การเปรียบเทียบ OptimizeTours กับ BatchOptimizeTours

Route Optimization API จะแสดงวิธีการ 2 วิธีดังนี้

  • OptimizeTours เป็นเมธอดแบบซิงโครนัสที่แสดงผลเส้นทางที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อ OptimizeToursRequest ไคลเอ็นต์จะต้องเชื่อมต่อกับ API การเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางแบบเปิดต่อไปจนกว่าคำขอจะได้รับการดำเนินการและแสดงผล OptimizeToursResponse หรือข้อผิดพลาด
  • BatchOptimizeTours คือเมธอดแบบอะซิงโครนัสที่ยอมรับ URI สำหรับ OptimizeToursRequest อย่างน้อย 1 รายการและข้อความ OptimizeToursResponse ที่เกี่ยวข้อง โดยส่งกลับชื่อทรัพยากรของ Long Running Execution (LRO) (REST, gRPC) ที่ใช้เพื่อตรวจสอบการดำเนินการเป็นกลุ่ม OptimizeToursRequest จะได้รับการประมวลผลในเบื้องหลัง ดังนั้นไคลเอ็นต์จะรักษาการเชื่อมต่อกับ Route Optimization API ไว้นานพอที่จะส่ง BatchOptimizeToursRequest/} ตรวจสอบ ให้ตรวจสอบสถานะGetOperation BatchOptimizeTours อ่านคำขอจากและเขียนคำตอบไปยัง Google Cloud Storage

กรณีการใช้งาน

OptimizeTours ช่วยอำนวยความสะดวกในการแก้คําขอขนาดเล็กและเรียบง่าย หรือสําหรับคําขอที่มีเวลาแก้ปัญหาเพียง 2-3 นาที การมีการเชื่อมต่อกับ Route Optimization API ให้ใช้งานได้นานจะช่วยเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดข้องก่อนที่จะส่งคืนโซลูชันได้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในใช้งานระยะหมดเวลา

BatchOptimizeTours สามารถรองรับคำขอขนาดใหญ่และคำขอที่ใช้เวลาแก้ปัญหานานกว่า เนื่องจากไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อกับ Route Optimization API เป็นระยะเวลานาน

การดำเนินการระยะยาว

ระบบจะอ่าน LRO จาก Route Optimization API โดยใช้เมธอด GetOperation เพื่อตรวจสอบสถานะเสร็จสมบูรณ์ของกลุ่ม LRO ประกอบด้วยพร็อพเพอร์ตี้ done ที่บ่งชี้ว่าการประมวลผลทั้งกลุ่มเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ และมีช่อง error ที่รายงานข้อผิดพลาดที่พบระหว่างการประมวลผล หาก done เป็นจริงและไม่มี error แสดงว่าแบตช์เสร็จสมบูรณ์ การมี error บ่งบอกว่าประมวลผลกลุ่มบางส่วนหรือทั้งหมดล้มเหลว

วงจรการใช้งานทั่วไปของคำขอ BatchOptimizeTours มีดังนี้

  1. ส่ง BatchOptimizeToursRequest ไปยัง Route Optimization API ซึ่งจะแสดงชื่อทรัพยากรของ LRO
  2. แบบสำรวจ GetOperation ที่มีชื่อทรัพยากร LRO ที่แสดงผลจนกว่าพร็อพเพอร์ตี้ done หรือ error จะปรากฏในการตอบกลับ LRO
  3. หาก done เป็นจริงและไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ โปรดอ่าน OptimizeToursResponses จาก URI ของ Google Cloud Storage ที่ระบุไว้ในคำขอ BatchOptimizeTours หากมี error ให้ตรวจสอบข้อผิดพลาด อัปเดต OptimizeToursRequest ให้สอดคล้องกันใน Google Cloud Storage แล้วลองอีกครั้งตามความเหมาะสมตามข้อผิดพลาดที่พบ

คุณส่งคำขอ OptimizeTours และ BatchOptimizeTours ได้หลายวิธี ทั้งจากบรรทัดคำสั่งหรือใช้ไลบรารีของไคลเอ็นต์

ถัดไป: ส่งคำขอ