ผลิตภัณฑ์ Google Maps Platform ได้รับการปกป้องจากการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วยการจำกัดการเรียก API ไว้สำหรับผู้ที่ระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบการตรวจสอบสิทธิ์ที่เหมาะสม ข้อมูลเข้าสู่ระบบเหล่านี้อยู่ในรูปแบบของคีย์ API ซึ่งเป็นสตริงตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันซึ่งเชื่อมโยงบัญชีสําหรับการเรียกเก็บเงินของ Google กับโปรเจ็กต์ รวมถึงกับ API หรือ SDK ที่เฉพาะเจาะจง
คู่มือนี้จะแสดงวิธีสร้าง จํากัด และใช้คีย์ API สําหรับ Google Maps Platform
ก่อนเริ่มต้น
ก่อนเริ่มใช้ Maps Static API คุณต้องมีโปรเจ็กต์ที่มีบัญชีสำหรับการเรียกเก็บเงินและเปิดใช้ Maps Static API ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ตั้งค่าใน Cloud Console
การสร้างคีย์ API
คีย์ API คือตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งตรวจสอบสิทธิ์คําขอที่เชื่อมโยงกับโปรเจ็กต์ของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการใช้งานและการเรียกเก็บเงิน คุณต้องมีคีย์ API ที่เชื่อมโยงกับโปรเจ็กต์อย่างน้อย 1 คีย์
วิธีสร้างคีย์ API
คอนโซล
-
ไปที่หน้า Google Maps Platform > ข้อมูลเข้าสู่ระบบ
-
ในหน้าข้อมูลเข้าสู่ระบบ ให้คลิกสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบ > คีย์ API
กล่องโต้ตอบสร้างคีย์ API แล้วจะแสดงคีย์ API ที่สร้างขึ้นใหม่ -
คลิกปิด
คีย์ API ใหม่จะแสดงอยู่ในหน้าข้อมูลเข้าสู่ระบบในส่วนคีย์ API
(อย่าลืมจํากัดคีย์ API ก่อนนำไปใช้ในเวอร์ชันที่ใช้งานจริง)
Cloud SDK
gcloud alpha services api-keys create \ --project "PROJECT" \ --display-name "DISPLAY_NAME"
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Cloud SDK , การติดตั้ง Cloud SDK และคําสั่งต่อไปนี้
การจํากัดคีย์ API
Google ขอแนะนําอย่างยิ่งให้คุณจํากัดคีย์ API โดยจํากัดการใช้งานไว้เฉพาะ API ที่จําเป็นสําหรับแอปพลิเคชันเท่านั้น การจํากัดคีย์ API จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันโดยปกป้องแอปพลิเคชันจากคําขอที่ไม่ชอบธรรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แนวทางปฏิบัติแนะนำด้านความปลอดภัยของ API
นอกจากการจํากัดคีย์ API แล้ว คุณควรลงนามในคําขอสําหรับ API นี้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในแนวทางปฏิบัติแนะนำด้านความปลอดภัยของ API
วิธีจํากัดคีย์ API
คอนโซล
-
ไปที่หน้า Google Maps Platform > ข้อมูลเข้าสู่ระบบ
- เลือกคีย์ API ที่ต้องการตั้งค่าการจํากัด หน้าพร็อพเพอร์ตี้คีย์ API จะปรากฏขึ้น
- ในส่วนข้อจำกัดของคีย์ ให้ตั้งค่าข้อจำกัดต่อไปนี้
- ข้อจำกัดแอปพลิเคชัน:
- หากต้องการยอมรับคำขอจากรายการที่อยู่ IP ของเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่คุณระบุ ให้เลือกที่อยู่ IP (เว็บเซิร์ฟเวอร์ งาน cron ฯลฯ) จากรายการข้อจำกัดของแอปพลิเคชัน ระบุที่อยู่ IPv4 หรือ IPv6 หรือซับเน็ตอย่างน้อย 1 รายการโดยใช้รูปแบบ CIDR ที่อยู่ IP ต้องตรงกับที่อยู่ต้นทางที่เซิร์ฟเวอร์ Google Maps Platform สังเกตเห็น หากคุณใช้การเปลี่ยนที่อยู่เครือข่าย (NAT) โดยทั่วไปที่อยู่นี้มักจะสอดคล้องกับที่อยู่ IP สาธารณะของเครื่อง
- ข้อจำกัด API:
- คลิกจํากัดคีย์
- เลือก Maps Static API จากเมนูแบบเลื่อนลงเลือก API หาก Maps Static API ไม่แสดงในรายการ คุณจะต้องเปิดใช้
- คลิกบันทึกเพื่อทําการเปลี่ยนแปลงให้เสร็จสมบูรณ์
Cloud SDK
แสดงรายการคีย์ที่มีอยู่
gcloud services api-keys list --project="PROJECT"
ล้างข้อจำกัดที่มีอยู่สำหรับคีย์ที่มีอยู่
gcloud alpha services api-keys update "projects/PROJECT/keys/KEY_ID" \ --clear-restrictions
ตั้งข้อจำกัดใหม่ให้กับคีย์ที่มีอยู่
gcloud alpha services api-keys update projects/PROJECT/locations/global/keys/KEY_ID \ --api-target=service=static-maps-backend.googleapis.com --allowed-ips="IP_ADDRESS"
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Cloud SDK , การติดตั้ง Cloud SDK และคําสั่งต่อไปนี้
การเพิ่มคีย์ API ลงในคําขอ
คุณต้องระบุคีย์ API กับคําขอ Maps Static API ทุกรายการ ในตัวอย่างต่อไปนี้ ให้แทนที่ YOUR_API_KEY
ด้วยคีย์ API ของคุณ
https://maps.googleapis.com/maps/api/staticmap?center=Z%C3%BCrich&zoom=12&size=400x400&key=YOUR_API_KEY
ต้องใช้ HTTPS สำหรับคำขอที่ใช้คีย์ API
ขั้นตอนถัดไป
คำขอ Maps Static API ควรใช้ลายเซ็นดิจิทัลด้วย