DAYS_AFTER_DELIVERY

ประเภท

ประเภทนโยบายคืนสินค้า

Enum
TYPE_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
NUMBER_OF_DAYS_AFTER_DELIVERY จำนวนวันที่ใช้การคืนสินค้าได้หลังจากการนำส่ง
NO_RETURNS ไม่รับคืนสินค้า
LIFETIME_RETURNS คืนสินค้าได้ทุกเมื่อ

RestockingFee

มีค่าธรรมเนียมในการนำสินค้ากลับเข้าคลัง ซึ่งอาจเป็นค่าธรรมเนียมแบบคงที่หรือไมโครเปอร์เซ็นต์

ช่อง

ช่องการรวม type

type ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้

fixed_fee

Price

มีค่าธรรมเนียมในการนำสินค้ากลับเข้าคลังแบบคงที่

micro_percent

int32

เปอร์เซ็นต์ของราคารวมในระดับไมโคร 15,000,000 หมายความว่าจะเรียกเก็บ 15% ของราคารวม

ReturnMethod

วิธีการคืนสินค้าที่มีให้บริการ

Enum
RETURN_METHOD_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
BY_MAIL ส่งคืนทางไปรษณีย์
IN_STORE ส่งคืนที่ร้านค้า
AT_A_KIOSK ส่งคืนที่ตู้รับคืนสินค้า

ReturnShippingFee

ค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้า ซึ่งอาจเป็นค่าธรรมเนียมคงที่หรือบูลีนเพื่อระบุว่าลูกค้าชำระค่าจัดส่งจริง

ช่อง
type

Type

ประเภทค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้า

fixed_fee

Price

จำนวนเงินค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้าแบบคงที่ ค่านี้จะใช้เมื่อประเภทคือ FIXED เท่านั้น เราจะถือว่าค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้าเป็นฟรีหากประเภทเป็น FIXED และไม่ได้ตั้งค่านี้

ประเภท

ประเภทค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้า

Enum
TYPE_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
FIXED ค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้าเป็นค่าคงที่
CUSTOMER_PAYING_ACTUAL_FEE ลูกค้าจะชำระค่าธรรมเนียมการส่งคืนสินค้าตามจริง

PhoneVerificationState

สถานะการยืนยันทางโทรศัพท์

Enum
PHONE_VERIFICATION_STATE_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
PHONE_VERIFICATION_STATE_VERIFIED ยืนยันโทรศัพท์แล้ว
PHONE_VERIFICATION_STATE_UNVERIFIED โทรศัพท์เครื่องนี้ไม่ได้รับการยืนยัน

รายการ

ระบุการเข้าร่วมในโปรแกรมหนึ่งๆ สำหรับบัญชีที่ระบุ

โปรแกรมมีกลไกสำหรับการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานในบัญชีผู้ขาย ตัวอย่างโดยทั่วไปของกรณีนี้คือโปรแกรมข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากร้านค้าของผู้ขายแสดงใน Google ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของโปรแกรม รูปแบบ: accounts/{account}/programs/{program}

documentation_uri

string

เอาต์พุตเท่านั้น URL ของหน้าความช่วยเหลือของ Merchant Center ที่อธิบายโปรแกรม

state

State

เอาต์พุตเท่านั้น สถานะการเข้าร่วมของบัญชีในโปรแกรม

active_region_codes[]

string

เอาต์พุตเท่านั้น ภูมิภาคที่บัญชีเข้าร่วมโปรแกรมอยู่ ภูมิภาคที่มีการใช้งานหมายถึงภูมิภาคที่มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของโปรแกรมทั้งหมดที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค

รหัสภูมิภาคจะกำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศที่โปรแกรมดังกล่าวมีผลกับประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะ หรือ001เมื่อโปรแกรมมีผลบังคับใช้ทั่วโลก

unmet_requirements[]

Requirement

เอาต์พุตเท่านั้น ข้อกำหนดที่บัญชียังขาดความพึงพอใจซึ่งส่งผลต่อการเข้าร่วมโปรแกรม

ข้อกำหนด

ระบุข้อกำหนดที่ระบุไว้สำหรับการเข้าร่วมโปรแกรม

ช่อง
title

string

เอาต์พุตเท่านั้น ชื่อของข้อกำหนด

documentation_uri

string

เอาต์พุตเท่านั้น URL ของหน้าความช่วยเหลือที่อธิบายข้อกำหนด

affected_region_codes[]

string

เอาต์พุตเท่านั้น ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดนี้ไม่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดในปัจจุบัน

รหัสภูมิภาคจะกำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศที่โปรแกรมดังกล่าวมีผลกับประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะ หรือ001เมื่อโปรแกรมมีผลบังคับใช้ทั่วโลก

รัฐ

สถานะการเข้าร่วมโปรแกรมของบัญชีที่เป็นไปได้

Enum
STATE_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
NOT_ELIGIBLE บัญชีนี้ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรม
ELIGIBLE บัญชีมีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรม
ENABLED มีการเปิดใช้โปรแกรมสำหรับบัญชีแล้ว

RateGroup

คำจำกัดความของกลุ่มอัตราค่าจัดส่ง เฉพาะรายการสุดท้ายเท่านั้นที่จะมี applicable_shipping_labels ที่ว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่า "ทุกอย่างที่เหลือ" applicable_shipping_labels อื่นๆ ต้องไม่ทับซ้อนกัน

ช่อง
applicable_shipping_labels[]

string

ต้องระบุ รายการป้ายกำกับการจัดส่งที่กำหนดผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มอัตรานี้ใช้ การแยกส่วนนี้มีป้ายกำกับเพียง 1 ป้ายเท่านั้นที่ต้องตรงกับกลุ่มอัตราที่จะใช้ อาจว่างเปล่าสำหรับกลุ่มราคาล่าสุดของบริการเท่านั้น

subtables[]

Table

ไม่บังคับ รายการตารางย่อยที่ main_table อ้างอิงถึง ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อตั้งค่า main_table ไว้เท่านั้น

carrier_rates[]

CarrierRate

ไม่บังคับ รายการอัตราของผู้ให้บริการขนส่งที่ main_table หรือ single_value อ้างอิงได้

single_value

Value

มูลค่าของกลุ่มราคา (เช่น อัตราคงที่ $10) ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่า main_table และ subtables

main_table

Table

ตารางที่กำหนดกลุ่มอัตรา เมื่อ single_value ไม่ได้แสดงชัดเจนเพียงพอ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่า single_value

name

string

ไม่บังคับ ชื่อกลุ่มอัตรา หากการตั้งค่าต้องไม่ซ้ำกันในบริการจัดส่ง

ภูมิภาค

แสดงภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่คุณสามารถใช้เป็นเป้าหมายสำหรับทั้งบริการ RegionalInventory และ ShippingSettings คุณสามารถกำหนดภูมิภาคเป็นคอลเล็กชันของรหัสไปรษณีย์ หรือในบางประเทศ โดยใช้เป้าหมายตามภูมิศาสตร์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ตั้งค่าภูมิภาค

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของภูมิภาค รูปแบบ: accounts/{account}/regions/{region}

postal_code_area

PostalCodeArea

ไม่บังคับ รายการรหัสไปรษณีย์ที่กำหนดพื้นที่ภูมิภาค

geotarget_area

GeoTargetArea

ไม่บังคับ รายการเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ซึ่งกำหนดพื้นที่ภูมิภาค

regional_inventory_eligible

BoolValue

เอาต์พุตเท่านั้น ระบุว่าภูมิภาคมีสิทธิ์ใช้การกำหนดค่าสินค้าคงคลังระดับภูมิภาคหรือไม่

shipping_eligible

BoolValue

เอาต์พุตเท่านั้น ระบุว่าภูมิภาคมีสิทธิ์ใช้การกำหนดค่าบริการจัดส่งหรือไม่

display_name

string

ไม่บังคับ ชื่อที่แสดงของภูมิภาค

GeoTargetArea

รายการเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ซึ่งกำหนดพื้นที่ภูมิภาค

ช่อง
geotarget_criteria_ids[]

int64

ต้องระบุ รายการรหัสสถานที่ตั้งที่ไม่ว่างเปล่า โดยทั้งหมดต้องอยู่ในประเภทสถานที่ตั้งเดียวกัน (เช่น รัฐ)

PostalCodeArea

รายการรหัสไปรษณีย์ที่กำหนดพื้นที่ภูมิภาค หมายเหตุ: ทุกภูมิภาคที่กำหนดโดยใช้รหัสไปรษณีย์สามารถเข้าถึงได้ผ่านทรัพยากร ShippingSettings.postalCodeGroups ของบัญชี

ช่อง
region_code

string

ต้องระบุ รหัสเขตแดน CLDR หรือกลุ่มรหัสไปรษณีย์ที่ใช้

postal_codes[]

PostalCodeRange

ต้องระบุ ช่วงของรหัสไปรษณีย์

PostalCodeRange

ช่วงของรหัสไปรษณีย์ซึ่งกำหนดพื้นที่ภูมิภาค

ช่อง
begin

string

ต้องระบุ รหัสไปรษณีย์หรือรูปแบบของคำนำหน้าแบบฟอร์ม* ที่แสดงถึงขอบเขตล่างของช่วงที่ครอบคลุมพื้นที่ที่กำหนด ค่าตัวอย่าง ได้แก่ 94108, 9410*, 9*

end

string

ไม่บังคับ รหัสไปรษณีย์หรือรูปแบบของแบบฟอร์ม prefix* ซึ่งแสดงถึงขอบเขตบนของช่วงที่จำกัดพื้นที่ รหัสต้องมีความยาวเท่ากับ zipCodeRangeBegin: ถ้า ถ้า zipCodeRangeBegin เป็นรหัสไปรษณีย์ zipCodeRangeEnd จะต้องเป็นรหัสไปรษณีย์เช่นกัน ถ้า zipCodeRangeBegin เป็นรูปแบบ zipCodeRangeEnd ต้องอยู่ในรูปแบบที่มีความยาวของคำนำหน้าเท่ากัน ไม่บังคับ: หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะกําหนดพื้นที่เป็นรหัสไปรษณีย์ทั้งหมดที่ตรงกับ zipCodeRangeBegin

จำเป็น

อธิบายข้อกำหนดในการให้บริการซึ่งจำเป็นต้องยอมรับ

ช่อง
terms_of_service

string

termsOfService ที่ต้องยอมรับ

tos_file_uri

string

URL แบบเต็มไปยังไฟล์ข้อกำหนดในการให้บริการ ช่องนี้เหมือนกับ TermsOfService.file_uri ซึ่งเพิ่มไว้ที่นี่เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น

RetrieveForApplicationTermsOfServiceAgreementStateRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด RetrieveForApplicationTermsOfServiceAgreementState

ช่อง
parent

string

ต้องระบุ บัญชีที่จะรับรูปแบบ TermsOfServiceAgreementState: accounts/{account}

RetrieveLatestTermsOfServiceRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด RetrieveLatestTermsOfService

ช่อง
region_code

string

รหัสภูมิภาคตามที่กำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศเมื่อข้อกำหนดในการให้บริการมีผลบังคับใช้ในประเทศนั้นโดยเฉพาะ หรือ 001 เมื่อบังคับใช้ทั่วโลก

kind

TermsOfServiceKind

ประเภทที่ข้อกำหนดในการให้บริการเวอร์ชันนี้มีผล

แถว

รวมรายการเซลล์

ช่อง
cells[]

Value

ต้องระบุ รายการเซลล์ที่ประกอบขึ้นเป็นแถว ต้องมีความยาวเท่ากับ columnHeaders สําหรับตาราง 2 มิติ ความยาวเท่ากับ 1 สําหรับตารางแบบ 1 มิติ

บริการ

บริการจัดส่ง

ช่อง
delivery_countries[]

string

ต้องระบุ รหัสเขตแดน CLDR ของประเทศที่ใช้บริการ

rate_groups[]

RateGroup

ไม่บังคับ คำจำกัดความของกลุ่มอัตราค่าจัดส่ง เฉพาะรายการสุดท้ายเท่านั้นที่จะมี applicable_shipping_labels ที่ว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่า "ทุกอย่างที่เหลือ" applicable_shipping_labels อื่นๆ ต้องไม่ทับซ้อนกัน

loyalty_programs[]

LoyaltyProgram

ไม่บังคับ โปรแกรมสะสมคะแนนที่จำกัดไว้สำหรับบริการจัดส่งนี้

service_name

string

ต้องระบุ ชื่อบริการรูปแบบอิสระ ต้องไม่ซ้ำกันภายในบัญชีเป้าหมาย

active

bool

ต้องระบุ บูลีนที่แสดงสถานะที่ใช้งานอยู่ของบริการจัดส่ง

currency_code

string

รหัส CLDR ของสกุลเงินที่ใช้บริการนี้ ต้องตรงกับราคาในกลุ่มราคา

delivery_time

DeliveryTime

ต้องระบุ เวลาที่ใช้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่การสั่งซื้อไปจนถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์

shipment_type

ShipmentType

ประเภทสถานที่ที่บริการนี้จัดส่งคำสั่งซื้อ

minimum_order_value

Price

มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับบริการนี้ หากตั้งค่าไว้ แสดงว่าลูกค้าจะต้องใช้จ่ายตามจำนวนนี้เป็นอย่างน้อย ราคาทั้งหมดในบริการต้องมีสกุลเงินเดียวกัน ตั้งค่าพร้อมกับminimum_order_value_table ไม่ได้

minimum_order_value_table

MinimumOrderValueTable

ตารางมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำต่อร้านค้าสำหรับประเภทการจำหน่ายแบบมารับที่ร้าน ตั้งค่าพร้อมกับข้อกำหนดขั้นต่ำ_order_value ไม่ได้

store_config

StoreConfig

รายการร้านค้าที่มีการนำส่งผลิตภัณฑ์ ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับประเภทการจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น

LoyaltyProgram

โปรแกรมสะสมคะแนนที่ผู้ขายให้บริการ

ช่อง
loyalty_program_tiers[]

LoyaltyProgramTiers

ไม่บังคับ ระดับโปรแกรมสะสมคะแนนของบริการจัดส่งนี้

program_label

string

นี่คือป้ายกำกับโปรแกรมสะสมคะแนนที่กำหนดไว้ในการตั้งค่าโปรแกรมสะสมคะแนนใน Merchant Center แอตทริบิวต์ย่อยนี้ช่วยให้ Google แมปโปรแกรมสะสมคะแนนกับข้อเสนอที่มีสิทธิ์ได้

LoyaltyProgramTiers

โปรแกรมสะสมคะแนนของผู้ขายบางส่วน

ช่อง
tier_label

string

แอตทริบิวต์ย่อยป้ายกำกับระดับขั้น [tier_label] จะแยกความแตกต่างของสิทธิประโยชน์ของระดับข้อเสนอในแต่ละระดับ ค่านี้ยังกำหนดไว้ในการตั้งค่าโปรแกรมใน Merchant Center ด้วย และจำเป็นต้องมีสำหรับการเปลี่ยนแปลงแหล่งข้อมูลแม้ว่าโปรแกรมสะสมคะแนนจะมีเพียง 1 ระดับ

ShipmentType

ประเภทการจัดส่งของบริการจัดส่ง

Enum
SHIPMENT_TYPE_UNSPECIFIED บริการนี้ไม่ได้ระบุประเภทการจัดส่ง
DELIVERY บริการนี้จะจัดส่งคำสั่งซื้อไปยังที่อยู่ที่ลูกค้าเลือก
LOCAL_DELIVERY บริการนี้จะจัดส่งคำสั่งซื้อไปยังที่อยู่ที่ลูกค้าเลือก คำสั่งซื้อนี้จัดส่งจากร้านค้าในพื้นที่ใกล้เคียง
COLLECTION_POINT บริการนี้จะจัดส่งคำสั่งซื้อไปยังที่อยู่ที่ลูกค้าเลือก สินค้าจะจัดส่งจากจุดรับสินค้า

StoreConfig

รายการร้านค้าที่มีการนำส่งผลิตภัณฑ์ ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับประเภทการจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น

ช่อง
store_codes[]

string

ไม่บังคับ รายการรหัสร้านค้าที่มีการนำส่งในพื้นที่ หากเว้นว่างไว้ all_stores ต้องเป็น "จริง"

store_service_type

StoreServiceType

ระบุว่าร้านค้าทั้งหมดหรือร้านค้าที่เลือกไว้ทั้งหมดที่ระบุโดยผู้ขายรายนี้มีบริการจัดส่งในพื้นที่หรือไม่

cutoff_config

CutoffConfig

การกำหนดค่าที่เกี่ยวข้องกับการนำส่งในพื้นที่สิ้นสุดของวัน

service_radius

Distance

รัศมีสูงสุดสำหรับการนำส่ง ขั้นตอนนี้จำเป็นสำหรับประเภทการจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น

CutoffConfig

การกำหนดค่าที่เกี่ยวข้องกับการนำส่งในพื้นที่สิ้นสุดของวัน

ช่อง
local_cutoff_time

LocalCutoffTime

เวลาที่การนำส่งในพื้นที่จะสิ้นสุดในวันนั้นๆ

store_close_offset_hours

int64

ใช้ได้กับการจำหน่ายแบบจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น แสดงเวลาปิดรับคำสั่งซื้อเป็นจำนวนชั่วโมงก่อนปิดร้าน พิเศษสำหรับ local_cutoff_time

no_delivery_post_cutoff

bool

ผู้ขายสามารถเลือกไม่ใช้การแสดงการนำส่งในพื้นที่ n+1 วันได้หากกำหนดค่าบริการจัดส่งเป็นการนำส่งในพื้นที่ n วัน เช่น หากบริการจัดส่งกำหนดการนำส่งวันเดียวกันและเลยเวลาปิดรับคำสั่งซื้อแล้ว การตั้งค่าช่องนี้เป็น true จะส่งผลให้อัตราค่าจัดส่งที่คำนวณแล้วกลับมาเป็น NO_DELIVERY_POST_CUTOFF ในตัวอย่างเดียวกัน การตั้งค่าช่องนี้เป็น false จะส่งผลให้เวลาจัดส่งที่คำนวณได้คือ 1 วัน ตัวเลือกนี้ใช้สำหรับการจัดส่งในพื้นที่เท่านั้น

LocalCutoffTime

เวลาที่การนำส่งในพื้นที่จะสิ้นสุดในวันนั้นๆ

ช่อง
hour

int64

คำสั่งซื้อที่มีการจัดส่งในพื้นที่ภายในเวลาทำการจะต้องดำเนินการภายในวันเดียวกัน

minute

int64

คำสั่งซื้อที่นำส่งในพื้นที่เป็นเวลาตามนาทีจะต้องดำเนินการภายในวันเดียวกัน

StoreServiceType

ระบุว่าร้านค้าทั้งหมดหรือร้านค้าที่เลือกไว้ที่ผู้ขายระบุไว้จะมีการนำส่งในพื้นที่

Enum
STORE_SERVICE_TYPE_UNSPECIFIED ไม่ได้ระบุประเภทบริการของร้านค้า
ALL_STORES ระบุว่าร้านค้าทั้งหมดทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ผู้ขายรายนี้แสดงไว้มีการนำส่งในพื้นที่หรือไม่
SELECTED_STORES ระบุว่าเฉพาะร้านค้าที่แสดงในstore_codesเท่านั้นที่มีสิทธิ์สำหรับการนำส่งในพื้นที่

ShippingSettings

[การตั้งค่าการจัดส่ง]((https://support.google.com/merchants/answer/6069284)ของบัญชีผู้ขาย

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของการตั้งค่าการจัดส่ง รูปแบบ: accounts/{account}/shippingSetting

services[]

Service

ไม่บังคับ รายการบริการของบัญชีเป้าหมาย

warehouses[]

Warehouse

ไม่บังคับ รายการคลังสินค้าที่อ้างอิงได้ในservices

etag

string

ต้องระบุ ช่องนี้ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการซิงค์ไม่ได้ ตรวจสอบว่าข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างรับสายและแทรกการโทร ให้ผู้ใช้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ :

  1. ตั้งค่าช่อง Etag เป็นสตริงว่างเปล่าสำหรับการสร้างการตั้งค่าการจัดส่งเริ่มต้น

  2. หลังจากการสร้างครั้งแรก ให้เรียกใช้เมธอด Get เพื่อรับ eTag และข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งปัจจุบันก่อนแทรกการเรียกใช้

  3. แก้ไขข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งตามต้องการ

  4. วิธีแทรกการโทรที่มีข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งที่ต้องการกับ eTag ที่ได้รับจากขั้นตอนที่ 2

  5. หากข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างขั้นตอนที่ 2 ถึงขั้นตอนที่ 4 คำขอแทรกจะล้มเหลวเนื่องจากแท็กอิเล็กทรอนิกส์จะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่ข้อมูลการตั้งค่าการจัดส่งเปลี่ยนแปลง ผู้ใช้ควรทำขั้นตอนที่ 2-4 ซ้ำกับแท็กใหม่

ตาราง

ตารางที่กำหนดกลุ่มอัตรา เมื่อ single_value ไม่ได้แสดงชัดเจนเพียงพอ

ช่อง
rows[]

Row

ต้องระบุ รายการแถวที่ประกอบขึ้นเป็นตาราง ต้องมีความยาวเท่ากับ row_headers

name

string

ชื่อตาราง ต้องระบุสำหรับตารางย่อย โดยไม่คำนึงถึงตารางหลัก

row_headers

Headers

ต้องระบุ ส่วนหัวของแถวของตาราง

column_headers

Headers

ส่วนหัวของคอลัมน์ของตาราง ไม่บังคับ: หากไม่ได้ตั้งค่า ตารางจะมีมิติข้อมูลเพียง 1 รายการ

TaxRule

การประชุมประเภทหลัก

เปอร์เซ็นต์ micro : 100% = 1 000 000 และ 1% = 10 000 ไม่สามารถเป็นค่าลบได้

ข้อมูลเกี่ยวกับจุดเชื่อมโยงภาษีและพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องซึ่งเกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อที่นำส่งไปยังพื้นที่ที่ครอบคลุมโดยผู้ดูแลระบบภาษีรายเดียว Nexus จะสร้างขึ้นเมื่อผู้ขายดำเนินธุรกิจในพื้นที่ที่ดูแลโดยผู้ดูแลภาษี (เฉพาะรัฐในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ได้รับการสนับสนุนสำหรับการกำหนดค่าหลักความสัมพันธ์) หากผู้ขายมีสถานที่ดำเนินธุรกิจในรัฐในสหรัฐอเมริกา ผู้ขายจะต้องชำระภาษีให้หน่วยงานด้านภาษีทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับปลายทางการจัดส่ง รหัสถัดไป : 8

ช่อง
region_code

string

รหัสภูมิภาคที่กฎนี้มีผลบังคับใช้

shipping_taxed

bool

หากตั้งค่าไว้ ระบบจะคิดค่าจัดส่ง (ในอัตราเดียวกับผลิตภัณฑ์) เมื่อนำส่งสินค้าไปยังพื้นที่ของผู้ดูแลระบบรายนี้ ตั้งค่าได้เฉพาะในรัฐในสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีหมวดหมู่

effective_time_period

Interval

ต้องระบุ ระยะเวลาที่กฎนี้มีผลบังคับใช้ หากระยะเวลาขาดหายไปจาก performance_time ที่ระบุไว้ แสดงว่าเป็นปลายเปิดในอนาคต จุดเริ่มต้นของระยะเวลานี้นับรวมและวันที่สิ้นสุดจะนับรวมด้วย

ช่องการรวม location อธิบายสถานที่ตั้งผ่านช่วงของรหัสไปรษณีย์หรือรหัสเกณฑ์ location ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้
location_id

int64

admin_id หรือcriterion_id ของภูมิภาคที่ใช้กฎนี้

post_code_range

TaxPostalCodeRange

ช่วงของรหัสไปรษณีย์ที่กฎนี้มีผลบังคับใช้

ช่องการรวม rate_calculation วิธีการคำนวณอัตราภาษีสำหรับการจัดส่งไปยังพื้นที่ของผู้ดูแลระบบรายนี้คืออะไร ตั้งค่าได้เฉพาะในรัฐในสหรัฐอเมริกา rate_calculation ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้
use_google_rate

bool

ราคาจะขึ้นอยู่กับสถานที่นำส่ง: หากผู้ขายมีจุดเชื่อมโยงในรัฐที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกา ระบบจะเพิ่มราคาจากหน่วยงานที่มีเขตอำนาจศาลเหนือพื้นที่นำส่ง

self_specified_rate_micros

int64

อัตราคงที่ที่ระบุในไมโคร โดยที่ 100% = 1_000_000 เหมาะสำหรับรัฐต้นทาง

TaxPostalCodeRange

ช่วงของรหัสไปรษณีย์ซึ่งกำหนดพื้นที่

ช่อง
start

string

ต้องระบุ จุดเริ่มต้นของช่วงรหัสไปรษณีย์ ซึ่งเป็นค่าต่ำสุดของช่วงด้วย

end

string

จุดสิ้นสุดของช่วงรหัสไปรษณีย์ จะเหมือนกับ "เริ่ม" หากไม่ได้ระบุไว้

TermsOfService

TermsOfService

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ รูปแบบ: termsOfService/{version}

region_code

string

รหัสภูมิภาคตามที่กำหนดโดย CLDR โดยจะเป็นประเทศที่ข้อกำหนดในการให้บริการมีผลบังคับใช้กับประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะ หรือ001เมื่อลงชื่อเข้าใช้TermsOfServiceเดียวกันในประเทศใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเมื่อลงนามในข้อกำหนดในการให้บริการที่มีผลทั่วโลก เราคาดหวังว่าจะต้องมีประเทศที่เจาะจง (ควรเป็นประเทศของธุรกิจของผู้ขายหรือประเทศที่ร่วมโปรแกรม)

kind

TermsOfServiceKind

ประเภทที่ข้อกำหนดในการให้บริการเวอร์ชันนี้มีผล

external

bool

ข้อกำหนดในการให้บริการเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันภายนอกหรือไม่ การยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการเวอร์ชันภายนอกจะต้องผ่านกระบวนการภายนอกเท่านั้น โดยผู้ขายจะยอมรับผ่าน UI หรือ API โดยตรงไม่ได้

file_uri

string

URI สำหรับไฟล์ข้อกำหนดในการให้บริการที่ต้องแสดงต่อผู้ใช้ที่ลงนาม

TermsOfServiceAgreementState

แหล่งข้อมูลนี้แสดงสถานะข้อตกลงสำหรับบัญชีและข้อกำหนดในการให้บริการแต่ละประเภท โดยมีรัฐดังนี้

  • หากผู้ขายยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการแล้ว ระบบจะป้อนข้อมูลที่ยอมรับแล้ว มิเช่นนั้นก็จะว่างเปล่า
  • หากผู้ขายต้องลงนามในข้อกำหนดในการให้บริการ ระบบจะป้อนข้อมูลต้องระบุ ไม่เช่นนั้นจะว่างเปล่า

โปรดทราบว่าสามารถแสดงอยู่ได้ทั้งที่จำเป็นและที่ยอมรับแล้ว ในกรณีนี้ ข้อกำหนดในการให้บริการของ accepted จะมีวันที่หมดอายุกำหนดไว้ในช่อง valid_until คุณต้องยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการของ required ก่อนวันที่ valid_until บัญชีจึงจะมีข้อตกลงที่ถูกต้องต่อไป เมื่อยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการใหม่ เราคาดว่าบุคคลที่สามจะแสดงข้อความที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงเกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการที่ระบุ (ระบบจะเพิ่ม URL ของไฟล์ที่มีข้อความดังกล่าวลงในข้อความ "จำเป็น" ด้านล่างเป็น tos_file_uri การยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการจริงจะกระทำโดยการโทรเป็น "ยอมรับ" ในแหล่งข้อมูล TermsOfService

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของเวอร์ชันของข้อกำหนดในการให้บริการ รูปแบบ: accounts/{account}/termsOfServiceAgreementState/{identifier}

region_code

string

รหัสภูมิภาคตามที่กำหนดโดย https://cldr.unicode.org/ นี่คือประเทศที่รัฐปัจจุบันมีผลบังคับใช้

terms_of_service_kind

TermsOfServiceKind

ประเภทของข้อกำหนดในการให้บริการที่เชื่อมโยงกับเวอร์ชันนั้นๆ

accepted

Accepted

ข้อกำหนดในการให้บริการประเภทนี้ที่ยอมรับและสำหรับregion_code ที่เกี่ยวข้อง

required

Required

ข้อกำหนดในการให้บริการที่กำหนด

TermsOfServiceKind

ประเภทของข้อกำหนดในการให้บริการ

Enum
TERMS_OF_SERVICE_KIND_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
MERCHANT_CENTER แอปพลิเคชัน Merchant Center

TransitTable

ตารางเวลาขนส่ง จำนวนวันทำการที่ใช้ในการขนส่งตามมิติข้อมูลของแถวและคอลัมน์ ตั้งค่า min_transit_days, max_transit_days หรือ transit_time_table ได้ แต่ตั้งค่าทั้ง 2 อย่างไม่ได้

ช่อง
postal_code_group_names[]

string

ต้องระบุ รายชื่อภูมิภาค Region.name ค่าสุดท้ายสามารถเป็น "all other locations" ได้ ตัวอย่างเช่น ["zone 1", "zone 2", "all other locations"] กลุ่มรหัสไปรษณีย์ที่อ้างอิงต้องตรงกับประเทศที่นำส่งของบริการ

transit_time_labels[]

string

ต้องระบุ รายการป้ายกำกับเวลาขนส่ง ค่าสุดท้ายสามารถเป็น "all other labels" ได้ ตัวอย่างเช่น ["food", "electronics", "all other labels"]

rows[]

TransitTimeRow

ต้องระบุ หากมีชุดมิติข้อมูล postal_code_group_names หรือ transit_time_labels เพียงชุดเดียว แต่ละแถวจะมีหลายแถวที่มีค่าเดียวสำหรับมิติข้อมูลนั้น หากมีมิติข้อมูล 2 รายการ แต่ละแถวจะตรงกับ postal_code_group_names และคอลัมน์ (ค่า) ของ transit_time_labels

TransitTimeRow

หากมีชุดมิติข้อมูล postal_code_group_names หรือ transit_time_labels เพียงชุดเดียว แต่ละแถวจะมีหลายแถวที่มีค่าเดียวสำหรับมิติข้อมูลนั้น หากมีมิติข้อมูล 2 รายการ แต่ละแถวจะตรงกับ postal_code_group_names และคอลัมน์ (ค่า) ของ transit_time_labels

ช่อง
values[]

TransitTimeValue

ต้องระบุ ช่วงเวลาขนส่ง (ขั้นต่ำสูงสุด) ในวันทำการ

TransitTimeValue

ช่วงเวลาขนส่ง (ขั้นต่ำสูงสุด) ในวันทำการ

ช่อง
min_transit_days

int32

ช่วงเวลาจัดส่งขั้นต่ำในวันทำการ 0 หมายถึงการนำส่งวันเดียวกัน 1 หมายถึงการนำส่งในวันถัดไป

max_transit_days

int32

ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ min_transit_days

UnclaimHomepageRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UnclaimHomepage

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อหน้าแรกที่จะถอนการอ้างสิทธิ์ รูปแบบ: accounts/{account}/homepage

UpdateAccountRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateAccount

ช่อง
account

Account

ต้องระบุ บัญชีเวอร์ชันใหม่

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

UpdateAccountTaxRequest

ขออัปเดตการตั้งค่าภาษี

ช่อง
account_tax

AccountTax

ต้องระบุ การตั้งค่าภาษีที่จะได้รับการอัปเดต

update_mask

FieldMask

รายการช่องที่จะอัปเดต

UpdateBusinessIdentityRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateBusinessIdentity

ช่อง
business_identity

BusinessIdentity

ต้องระบุ อัตลักษณ์ของธุรกิจเวอร์ชันใหม่

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

UpdateBusinessInfoRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateBusinessInfo

ช่อง
business_info

BusinessInfo

ต้องระบุ ข้อมูลธุรกิจเวอร์ชันใหม่

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

UpdateEmailPreferencesRequest

ข้อความคำขอสำหรับเมธอด UpdateEmailPreferences

ช่อง
email_preferences

EmailPreferences

ต้องระบุ ค่ากำหนดของอีเมลที่จะอัปเดต

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

UpdateHomepageRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateHomepage

ช่อง
homepage

Homepage

ต้องระบุ หน้าแรกเวอร์ชันใหม่

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

UpdateRegionRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateRegion

ช่อง
region

Region

ต้องระบุ ภูมิภาคที่อัปเดตแล้ว

update_mask

FieldMask

ไม่บังคับ มาสก์ของช่องที่คั่นด้วยคอมมาซึ่งแสดงช่องที่จะอัปเดต ตัวอย่าง: "displayName,postalCodeArea.regionCode"

UpdateUserRequest

ข้อความคําขอสําหรับเมธอด UpdateUser

ช่อง
user

User

ต้องระบุ ผู้ใช้เวอร์ชันใหม่

นอกจากนี้ยังอัปเดตผู้ใช้ที่สอดคล้องกับผู้โทรโดยใช้ me แทนอีเมลในช่องชื่อ เช่น accounts/{account}/users/me ได้ด้วย

update_mask

FieldMask

ต้องระบุ รายการช่องที่กําลังอัปเดต

ผู้ใช้

ผู้ใช้

ช่อง
name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของผู้ใช้ รูปแบบ: accounts/{account}/user/{user}

state

State

เอาต์พุตเท่านั้น สถานะของผู้ใช้

access_rights[]

AccessRight

ไม่บังคับ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผู้ใช้มี

รัฐ

สถานะที่เป็นไปได้ของผู้ใช้

Enum
STATE_UNSPECIFIED ค่าเริ่มต้น ค่านี้ไม่ได้ใช้
PENDING ผู้ใช้กำลังรอการยืนยัน ในสถานะนี้ ผู้ใช้จะต้องตอบรับคำเชิญก่อนดำเนินการอื่นๆ
VERIFIED ยืนยันผู้ใช้แล้ว

ค่า

ค่าเดียวของกลุ่มราคาหรือค่าของเซลล์ในตารางกลุ่มอัตรา ต้องตั้งค่า no_shipping, flat_rate, price_percentage, carrier_rateName, subtable_name ที่แน่นอน

ช่อง
no_shipping

bool

หากเป็นจริง จะไม่สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้ ต้องเป็น "จริง" เมื่อตั้งค่าแล้ว จะตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมดไว้

flat_rate

Price

อัตราคงที่ ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

price_percentage

string

เปอร์เซ็นต์ของราคาที่แสดงเป็นตัวเลขในรูปแบบทศนิยม (เช่น "5.4") จะตั้งค่าได้เฉพาะในกรณีที่ไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมดเท่านั้น

carrier_rate

string

ชื่อของอัตราของผู้ให้บริการขนส่งซึ่งอ้างอิงถึงอัตราของผู้ให้บริการขนส่งที่กำหนดไว้ในกลุ่มอัตราเดียวกัน ตั้งค่าได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

subtable

string

ชื่อตารางย่อย ตั้งค่าได้ในเซลล์ของตารางเท่านั้น (เช่น ตั้งค่าไม่ได้สำหรับค่าเดี่ยว) และเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้ตั้งค่าช่องอื่นๆ ทั้งหมด

คลังสินค้า

คลังสินค้าสำหรับการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ ซึ่งจัดเก็บและจัดการสินค้าคงคลัง แท็กถัดไป: 7

ช่อง
name

string

ต้องระบุ ชื่อของคลังสินค้า ต้องไม่ซ้ำกันภายในบัญชี

shipping_address

Address

ต้องระบุ ที่อยู่สำหรับจัดส่งของคลังสินค้า

cutoff_time

WarehouseCutoffTime

ต้องระบุ เวลาสุดท้ายของวันที่ยอมรับคำสั่งซื้อและเริ่มประมวลผลได้ คำสั่งซื้อหลังจากนี้จะได้รับการประมวลผลในวันถัดไป เวลาจะอิงตามรหัสไปรษณีย์ของคลังสินค้า

handling_days

int64

ต้องระบุ จำนวนวันที่ใช้ในคลังสินค้านี้เพื่อบรรจุหีบห่อและจัดส่งสินค้า ข้อมูลนี้อยู่ในระดับคลังสินค้า แต่สามารถลบล้างได้ในระดับข้อเสนอตามแอตทริบิวต์ของสินค้า

business_day_config

BusinessDayConfig

วันทำการของคลังสินค้า หากไม่ได้ตั้งค่า ระบบจะกำหนดให้เป็นวันจันทร์ถึงวันศุกร์โดยค่าเริ่มต้น

WarehouseBasedDeliveryTime

ระบุว่าเวลานำส่งควรคำนวณตามคลังสินค้า (สถานที่ตั้งต้นทางการจัดส่ง) ตามการตั้งค่าของผู้ให้บริการขนส่งที่เลือก เมื่อตั้งค่าแล้ว ไม่ควรตั้งค่าช่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเวลาขนส่งใน delivery_time

ช่อง
carrier

string

ต้องระบุ ผู้ให้บริการ เช่น "UPS" หรือ "Fedex"

carrier_service

string

ต้องระบุ บริการของผู้ให้บริการ เช่น "ground" หรือ "2 days" ชื่อบริการต้องอยู่ในรายการ eddSupportedServices

warehouse

string

ต้องระบุ ชื่อคลังสินค้า ซึ่งควรตรงกับ [warehouse][ShippingSetting.warehouses.name]

WarehouseCutoffTime

เวลาสุดท้ายของวันที่ยอมรับคำสั่งซื้อและเริ่มประมวลผลได้ คำสั่งซื้อหลังจากนี้จะได้รับการประมวลผลในวันถัดไป เวลาจะอิงตามรหัสไปรษณีย์ของคลังสินค้า

ช่อง
hour

int32

ต้องระบุ ชั่วโมงก่อนเวลาปิดรับคำสั่งซื้อที่คลังสินค้าจะต้องประมวลผลคำสั่งซื้อในวันเดียวกัน เวลาตามเขตเวลาของคลังสินค้า

minute

int32

ต้องระบุ นาทีก่อนเวลาปิดรับคำสั่งซื้อซึ่งคลังสินค้าจะต้องประมวลผลคำสั่งซื้อภายในวันเดียวกัน นาทีจะอิงตามเขตเวลาของคลังสินค้า