คุณจะกำหนดค่า URL ของหน้า Landing Page ให้ใช้การติดตามแบบไดนามิกหรือไม่ก็ได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ขาเข้าจากแคมเปญโรงแรมใน Google Ads ได้ เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ผู้ใช้ที่คลิกโฆษณาของคุณจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยัง ลิงก์แบบขยายที่มีข้อมูลการติดตาม
เช่น หากต้องการเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ผ่านเครื่องมือติดตามของบุคคลที่สาม คุณสามารถเพิ่ม URL กลุ่มไปยัง URL ของหน้า Landing Page
<URL>https://example.tracker.com?campaign_id=(CAMPAIGN-ID)&t_url=http://partner.com/landing%3Fhid%3D(PARTNER-HOTEL-ID)</URL>
หากต้องการเพิ่มกลุ่ม URL นี้หรือความสามารถในการติดตามอื่นๆ ในหน้า Landing Page URL เราขอแนะนำให้ใช้เทมเพลตการติดตามและคำต่อท้าย URL สุดท้ายใน บัญชี Google Ads นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มพารามิเตอร์ ValueTrack และ ลงในเทมเพลตการติดตามหรือคำต่อท้าย URL สุดท้าย
หากต้องการใช้ Google Ads เพื่อเพิ่มการติดตามแบบไดนามิกไปยัง URL ของหน้า Landing Page ให้ทำตาม ขั้นตอนด้านล่างนี้
ป้อน URL รวมถึงข้อมูลการติดตามในองค์ประกอบ
<URL>
สำหรับ หน้า Landing Page เช่น<URL>https://example.tracker.com?campaign_id=(CAMPAIGN-ID)&t_url=http://partner.com/landing%3Fhid%3D(PARTNER-HOTEL-ID)</URL>
ระบุส่วนที่ไม่ได้ติดตามของ URL โดยใช้องค์ประกอบ
<LPURL>
เช่น<LPURL>http://partner.com/landing?hid=(PARTNER-HOTEL-ID)</LPURL>
เนื่องจาก
<LPURL>
เป็นหน้า Landing Page สุดท้าย จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดเป็นอักขระหลีก อีกต่อไป แต่การกำหนดค่า ValueTrack ที่ถูกต้องใน Google Ads จะยกเว้นค่าดังกล่าว โดยอัตโนมัติระบุส่วนที่ติดตามของ URL โดยใช้เทมเพลตการติดตามและ คำต่อท้าย URL สุดท้ายในบัญชี Google Ads โปรดดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูตัวอย่างที่หัวข้อตั้งค่าการติดตามแบบไดนามิกสำหรับโรงแรม แคมเปญ