การจับคู่คุกกี้

การจับคู่คุกกี้เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณจับคู่คุกกี้ได้ เช่น รหัสของผู้ใช้ที่เรียกดูเว็บไซต์ของคุณกับรหัสผู้ใช้ Google เฉพาะสำหรับผู้เสนอราคาที่เกี่ยวข้อง และสร้างรายการผู้ใช้ที่ช่วยให้คุณเลือกตัวเลือกการเสนอราคาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คู่มือนี้จะอธิบายแนวคิดที่ใช้ในการจับคู่คุกกี้ รวมถึงเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้แบบต่างๆ และรูปแบบต่างๆ ที่อาจมีสำหรับการใช้งานในกรณีต่างๆ

แนวคิด

โดยทั่วไป เจ้าของโดเมนจะตั้งค่าเนื้อหาของคุกกี้สำหรับผู้ใช้ที่เรียกดูเว็บไซต์ของตน โดยใช้เพื่อระบุผู้ใช้ภายในโดเมนนั้น แม้ว่าเจ้าของโดเมนสองโดเมนจะยินยอมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนี้ แต่โมเดลการรักษาความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์จะจำกัดไม่ให้กลุ่มหนึ่งอ่านคุกกี้ที่ตั้งค่าโดยโดเมนอื่น

ในบริบทของการโฆษณาดิจิทัล Google จะระบุผู้ใช้ที่มีคุกกี้ที่อยู่ในโดเมน doubleclick.net และผู้เสนอราคาที่เข้าร่วมการเสนอราคาแบบเรียลไทม์อาจมีโดเมนของตนเองซึ่งระบุผู้ใช้บางกลุ่มที่ต้องการแสดงโฆษณา การจับคู่คุกกี้ช่วยให้ผู้เสนอราคาจับคู่คุกกี้ของตนกับของ Google ได้ ซึ่งทำให้ผู้เสนอราคาระบุได้ว่าการแสดงผลที่ส่งในคำขอราคาเสนอเชื่อมโยงกับผู้ใช้ที่กำหนดเป้าหมายไว้หรือไม่ ผู้ใช้จะได้รับข้อมูลคุกกี้ของตนเองหรือรหัสผู้ใช้ Google เฉพาะสำหรับผู้เสนอราคา ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้ารหัสของคุกกี้ doubleclick.net ในคำขอราคาเสนอ

บริการจับคู่คุกกี้ที่อธิบายไว้ในคู่มือนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างและดูแลรักษาการเชื่อมโยงระหว่างคุกกี้ของผู้เสนอราคากับรหัสผู้ใช้ Google และยังช่วยให้สามารถป้อนข้อมูลผู้ใช้ได้ด้วย

ตารางที่ตรงกัน

ตารางจับคู่จะใช้เพื่อแมปรหัสหรือข้อมูลอื่นๆ จากโดเมนหนึ่งไปยังอีกโดเมนหนึ่งได้ ผู้เสนอราคาสามารถใช้บริการจับคู่คุกกี้เพื่อป้อนข้อมูลตารางการจับคู่ของตนเองโดยการแมปคุกกี้สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ กับรหัสผู้ใช้ Google ของผู้ใช้ หรือสร้างตารางจับคู่ที่โฮสต์โดย Google ตารางการจับคู่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แอปพลิเคชันผู้เสนอราคาของผู้เสนอราคาเข้าถึงข้อมูลคุกกี้ของผู้ใช้ที่กำลังได้รับการแสดงผล

ตารางจับคู่ที่โฮสต์โดย Google

เราขอแนะนำให้คุณอนุญาตให้ Google โฮสต์ตารางการจับคู่เพื่อให้การบำรุงรักษา ปรับปรุงเวลาในการตอบสนอง และการเข้าถึงการจับคู่ข้อมูลสำหรับผู้ใช้ในบางภูมิภาคง่ายขึ้น วิธีนี้ช่วยให้คุณระบุสตริงที่เข้ารหัส base64 สำหรับ Web-safe ได้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่าข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ ซึ่งจะแมปกับ User-ID ของ Google สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ เมื่อสร้างการจับคู่แล้ว การจับคู่ดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ดังนี้

  • การเสนอราคาแบบเรียลไทม์: ในคำขอราคาเสนอครั้งต่อๆ ไปสำหรับการแสดงผลที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ Google จะส่งข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ซึ่งจับคู่กับรหัสผู้ใช้ Google ของผู้ใช้ให้คุณ หากมีการกำหนดค่าปลายทางการเสนอราคาให้ใช้โปรโตคอล RTB ของ Google คุณจะได้รับข้อมูลนี้เป็นไบต์ที่ถอดรหัสผ่านช่อง BidRequest.hosted_match_data ในการใช้งาน OpenRTB ของ Google นั้น BidRequest.user.buyeruid จะแสดงผลข้อมูลนี้เป็นสตริงที่เข้ารหัสแบบ Web-safe base64

  • รายการผู้ใช้: ระบบจะเติมข้อมูลรายการผู้ใช้ด้วยรหัสผู้ใช้ Google หรือข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ก็ได้

  • การกำหนดเป้าหมายล่วงหน้า: คุณกำหนดค่าการกำหนดเป้าหมายล่วงหน้าให้ได้รับเฉพาะคำขอราคาเสนอที่มีข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ได้เท่านั้น ซึ่งอาจใช้เพื่อลดการแสดงผลที่มีความเกี่ยวข้องน้อยสำหรับผู้ใช้ที่อยู่นอกพื้นที่คุกกี้

รายการผู้ใช้

คุณสร้างและจัดการรายชื่อผู้ใช้ได้ด้วย API การเสนอราคาแบบเรียลไทม์ เมื่อสร้างแล้ว คุณจะป้อนข้อมูลรายการเหล่านี้ด้วยเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ที่อธิบายไว้ด้านล่าง หรือผ่านบริการเครื่องมืออัปโหลดเป็นกลุ่มก็ได้

เริ่มต้นใช้งาน

หากต้องการเริ่มต้นใช้งานการจับคู่คุกกี้ คุณต้องติดต่อผู้จัดการลูกค้าด้านเทคนิคซึ่งสามารถเปิดใช้เวิร์กโฟลว์เฉพาะและช่วยคุณกำหนดค่าสิ่งต่อไปนี้ได้

  • รหัสเครือข่ายการจับคู่คุกกี้ (NID): รหัสสตริงที่ใช้ระบุบัญชีผู้เสนอราคาสําหรับการจับคู่คุกกี้และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ซ้ำกัน
  • URL การจับคู่คุกกี้: URL ฐานสำหรับปลายทางที่จะยอมรับและจัดการคำขอที่เข้ามาโดยเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ ผู้เสนอราคาสามารถฝังมาโครใน URL นี้เพื่อควบคุมลำดับพารามิเตอร์ที่ส่งไปยังเวิร์กโฟลว์ดังกล่าวในการจับคู่คุกกี้
  • แท็กจับคู่: แท็กที่คุณต้องวางในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้สำหรับเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ที่เริ่มโดยผู้เสนอราคา สามารถแสดงควบคู่ไปกับโฆษณา หรือวางในผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเทอร์เน็ตนอกโฆษณา
  • URL รายงานการจับคู่คุกกี้ (ไม่บังคับ): ในเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้แบบทิศทางเดียว นี่เป็น URL ที่ไม่บังคับซึ่งอาจระบุไว้เพื่อระบุปลายทางที่จะได้รับรายละเอียดข้อผิดพลาดในกรณีที่การจับคู่คุกกี้ล้มเหลวผ่านการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP 302 โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะส่งการตอบกลับไปยัง URL นี้ต่อเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการจับคู่คุกกี้เท่านั้น แต่ผู้เสนอราคาอาจขอให้ส่งการเปลี่ยนเส้นทางเสมอ
  • URL ของ Cookie Match Assist: สำหรับ Exchange ที่ใช้เวิร์กโฟลว์ Cookie Match Assist ซึ่งเป็น URL ฐานของปลายทางที่มีไว้เพื่อตอบสนองต่อคำขอที่เข้ามาใหม่
  • โควต้าตัวช่วยจับคู่คุกกี้: สำหรับ Exchange ที่ใช้เวิร์กโฟลว์ Cookie Match Assist นี่คือจำนวนคำขอสูงสุดที่ URL การจับคู่คุกกี้จะได้รับทุกวินาที ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คำขอ CMA โอเวอร์โหลดคำขอบนเซิร์ฟเวอร์ของ Exchange มากเกินไป

ในเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ที่รองรับ โดยทั่วไปแล้ว URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาจะมีพารามิเตอร์ต่อท้ายในลำดับที่ไม่รับประกันการแสดงผล ผู้เสนอราคาที่มีการผสานรวมซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดลำดับพารามิเตอร์ที่สอดคล้องกันสามารถวางมาโครใน URL การจับคู่คุกกี้เพื่อรับประกันตำแหน่งของตน

มาโครที่สนับสนุน

ผู้เสนอราคาอาจกำหนดค่า URL การจับคู่คุกกี้ให้รวมมาโครอย่างน้อย 1 รายการในรูปแบบ %%GOOGLE_<PARAM_NAME>%% หรือ %%GOOGLE_<PARAM_NAME>_PAIR%% ก็ได้ มาโครที่สนับสนุนและค่าที่ขยาย ได้แก่

Macro ค่าที่ขยาย
GOOGLE_GID GOOGLE_USER_ID
GOOGLE_GID_PAIR &google_gid=GOOGLE_USER_ID
GOOGLE_CVER COOKIE_VERSION_NUMBER
GOOGLE_CVER_PAIR &cver=COOKIE_VERSION_NUMBER
GOOGLE_ERROR ERROR_ID
GOOGLE_ERROR_PAIR &google_error=ERROR_ID
GOOGLE_PUSH PIXEL_MATCH_DATA
GOOGLE_PUSH_PAIR &google_push=PIXEL_MATCH_DATA
GOOGLE_ALL_PARAMS google_gid=GOOGLE_USER_ID&cver=COOKIE_VERSION_NUMBER&google_error=ERROR_ID

ตัวอย่างมาโคร

ผู้เสนอราคามีการผสานรวมการจับคู่คุกกี้กับปลายทางที่โฮสต์ที่ https://user.bidder.com.cookies และการใช้งานต้องมีพารามิเตอร์ที่ผู้เสนอราคากำหนดล่วงหน้า นอกเหนือจากพารามิเตอร์การจับคู่พิกเซลตามลำดับต่อไปนี้ google_push, google_gid, google_cver และgoogle_error ผู้เสนอราคาสามารถดำเนินการนี้ได้โดยตั้งค่า URL การจับคู่คุกกี้เป็น

https://user.bidder.com/cookies?w=0%%GOOGLE_PUSH_PAIR%%&x=1%%GOOGLE_GID_PAIR%%&y=2%%GOOGLE_CVER_PAIR%%&z=3%%GOOGLE_ERROR_PAIR%%

เมื่อ Google ส่งคำขอจับคู่ไปยังผู้เสนอราคารายนี้ในภายหลัง คำขอจะขยายไปมีลักษณะดังนี้

https://user.bidder.com/cookies?w=0&google_push=PUSH_DATA&x=1&google_gid=GOOGLE_GID&y=2&google_cver=1&z=3

ปัจจุบันบริการจับคู่คุกกี้ของ Google รองรับเวิร์กโฟลว์ 3 แบบสำหรับกรณีการใช้งานต่างๆ ตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง

การจับคู่คุกกี้แบบ 2 ทิศทางหมายถึงเวิร์กโฟลว์ที่เริ่มต้นโดยผู้เสนอราคา ซึ่งจะวางแท็กการจับคู่ไว้ในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ที่จะส่งต่อไปยัง Google เวิร์กโฟลว์นี้ช่วยให้ทั้ง Google และผู้เสนอราคาสร้างตารางการจับคู่ได้ ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างง่ายๆ ของเวิร์กโฟลว์นี้

ขั้นตอนที่ 1: วางแท็กจับคู่

ในการเริ่มต้นขั้นตอนนี้ ผู้เสนอราคาต้องวางแท็กจับคู่ของตนเพื่อให้แสดงผลในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ แท็กจับคู่แบบง่ายที่แสดงเฉพาะ User ID ของ Google ให้แก่ผู้เสนอราคาอาจมีโครงสร้างดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=BIDDER_ACCOUNT_NID&google_cm" />

มีพารามิเตอร์เพิ่มเติมที่คุณสามารถใส่ในแท็กการจับคู่เพื่อตอบสนองต่อกรณีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์เหล่านี้ได้ที่จับคู่พารามิเตอร์ URL ของแท็ก

ขั้นตอนที่ 2: Google ตอบกลับด้วยการเปลี่ยนเส้นทางรวมถึงข้อมูลการจับคู่

แท็กจับคู่จะทำให้บริการจับคู่คุกกี้ของ Google ได้รับคำขอจากเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ซึ่งจะเปลี่ยนเส้นทาง HTTP 302 ไปยัง URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคา การเปลี่ยนเส้นทางจะมีพารามิเตอร์การค้นหาที่ระบุรหัสผู้ใช้ Google และหมายเลขเวอร์ชันใน URL และผู้เสนอราคาจะได้รับคุกกี้ที่รวมอยู่ในส่วนหัวของคำขอด้วย ในทางปฏิบัติ สำหรับ URL การจับคู่คุกกี้ที่ระบุเป็น https://ad.network.com/pixel นั้น URL เปลี่ยนเส้นทางสำหรับแท็กจับคู่แบบง่ายดังที่แสดงด้านบนจะมีลักษณะดังนี้

https://ad.network.com/pixel?google_gid=dGhpcyBpcyBhbiBleGFtGxl&google_cver=1

User ID ของ Google ที่ส่งผ่านพารามิเตอร์ google_gid เป็นสตริงที่เข้ารหัสแบบ Base64 ซึ่งไม่มีอักขระปลอดภัย สำหรับผู้เสนอราคาที่เลือกโฮสต์ตารางการจับคู่ ขอแนะนำให้จัดเก็บสตริงที่ตรงกันทุกประการที่แสดงผลโดยบริการจับคู่คุกกี้ ในคำขอราคาเสนอที่ตามมา ค่านี้จะตรงกับค่าที่ระบุผ่าน BidRequest.google_user_id ในโปรโตคอล RTB ของ Google หรือ BidRequest.user.id ในการใช้งาน OpenRTB ของ Google

เวอร์ชันที่ระบุไว้ใน google_cver จะระบุหมายเลขเวอร์ชัน ของรหัสผู้ใช้ Google User ID ของ Google สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ จะเปลี่ยนไป ไม่บ่อยนัก และหลังจากนั้นจะเพิ่มมากขึ้น

หาก Google พบข้อผิดพลาดขณะประมวลผลคำขอจับคู่ จะมีการระบุพารามิเตอร์ google_error แทน

ขั้นตอนที่ 3: ผู้เสนอราคาประมวลผลการเปลี่ยนเส้นทางและตอบสนองด้วยพิกเซล

ผู้เสนอราคาจะได้รับการเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL การจับคู่คุกกี้ ซึ่งรวมถึงพารามิเตอร์ที่ระบุในขั้นตอนแรก และพารามิเตอร์ที่ Google ระบุไว้ในขั้นตอนที่ 2 นอกจากนี้ ผู้ใช้เหล่านั้นจะได้รับคุกกี้ในส่วนหัว HTTP ด้วย หากการดำเนินการสำเร็จ ผู้เสนอราคาที่โฮสต์ตารางการจับคู่ของตนเองอาจจับคู่คุกกี้ของตนกับ User ID ของ Google ที่รวมอยู่ในการตอบกลับได้ ขอแนะนำให้ผู้เสนอราคาจัดเก็บสตริงที่ตรงกันทุกประการซึ่งแสดงผลโดยบริการจับคู่คุกกี้

หากการดำเนินการไม่สำเร็จ ผู้เสนอราคาจะได้รับพารามิเตอร์ google_error ในการเปลี่ยนเส้นทาง ค่านี้เป็นค่าตัวเลขที่สอดคล้องกับสถานะข้อผิดพลาดต่างๆ ที่ระบุข้อผิดพลาดหนึ่งๆ ที่เกิดขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ที่นี่ หากได้รับข้อผิดพลาด คุณอาจลองจับคู่กับผู้ใช้รายนั้นอีกครั้งโดยวางแท็กการจับคู่ใหม่

ผู้เสนอราคาต้องตอบกลับเสมอโดยแสดงรูปภาพพิกเซล 1x1 ที่มองไม่เห็น หรือตอบกลับด้วยHTTP 204 ไม่มีเนื้อหา

ขั้นตอนการทำงานนี้จะแสดงด้วยแผนภาพด้านล่าง โดยที่คำขอและคำตอบจะแสดงด้วยลูกศร และรายการข้อมูลที่ประกอบกันจะแสดงในวงเล็บ

จับคู่พารามิเตอร์ URL ของแท็ก

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_nid รหัสเครือข่าย (NID) สำหรับบัญชีผู้เสนอราคา ดูรหัสนี้ได้ผ่านทรัพยากรผู้เสนอราคา
google_cm แจ้งแก่บริการจับคู่คุกกี้ของ Google ว่าควรดำเนินการจับคู่คุกกี้ ระบบจะไม่สนใจค่าของพารามิเตอร์และอาจละเว้นค่าของพารามิเตอร์นี้
google_sc พารามิเตอร์นี้เลิกใช้งานแล้ว ตั้งค่าคุกกี้ของ Google สำหรับผู้ใช้หากไม่มีคุกกี้ ระบบจะไม่สนใจค่าของพารามิเตอร์และอาจละเว้นค่าของพารามิเตอร์ การละเว้นพารามิเตอร์จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดหากไม่มีคุกกี้
google_no_sc พารามิเตอร์นี้เลิกใช้งานแล้ว การดำเนินการนี้จะระบุบริการจับคู่คุกกี้ของ Google ว่าไม่ควรตั้งค่าคุกกี้สำหรับผู้ใช้หากไม่มีคุกกี้ดังกล่าว ระบบจะไม่สนใจค่าของพารามิเตอร์และอาจละเว้นค่าของพารามิเตอร์นี้
google_hm

ข้อมูลที่ผู้เสนอราคาต้องการจัดเก็บในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google

ค่านี้เป็นสตริงที่เข้ารหัสแบบ Base64 ที่ปลอดภัยบนเว็บ (ไม่บังคับให้มีระยะห่างจากขอบ) ข้อมูลดิบต้องมีขนาดไม่เกิน 40 ไบต์ เช่น Q29va2llIHRoYXQgaXMgdW5kZXIgNDAgdG90YWwgYnl0ZXMuLi4u

google_redir สตริงที่เข้ารหัส URL ซึ่งผู้เสนอราคาระบุได้ว่าต้องการให้ Google ส่งการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP 302 ไปยัง URL ที่เข้ารหัสสำหรับแท็กการจับคู่นี้หรือไม่ ซึ่งจะทำให้ Google ปรากฏที่ด้านหน้าในการโทรหาพาร์ทเนอร์ ผ่านเชน ซึ่งจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดหากระบุไว้โดยไม่มี google_hm หรือด้วย google_cm
google_ula สตริงที่ใช้เพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้ที่มีอยู่ รูปแบบที่คาดไว้ของค่าคือ userlistid[,timestamp]:
  • userlistid: รหัสรายชื่อผู้ใช้ที่เป็นตัวเลข 1 ตัว
  • timestamp: การประทับเวลาที่ไม่บังคับในรูปแบบ POSIX ซึ่งระบุเวลาที่เพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้

อาจมีพารามิเตอร์ของ URL นี้ซ้ำเพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายการหลายรายการ

gdpr บ่งบอกว่าคำขออยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ GDPR เกี่ยวกับการใช้ข้อมูล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน ข้อกำหนดเกี่ยวกับความยินยอมของผู้ใช้ EU ด้านล่าง หรือผลกระทบต่อการมีสิทธิ์จับคู่คุกกี้ใน เอกสารประกอบเกี่ยวกับ TCF เวอร์ชัน 2.0 ของ IAB ของ Authorized Buyers

เช่น gdpr=1

gdpr_consent สตริง TC ที่แสดงถึงความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดเกี่ยวกับความยินยอมของผู้ใช้ EU ด้านล่าง หรือจะมีการส่งสตริง TC อย่างไรใน เอกสารประกอบเกี่ยวกับ TCF เวอร์ชัน 2.0 ของ IAB ของ Authorized Buyers
process_consent บ่งบอกว่าผู้เสนอราคาได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ปลายทางในการใช้ข้อมูลที่ระบุไว้ใน นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ของ Google

หากคำขอไม่อยู่ภายใต้นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU หรือหากมีพารามิเตอร์ความยินยอมอื่นๆ อยู่ในคำขอ (gdpr_consent) ระบบจะไม่สนใจพารามิเตอร์นี้

เช่น process_consent=T

นอกจากพารามิเตอร์ข้างต้นแล้ว ผู้เสนอราคาอาจระบุพารามิเตอร์ของตัวเอง ซึ่งจะต่อท้ายเป็นพารามิเตอร์ใน URL การเปลี่ยนเส้นทาง โปรดทราบว่าระบบจะไม่สนใจพารามิเตอร์ที่ผู้เสนอราคากำหนดซึ่งมีคำนำหน้า google_ เนื่องจาก Google สงวนพารามิเตอร์เหล่านั้นไว้เพื่อการพัฒนาในอนาคต และไม่รับประกันว่าการจัดลำดับของพารามิเตอร์จะคงไว้ตามเดิม แท็กจับคู่ซึ่งมีพารามิเตอร์ที่ผู้เสนอราคากำหนด อาจมีลักษณะดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=BIDDER_ACCOUNT_NID&google_cm&extra1=xx&extra2=yy" />

พารามิเตอร์ของ URL การเปลี่ยนเส้นทาง

URL เปลี่ยนเส้นทางจะสร้างขึ้นจาก URL การจับคู่คุกกี้พื้นฐานที่กําหนดค่าไว้สําหรับบัญชีของผู้เสนอราคา ซึ่งรวมถึงพารามิเตอร์ google_ และพารามิเตอร์ที่ผู้เสนอราคากําหนด โดยขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ที่ระบุในแท็กการจับคู่ พารามิเตอร์การตอบกลับ google_ ได้รับการกำหนดไว้ดังนี้

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_gid รหัสผู้ใช้ Google ตั้งค่าหากมีการระบุ google_cm ในคำขอและคำขอสําเร็จ
google_cver เวอร์ชันของคุกกี้ ตั้งค่าหากมีการระบุ google_cm ในคำขอและคำขอสําเร็จ
google_error

ค่าจำนวนเต็มที่ระบุข้อผิดพลาดของคำขอโดยรวม เมื่อได้รับแล้ว จะระบุว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ และจะไม่มีการตั้งค่าพารามิเตอร์การตอบกลับ google_ อื่นๆ ค่าข้อผิดพลาดที่รองรับมีดังนี้

  • 1: ผู้ใช้มีคุกกี้ Google แต่เลือกไม่ใช้การติดตามโดยใช้คุกกี้นี้
  • 2: ไม่ได้ระบุการดำเนินการที่ถูกต้อง เช่น ได้รับคำขอที่ไม่มีการดำเนินการ
  • 3: ผู้ใช้ไม่มีคุกกี้ของ Google Google จะไม่ตั้งค่าคุกกี้ผ่านบริการจับคู่คุกกี้
  • 4: ระบุการดำเนินการที่ขัดแย้งกันแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ระบุทั้งแฟล็ก google_push และ google_cm ในคำขอเดียวกันเนื่องจากมีจุดประสงค์ที่ขัดแย้งกัน
  • 5: มีการส่งพารามิเตอร์ google_push ที่ไม่ถูกต้องในการเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำขอจับคู่พิกเซลแบบ 2 ทิศทาง การเปลี่ยนเส้นทางต้องตั้งค่า google_push เป็นค่าเดียวกันกับที่ส่งให้คุณในคำขอพิกเซลเริ่มต้น
  • 6: มีการระบุ NID ที่ไม่ถูกต้องในแท็กจับคู่
  • 7: ตรวจพบคุกกี้ที่ไม่ถูกต้อง
  • 8: เลิกใช้งานแล้ว ไม่พบคุกกี้
  • 9: ไม่พบคุกกี้ ระบบได้พยายามตั้งค่าคุกกี้ทดสอบ
  • 10: มีการใช้พารามิเตอร์ google_redir โดยไม่ได้ระบุ google_hm หรือใช้นอกเหนือจาก google_cm
  • 15: คำขอมาจากภูมิภาคที่ Google กำหนดให้ Google โฮสต์ตารางการจับคู่ ดังนั้น การตอบกลับนี้จึงไม่มี User ID ของ Google ซึ่งปัจจุบันฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้กับการเข้าชมเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่เราวางแผนที่จะเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2020
google_hm

จะปรากฏขึ้นเฉพาะในกรณีที่ความพยายามเขียนไปยังตารางจับคู่ที่โฮสต์โดย Google ไม่สำเร็จ เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น ค่าของรหัสจะเป็นรหัสใดรหัสหนึ่งต่อไปนี้

  • 1 - ไม่ได้รับอนุญาต: ลูกค้ายังไม่ได้รับอนุญาตพิเศษให้เขียนรายการในตารางการจับคู่ที่โฮสต์ไว้
  • 2 - ข้อผิดพลาดในการถอดรหัส: ถอดรหัสค่าพารามิเตอร์ไม่ได้
  • 3 - เพย์โหลดยาวเกินไป: ค่าพารามิเตอร์ที่ถอดรหัสเป็นข้อมูลที่มีขนาดมากกว่า 24 ไบต์
  • 4 - ข้อผิดพลาดภายใน: เกิดข้อผิดพลาดภายในขณะจัดเก็บข้อมูล
  • 5 - ถูกควบคุม: การเขียนนี้ไม่ได้รับการประมวลผลเนื่องจากมีการควบคุม
google_ula

สถานะของการดำเนินการเพิ่มรายการผู้ใช้ หากมีการระบุ google_ula หลายรายการในคำขอ รูปแบบคือ
userlistid,status code

ตัวอย่าง: google_ula=1234567890,0

การดำเนินการ google_ula สามารถแสดงรหัสสถานะต่อไปนี้

  • 0 - ไม่มีข้อผิดพลาด เพิ่มผู้ใช้รายนี้ไปยังรายชื่อผู้ใช้แล้ว
  • 2 - ปฏิเสธสิทธิ์ คุณไม่มีสิทธิ์เพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้ที่ระบุ
  • 5 - รหัสรายชื่อผู้ใช้ไม่ถูกต้อง รหัสรายชื่อผู้ใช้ที่ระบุไม่ถูกต้อง
  • 6 - รหัสแอตทริบิวต์ที่ปิดอยู่ รหัสรายชื่อผู้ใช้ที่ระบุจะปิดลง
  • 10 - ข้อผิดพลาดภายใน บริการจับคู่คุกกี้พบข้อผิดพลาดภายใน คุณสามารถลองจับคู่ผู้ใช้อีกครั้งได้

สถานการณ์ต่อไปนี้จะอธิบายว่าการจับคู่คุกกี้มีลักษณะอย่างไรเมื่อผู้ใช้ทั่วไปเรียกดูหน้าเว็บ

สถานการณ์ที่ 1: ผู้ใช้ล้างคุกกี้และเรียกดูเว็บไซต์

เจนล้างแคชของคุกกี้ทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็ไปที่หน้าแรกของ ExampleNews.com

สิ่งที่เกิดขึ้นมีดังนี้

  1. ExampleNews.com แสดงผลและเรียกโฆษณาจาก Google (Ad Manager)
  2. เนื่องจากหน่วยโฆษณามีสิทธิ์สำหรับการจัดสรรแบบไดนามิก Google จึงส่งคำขอราคาเสนอไปยัง FinestDSP และผู้เสนอราคารายอื่นๆ ผ่านบริการการเสนอราคาแบบเรียลไทม์
  3. แอปพลิเคชันผู้เสนอราคาของ FinestDSP จะได้รับและประมวลผลคำขอราคาเสนอ รวมถึงส่งการเสนอราคาตอบ
  4. Google จะได้รับการเสนอราคาตอบจากผู้เสนอราคา ซึ่งรวมถึงการตอบกลับของ FinestDSP ที่ระบุโฆษณาที่มีแท็กจับคู่ (พิกเซล)
  5. FinestDSP เป็นผู้ชนะการประมูล Google แสดงโฆษณาของ FinestDSP และแท็กจับคู่ให้กับเจน
  6. แท็กจับคู่จะเรียกบริการจับคู่คุกกี้ของ Google โดยระบุพารามิเตอร์ google_nid และ google_cm
  7. บริการจับคู่คุกกี้จะอ่านคุกกี้ Google ของเจน และส่งการเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL การจับคู่คุกกี้ของ FinestDSP โดยมีการตั้งค่าพารามิเตอร์ google_user_id และ google_cver
  8. เบราว์เซอร์ของเจนโหลดการเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL การจับคู่คุกกี้ของ FinestDSP
  9. ปลายทางการจับคู่คุกกี้ของ FinestDSP จะประมวลผลคำขอเปลี่ยนเส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยพารามิเตอร์ของ URL ที่ Google กำหนด และคุกกี้ของเจนในส่วนหัว HTTP ตอนนี้ FinestDSP สามารถจัดเก็บการแมปคุกกี้ไปยัง google_user_id ในตารางการจับคู่ได้แล้ว
  10. DSP ที่ดีที่สุดจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนเส้นทางด้วยพิกเซล 1x1 ที่มองไม่เห็น
สถานการณ์ที่ 2: ผู้ใช้ที่มีการแมปอยู่แล้ว

1 สัปดาห์หลังจากสถานการณ์ 1 เจนไปที่ ExampleNews.com อีกครั้ง ตอนนี้เมื่อเจนมีทั้งคุกกี้ผู้เสนอราคาและคุกกี้ Ad Manager ในเครื่องของตนแล้ว การจับคู่มีดังนี้

  1. หน้าเว็บจะแสดงผล ซึ่งทำให้ Google (Ad Manager) ขอโฆษณาที่จะแสดงผลในหน้า
  2. ในระหว่างการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา Google จะส่งคำขอราคาเสนอไปยังผู้เสนอราคาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง FinestDSP
  3. FinestDSP จะได้รับคำขอราคาเสนอ รวมถึงสัญญาณต่างๆ เช่น google_user_id
  4. FinestDSP จะค้นหา google_user_id ในตารางการจับคู่ แล้วพบคุกกี้ที่เชื่อมโยงกับเจนซึ่งสร้างขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น (ในสถานการณ์ที่ 1)
  5. ตรรกะการเสนอราคาของ FinestDSP จะเสนอราคาสำหรับการแสดงผลนั้นและชนะการประมูลโดยพิจารณาจากข้อมูลที่เชื่อมโยงกับคุกกี้
  6. เจนอาจเห็นโฆษณาที่ปรับแต่งตามความสนใจของตนโดยอิงตามข้อมูลที่ FinestDSP มีอยู่

การจับคู่คุกกี้แบบทิศทางเดียวนั้นคล้ายกับเวิร์กโฟลว์แบบ 2 ทิศทาง เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เฉพาะ Google โฮสต์เท่านั้นและจะสร้างตารางจับคู่ ซึ่งใช้ได้ในกรณีที่ผู้เสนอราคาไม่ได้รับอนุญาตให้โฮสต์ User-ID ของ Google ในตารางการจับคู่ของตนเอง หากต้องการใช้ขั้นตอนนี้ ผู้เสนอราคาต้องอนุญาตให้ Google โฮสต์ตารางการจับคู่ โดยจะระบุ google_cm ในคำขอที่ส่งไปยังบริการจับคู่คุกกี้ของ Google ไม่ได้อีกต่อไป และจะส่งผลให้ไม่ได้รับ google_gid เพื่อสร้างตารางการจับคู่ของตนเอง เมื่อ Google สร้างการจับคู่สำหรับผู้ใช้แล้ว ผู้เสนอราคาสามารถเพิ่มผู้ใช้นั้นลงในรายการผู้ใช้โดยใช้ข้อมูลคุกกี้ของตนเองได้ ในทำนองเดียวกัน คำขอราคาเสนอสำหรับผู้ใช้เหล่านี้จะยกเว้นรหัสผู้ใช้ Google แต่จะมีข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ ตัวอย่างง่ายๆ ของเวิร์กโฟลว์ที่แก้ไขแล้วจะสรุปได้ในขั้นตอนด้านล่าง

ในการเริ่มต้นขั้นตอนนี้ ผู้เสนอราคาต้องวางแท็กจับคู่เพื่อให้แสดงผลในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ แท็กจับคู่ต้องนำเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ไปยัง URL การจับคู่คุกกี้ ซึ่งต่างจากเวิร์กโฟลว์สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในรัฐในสหรัฐอเมริกาที่มีข้อจำกัดด้านความเป็นส่วนตัว ตัวอย่างเช่น เมื่อกำหนดค่า URL การจับคู่คุกกี้เป็น https://ad.network.com/pixel URL จะมีลักษณะดังนี้

<img src="https://ad.network.com/pixel" />

เมื่อโหลดในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ ระบบจะขอพิกเซลจาก URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคา คำขอนี้จะมีคุกกี้ในส่วนหัว HTTP ซึ่งควรมีการแยกสำหรับขั้นตอนถัดไป

ปลายทางการจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังบริการจับคู่คุกกี้ของ Google รวมถึงพารามิเตอร์ google_hm ซึ่งสร้างขึ้นด้วยข้อมูลคุกกี้ที่เข้ารหัสแบบ Web-safe base64 ของ Google URL เปลี่ยนเส้นทางอาจมีลักษณะดังนี้

https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=BIDDER_ACCOUNT_NID&google_hm=HOSTED_MATCH_DATA

Google จะได้รับการเปลี่ยนเส้นทางที่มีพารามิเตอร์ที่คุณระบุ นอกเหนือไปจากคุกกี้ของ Google ในส่วนหัว HTTP

ขั้นตอนที่ 4: Google จะแสดงพิกเซลเมื่อการเปลี่ยนเส้นทางสำเร็จหรือเกิดข้อผิดพลาดหากระบุ URL ของรายงาน

หากการจับคู่คุกกี้สำเร็จ หรือไม่ได้ระบุ URL รายงานการจับคู่คุกกี้สำหรับบัญชีของผู้เสนอราคา Google จะแสดงพิกเซลโปร่งใสขนาด 1x1 โดยค่าเริ่มต้นและเวิร์กโฟลว์จะสิ้นสุดที่นี่ การแสดงผลสำหรับผู้ใช้รายนี้ในคำขอราคาเสนอที่ตามมาจะรวมข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ของผู้เสนอราคาใน BidRequest.hosted_match_data สำหรับโปรโตคอล Google หรือ BidRequest.user.buyeruid สำหรับการใช้งาน OpenRTB ของ Google ผู้เสนอราคายังสร้างรายการผู้ใช้โดยใช้ข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ได้ด้วย

มิเช่นนั้น หากเกิดข้อผิดพลาด Google จะส่งการเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL รายงานการจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคา พร้อมแจ้งสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ระบุไว้ในพารามิเตอร์ google_error หาก URL รายงานการจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาคือ https://ad.network.com/report URL เปลี่ยนเส้นทางจะมีลักษณะดังต่อไปนี้

<img src="https://ad.network.com/report?google_error=ERROR_ID" />

เบราว์เซอร์ของผู้ใช้จะเปลี่ยนเส้นทางไปยัง URL รายงานการจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคา รวมถึงสาเหตุของข้อผิดพลาด (หากมี) ที่ Google ระบุไว้ในพารามิเตอร์ google_error ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตีความรหัสข้อผิดพลาดได้ที่คำอธิบายพารามิเตอร์

ขั้นตอนที่ 6: ผู้เสนอราคาจะแสดงพิกเซลโปร่งใสขนาด 1x1

ผู้เสนอราคาต้องตอบกลับด้วยการแสดงพิกเซลโปร่งใสขนาด 1x1 ไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้

ระบบจะแสดงเวิร์กโฟลว์เริ่มต้นสําหรับผู้ใช้ในรัฐของสหรัฐอเมริกาที่มีข้อจํากัดด้านความเป็นส่วนตัวจากแผนภาพด้านล่าง โดยที่คําขอและคําตอบจะแสดงด้วยลูกศร และรายการข้อมูลที่มาพร้อมกับคําอธิบายจะแสดงอยู่ในวงเล็บ

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_nid รหัสเครือข่าย (NID) สำหรับบัญชีผู้เสนอราคา ดูรหัสนี้ได้ผ่านทรัพยากรผู้เสนอราคา
google_sc พารามิเตอร์นี้เลิกใช้งานแล้ว ตั้งค่าคุกกี้ของ Google สำหรับผู้ใช้หากไม่มีคุกกี้ ระบบจะไม่สนใจค่าของพารามิเตอร์และอาจละเว้นค่าของพารามิเตอร์ การละเว้นพารามิเตอร์จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดหากไม่มีคุกกี้
google_no_sc พารามิเตอร์นี้เลิกใช้งานแล้ว การดำเนินการนี้จะระบุบริการจับคู่คุกกี้ของ Google ว่าไม่ควรตั้งค่าคุกกี้สำหรับผู้ใช้หากไม่มีคุกกี้ดังกล่าว ระบบจะไม่สนใจค่าของพารามิเตอร์และอาจละเว้นค่าของพารามิเตอร์นี้
google_hm

มีข้อมูลที่ผู้เสนอราคาต้องการจัดเก็บในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google

google_redir URL ที่เข้ารหัสซึ่งคุณต้องการให้ Google ส่งการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP 302 URL ที่ระบุจะได้รับการเปลี่ยนเส้นทางที่มีพารามิเตอร์ google_error สำหรับทั้งข้อผิดพลาดและการดำเนินการที่สำเร็จ
google_ula สตริงที่ใช้เพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้ที่มีอยู่ รูปแบบที่คาดไว้ของค่าคือ userlistid[,timestamp]:
  • userlistid: รหัสรายชื่อผู้ใช้ที่เป็นตัวเลข 1 ตัว
  • timestamp: การประทับเวลาที่ไม่บังคับในรูปแบบ POSIX ซึ่งระบุเวลาที่เพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้

อาจมีพารามิเตอร์ของ URL นี้ซ้ำเพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายการหลายรายการ

gdpr บ่งบอกว่าคำขออยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ GDPR เกี่ยวกับการใช้ข้อมูล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน ข้อกำหนดเกี่ยวกับความยินยอมของผู้ใช้ EU ด้านล่าง หรือผลกระทบต่อการมีสิทธิ์จับคู่คุกกี้ใน เอกสารประกอบเกี่ยวกับ TCF เวอร์ชัน 2.0 ของ IAB ของ Authorized Buyers

เช่น gdpr=1

gdpr_consent สตริง TC ที่แสดงถึงความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดเกี่ยวกับความยินยอมของผู้ใช้ EU ด้านล่าง หรือจะมีการส่งสตริง TC อย่างไรใน เอกสารประกอบเกี่ยวกับ TCF เวอร์ชัน 2.0 ของ IAB ของ Authorized Buyers
process_consent บ่งบอกว่าผู้เสนอราคาได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ปลายทางในการใช้ข้อมูลที่ระบุไว้ใน นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ของ Google

หากคำขอไม่อยู่ภายใต้นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU หรือหากมีพารามิเตอร์ความยินยอมอื่นๆ อยู่ในคำขอ (gdpr_consent) ระบบจะไม่สนใจพารามิเตอร์นี้

เช่น process_consent=T

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_error

ค่าจำนวนเต็มที่ระบุข้อผิดพลาดของคำขอโดยรวม เมื่อได้รับแล้ว จะระบุว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ และจะไม่มีการตั้งค่าพารามิเตอร์การตอบกลับ google_ อื่นๆ ค่าข้อผิดพลาดที่รองรับมีดังนี้

  • 1: ผู้ใช้มีคุกกี้ Google แต่เลือกไม่ใช้การติดตามโดยใช้คุกกี้นี้
  • 2: ไม่ได้ระบุการดำเนินการที่ถูกต้อง เช่น ได้รับคำขอที่ไม่มีการดำเนินการ
  • 3: ผู้ใช้ไม่มีคุกกี้ของ Google Google จะไม่ตั้งค่าคุกกี้ผ่านบริการจับคู่คุกกี้
  • 4: ระบุการดำเนินการที่ขัดแย้งกันแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ระบุทั้งแฟล็ก google_push และ google_cm ในคำขอเดียวกันเนื่องจากมีจุดประสงค์ที่ขัดแย้งกัน
  • 5: มีการส่งพารามิเตอร์ google_push ที่ไม่ถูกต้องในการเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำขอจับคู่พิกเซลแบบ 2 ทิศทาง การเปลี่ยนเส้นทางต้องตั้งค่า google_push เป็นค่าเดียวกันกับที่ส่งให้คุณในคำขอพิกเซลเริ่มต้น
  • 6: มีการระบุ NID ที่ไม่ถูกต้องในแท็กจับคู่
  • 7: ตรวจพบคุกกี้ที่ไม่ถูกต้อง
  • 8: เลิกใช้งานแล้ว ไม่พบคุกกี้
  • 9: ไม่พบคุกกี้ ระบบได้พยายามตั้งค่าคุกกี้ทดสอบ
  • 10: มีการใช้พารามิเตอร์ google_redir โดยไม่ได้ระบุ google_hm หรือใช้นอกเหนือจาก google_cm
  • 15: คำขอมาจากภูมิภาคที่ Google กำหนดให้ Google โฮสต์ตารางการจับคู่ ดังนั้น การตอบกลับนี้จึงไม่มี User ID ของ Google ซึ่งปัจจุบันฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้กับการเข้าชมเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่เราวางแผนที่จะเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2020

เริ่มต้นโดย Google: การจับคู่พิกเซลแบบ 2 ทิศทาง

การจับคู่พิกเซลแบบ 2 ทิศทางเป็นเวิร์กโฟลว์สำหรับบริการจับคู่คุกกี้ของ Google โดยที่ Google พยายามจับคู่รหัสผู้ใช้ Google กับผู้เสนอราคาที่อัลกอริทึมเลือก นอกเหนือจากผู้ชนะการประมูลการเสนอราคาแบบเรียลไทม์ เมื่อมีการวางโฆษณา Google จะวางแท็กจับคู่ที่บอกให้เบราว์เซอร์ของผู้ใช้โหลดพิกเซลแบบโปร่งใสจาก URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาที่เลือกไว้ วิธีนี้จะช่วยให้ทั้ง Google และผู้เสนอราคาสร้างตารางการจับคู่กับผู้ใช้ที่กำหนดได้ ด้านล่างคือตัวอย่างง่ายๆ ของเวิร์กโฟลว์นี้

ขั้นตอนที่ 1: Google วางแท็กการจับคู่

เมื่อหน้าเว็บของผู้เผยแพร่โฆษณาที่เข้าร่วมโหลดในเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ และ Google แสดงโฆษณาในช่องโฆษณาบนหน้านั้นได้ ระบบอาจวางแท็กการจับคู่ที่ขอพิกเซลจากผู้เสนอราคาที่เลือกไว้ตามอัลกอริทึม แท็กการจับคู่พิกเซลที่ Google วางจะรวม URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาเข้ากับพารามิเตอร์เพิ่มเติมซึ่งผู้เสนอราคาสามารถใช้เพื่อสร้างตารางการจับคู่ได้ สำหรับ URL การจับคู่คุกกี้ที่ระบุเป็น https://ad.network.com/pixel จะมีโครงสร้างดังนี้

<img src="https://ad.network.com/pixel?google_gid=GOOGLE_GID&google_cver=1&google_push=PUSH_DATA" />

ผู้เสนอราคาที่ได้รับคำขอจับคู่พิกเซลจะต้องตอบกลับด้วยการเปลี่ยนเส้นทางไปยังบริการจับคู่คุกกี้ของ Google ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้

https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=GOOGLE_NID&google_push=PUSH_DATA

โปรดทราบว่า URL เปลี่ยนเส้นทางด้านบนคล้ายกับ URL ที่ใช้ในแท็กการจับคู่สำหรับเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ที่ผู้เสนอราคาเริ่ม ในการจับคู่พิกเซล พารามิเตอร์ google_cm จะแทนที่ด้วยพารามิเตอร์ google_push และค่าของพารามิเตอร์นี้ต้องเท่ากับค่าที่ Google ให้ไว้ในคําขอ นอกจากนี้ ยังระบุพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อให้ตรงตามกรณีการใช้งานเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกับเวิร์กโฟลว์ที่เริ่มต้นโดยผู้เสนอราคา

ขั้นตอนที่ 3: Google ประมวลผลการเปลี่ยนเส้นทางและตอบสนองด้วยพิกเซล

Google จะบันทึกว่ามีการสร้างการจับคู่สำหรับผู้ใช้ และจัดการการดำเนินการเพิ่มเติมที่ขอผ่านพารามิเตอร์การค้นหา สุดท้าย Google จะตอบสนองด้วยพิกเซลโปร่งใสขนาด 1x1

แผนภาพเวิร์กโฟลว์การจับคู่พิกเซล

ขั้นตอนการทำงานนี้จะแสดงด้วยแผนภาพด้านล่าง โดยที่คำขอและคำตอบจะแสดงด้วยลูกศร และรายการข้อมูลที่ประกอบกันจะแสดงในวงเล็บ

พารามิเตอร์คำขอแท็กที่ตรงกันของ Google

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_gid รหัสผู้ใช้ Google สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในรัฐในสหรัฐอเมริกาที่มีข้อจำกัดด้านความเป็นส่วนตัว ระบบจะระบุไว้ในแท็กการจับคู่ของ Google เสมอ
google_cver เวอร์ชันของคุกกี้ ซึ่งจะระบุในแท็กการจับคู่ของ Google เสมอ
google_push บ่งบอกว่าคำขอนี้กำลังเริ่มต้นเวิร์กโฟลว์การจับคู่พิกเซล ค่านี้ต้องแสดงผลผ่านพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องในการตอบกลับการเปลี่ยนเส้นทางของผู้เสนอราคา

พารามิเตอร์เปลี่ยนเส้นทางการจับคู่พิกเซลของผู้เสนอราคา

พารามิเตอร์ คำอธิบาย
google_nid รหัสเครือข่าย (NID) สำหรับบัญชีผู้เสนอราคา ดูรหัสนี้ได้ผ่านทรัพยากรผู้เสนอราคา
google_push บ่งบอกว่าการเปลี่ยนเส้นทางนี้ดำเนินเวิร์กโฟลว์การจับคู่พิกเซลให้เสร็จสมบูรณ์ ต้องระบุค่าจากแท็กการจับคู่ของ Google ที่เกี่ยวข้องที่นี่
google_hm

มีข้อมูลที่ผู้เสนอราคาต้องการจัดเก็บในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google

google_ula สตริงที่ใช้เพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้ที่มีอยู่ รูปแบบที่คาดไว้ของค่าคือ userlistid[,timestamp]:
  • userlistid: รหัสรายชื่อผู้ใช้ที่เป็นตัวเลข 1 ตัว
  • timestamp: การประทับเวลาที่ไม่บังคับในรูปแบบ POSIX ซึ่งระบุเวลาที่เพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้

อาจมีพารามิเตอร์ของ URL นี้ซ้ำเพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายการหลายรายการ

เริ่มต้นโดย Google: การจับคู่พิกเซลแบบทิศทางเดียว

การจับคู่พิกเซลแบบทิศทางเดียวแตกต่างจากเวิร์กโฟลว์แบบ 2 ทิศทางตรงที่แท็กการจับคู่ของ Google ไม่มีพารามิเตอร์ที่ระบุรหัสผู้ใช้ Google แต่จะยังคงป้อนข้อมูลในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google ซึ่งใช้ในกรณีที่ผู้เสนอราคาไม่ได้รับอนุญาตให้โฮสต์ User-ID ของ Google ในตารางการจับคู่ของตนเอง ตัวอย่างง่ายๆ ของเวิร์กโฟลว์ที่แก้ไขแล้วจะสรุปได้ในขั้นตอนด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 1: Google วางแท็กการจับคู่

Google จะวางแท็กการจับคู่สำหรับผู้เสนอราคาที่เลือกไว้ตามอัลกอริทึม แท็กจับคู่มีพารามิเตอร์ google_push ตัวอย่าง

<img src="https://ad.network.com/pixel?google_push=PUSH_DATA" />

ขั้นตอนที่ 2: เบราว์เซอร์ของผู้ใช้ขอพิกเซลจาก URL การจับคู่การทำอาหารของผู้เสนอราคา

เบราว์เซอร์ของผู้ใช้จะขอพิกเซลจาก URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคา ซึ่งรวมถึงคุกกี้ของผู้เสนอราคาในส่วนหัว HTTP

ปลายทางการจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังบริการจับคู่คุกกี้ของ Google รวมถึงพารามิเตอร์ google_hm ซึ่งสร้างขึ้นด้วยข้อมูลคุกกี้ที่เข้ารหัสแบบ Web-safe base64 ของ Google URL เปลี่ยนเส้นทางอาจมีลักษณะดังนี้

https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=BIDDER_ACCOUNT_NID&google_hm=HOSTED_MATCH_DATA&google_push=PUSH_DATA

Google จะได้รับการเปลี่ยนเส้นทางที่มีพารามิเตอร์ที่คุณระบุ นอกเหนือไปจากคุกกี้ของ Google ในส่วนหัว HTTP หากการดำเนินการสำเร็จ การแสดงผลสำหรับผู้ใช้รายนี้ในคำขอราคาเสนอที่ตามมาจะรวมข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ของผู้เสนอราคาใน BidRequest.hosted_match_data สำหรับโปรโตคอลของ Google หรือ BidRequest.user.buyeruid สำหรับการใช้งาน OpenRTB ของ Google ผู้เสนอราคายังสามารถป้อนข้อมูลรายการผู้ใช้โดยใช้ข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ซึ่งระบุไว้ได้ด้วย

สุดท้าย Google จะส่งพิกเซลโปร่งใสขนาด 1x1 กลับไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้

การเสนอราคาแบบเปิดช่วยให้ Exchange สามารถใช้เวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ที่ผู้เสนอราคาเริ่มและGoogle เริ่ม เพื่อจับคู่รหัสผู้ใช้ Google กับคุกกี้ของตน Cookie Match Assist (CMA) เป็นฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับ Ad Exchange ที่ช่วยให้ Exchange สร้างตารางการจับคู่กับผู้เสนอราคาของตนเองได้

  1. เมื่อวางโฆษณา Google จะเลือกการแลกเปลี่ยนที่เข้าร่วมโดยใช้อัลกอริทึมและวางแท็ก Cookie Match Assist ที่มีโครงสร้างต่อไปนี้

    <img src="https://ob.exchange.com/pixel?google_gid=GOOGLE_GID&google_cver=1"/>
  2. แท็กการจับคู่ CMA ของ Google จะทำให้ URL การจับคู่คุกกี้ของ Exchange ได้รับคำขอพิกเซล

  3. ปลายทางการจับคู่คุกกี้ของ Exchange ได้รับคำขอ โดยที่บริการจับคู่คุกกี้ของตนเองมีหน้าที่จับคู่รหัสผู้ใช้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่งของตน ในแผนภาพด้านล่าง บริการจับคู่คุกกี้ของ Exchange จะตอบสนองต่อเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางไปยังจุดสิ้นสุดของผู้เสนอราคา
  4. ผู้เสนอราคาได้รับคำขอ รวมถึงพารามิเตอร์ใดๆ ที่ Exchange ระบุเพื่อจับคู่รหัสผู้ใช้กับคุกกี้ของตน

ข้อจำกัด

ความถี่สูงสุดของคำขอสำหรับการจับคู่ใหม่

ผู้เสนอราคามีหน้าที่จำกัดจำนวนการเรียกใช้บริการจับคู่คุกกี้สำหรับผู้ใช้ที่มีรายการใหม่ในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google รายการในตารางการจับคู่ที่โฮสต์ไว้อาจถือว่าหมดอายุใน 14 วัน หลังจากนั้นระบบจะรีเฟรชรายการได้

ตอบกลับคำขอจับคู่พิกเซลทั้งหมด

ผู้เสนอราคาที่ใช้เวิร์กโฟลว์การจับคู่พิกเซลควรตอบสนองต่อคําขอการจับคู่ Pixel ที่เข้ามาทั้งหมดด้วยการตอบกลับรวมถึงพารามิเตอร์ google_push ซึ่งจะช่วยให้ Google บังคับใช้นโยบายได้โดยการตรวจสอบการใช้งาน หากอัตราการตอบกลับของผู้เสนอราคาลดลงต่ำกว่า 90% Google จะจำกัดจำนวนคำขอการจับคู่ Pixel ที่ส่งไปยังบัญชีของผู้เสนอราคาดังกล่าว

ใช้ปลายทาง HTTPS

ปลายทางที่ใช้ในเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ทั้งหมดต้องใช้ HTTPS

เมื่อตอบกลับคำขอจับคู่พิกเซลที่ส่งถึงคุณผ่าน HTTPS คุณจะต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังบริการจับคู่คุกกี้ผ่าน HTTPS ในทำนองเดียวกัน ปลายทาง Cookie Match Assist ที่เปลี่ยนเส้นทางไปยังผู้เสนอราคาก็ต้องใช้ HTTPS ด้วยเช่นกัน หากคุณส่งคำขอถึง Google ผ่าน HTTP บ่อยครั้งมากกว่า 1 ครั้งทุก 2 นาที ระบบจะควบคุมจำนวนคำขอจับคู่ที่ส่งไปยังบัญชีของคุณ

คำขอจับคู่คุกกี้ที่อยู่ภายใต้นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ของ Google ควรระบุความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง คำขอดังกล่าวจำเป็นต่อการระบุว่ามีการรวบรวมคำยินยอมโดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้

ตัวอย่าง

ตัวอย่างด้านล่างแสดงวิธีใช้บริการจับคู่คุกกี้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง โปรดทราบว่าหากไม่ได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น มีสมมติฐานว่าผู้ใช้ที่ได้รับการดำเนินการไม่ได้มาจากรัฐในสหรัฐอเมริกาที่มีข้อจำกัดด้านความเป็นส่วนตัว

สร้างตารางจับคู่ที่โฮสต์โดยผู้เสนอราคา

ผู้เสนอราคาสามารถใช้เวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้เพื่อป้อนข้อมูลตารางการจับคู่ของตัวเองได้โดยการระบุเฉพาะพารามิเตอร์ google_nid และ google_cm ในแท็กการจับคู่ ซึ่งอาจมีลักษณะดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=ad_network_xyz&google_cm" />

หากตั้งค่า URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาเป็น https://ad.network.com/pixel?id=1 และจับคู่คุกกี้สำเร็จ การเปลี่ยนเส้นทางที่ Google จะส่งเพื่อตอบสนองแท็กจับคู่ของผู้เสนอราคาอาจมีลักษณะดังนี้

https://ad.network.com/pixel?id=1&google_gid=dGhpcyBpcyBhbiBleGFtGxl&google_cver=1

หากการจับคู่คุกกี้ล้มเหลวเนื่องจากผู้ใช้ไม่มีคุกกี้ของ Google การตอบกลับจะเป็น:

https://ad.network.com/pixel?id=1&google_error=3

รหัสข้อผิดพลาดจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงของข้อผิดพลาด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรหัสข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นสำหรับเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้ได้ที่พารามิเตอร์ของ URL เปลี่ยนเส้นทาง

เพิ่มลงในรายชื่อผู้ใช้รายเดียว

คุณระบุพารามิเตอร์ google_ula ในแท็กจับคู่ของผู้เสนอราคาเพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายชื่อผู้ใช้ที่มีรหัสที่ระบุได้ หากตารางจับคู่ที่โฮสต์โดย Google หรือผู้เสนอราคามีรายการใหม่สำหรับผู้ใช้ ผู้เสนอราคาสามารถวางแท็กจับคู่ที่มีพารามิเตอร์ google_nid และ google_ula เพื่อเพิ่มผู้ใช้ลงในรายการที่ระบุโดยไม่ต้องเริ่มเวิร์กโฟลว์การจับคู่คุกกี้แบบสมบูรณ์ ดูข้อจำกัดในการเรียกใช้บริการจับคู่คุกกี้สำหรับกรณีเพิ่มเติม แท็กการจับคู่ที่ตรงกันอาจมีลักษณะดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=ad_network_xyz&google_ula=12345" />

เพื่อให้ตอบกลับได้สำเร็จเมื่อ URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาคือ https://ad.network.com/pixel URL เปลี่ยนเส้นทางของ Google จะมีลักษณะดังนี้

https://ad.network.com/pixel?google_ula=12345,0

หากมีข้อผิดพลาดโดยรวม เช่น ไม่มีคุกกี้ Google สำหรับผู้ใช้ URL เปลี่ยนเส้นทางจะมีพารามิเตอร์ google_error ดังนี้

  • https://ad.network.com/pixel?google_error=3

หากมีข้อผิดพลาดเฉพาะเกี่ยวกับการเพิ่มผู้ใช้ในรายการ คุณจะได้รับ google_ula ในการเปลี่ยนเส้นทาง การดำเนินการนี้ต่างจากพารามิเตอร์แท็กจับคู่ที่ตรงกัน โดยจะแทนที่การประทับเวลาด้วยรหัสสถานะเพื่อระบุถึงความสำเร็จของการดำเนินการ ตัวอย่างเช่น หากคำขอล้มเหลวเนื่องจากบัญชีผู้เสนอราคาไม่สามารถเข้าถึงรายชื่อผู้ใช้ที่ระบุ URL การเปลี่ยนเส้นทางจะเป็นดังนี้

https://ad.network.com/pixel?google_ula=12345,2

เพิ่มไปยังรายการผู้ใช้หลายรายการ

ผู้เสนอราคาระบุได้ว่าควรเพิ่มผู้ใช้ลงในรายการผู้ใช้หลายรายการด้วยการใส่พารามิเตอร์ google_ula หลายรายการไว้ในแท็กการจับคู่ ในทางปฏิบัติ อาจมีลักษณะดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=ad_network_xyz&google_ula=12345,7654321&google_ula=45678" />

ระบบจะรายงานสถานะการดำเนินการของแต่ละรายการผู้ใช้คล้ายๆ กันผ่านพารามิเตอร์ google_ula ที่แตกต่างกันในการเปลี่ยนเส้นทาง ดังนี้

https://ad.network.com/pixel?google_ula=12345,2&google_ula=45678,0

ในการเปลี่ยนเส้นทางด้านบน เราพบว่าการดำเนินการสำเร็จสำหรับรายชื่อผู้ใช้ที่มีรหัส 45678 แต่ไม่สำเร็จสำหรับรหัสรายชื่อผู้ใช้ 12345 เนื่องจากผู้เสนอราคาไม่มีสิทธิ์เข้าถึง

ในการจับคู่คุกกี้และเพิ่มผู้ใช้ไปยังรายชื่อผู้ใช้ในคำขอเดียว แท็กการจับคู่ของผู้เสนอราคาควรมี google_cm และ google_ula ดังนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=ad_network_xyz&google_ula=12345&google_cm" />

URL เปลี่ยนเส้นทางที่ Google ระบุจะรวม google_gid, google_cver และ google_ula ซึ่งอาจมีลักษณะดังต่อไปนี้

https://ad.network.com/pixel?id=&google_gid=dGhpcyBpcyBhbiBleGFtGxl&google_cver=1&google_ula=12345,0

การจัดเก็บการจับคู่ที่ตรงกันในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google

หากผู้เสนอราคาต้องการจัดเก็บข้อมูลคุกกี้ในตารางการจับคู่ที่โฮสต์โดย Google และไม่ต้องการจัดเก็บการจับคู่กับรหัสผู้ใช้ Google ในตารางการจับคู่ของตนเอง แท็กการจับคู่ต้องมีพารามิเตอร์ google_hm โดยค่าต้องเป็นสตริงที่เข้ารหัสแบบ Web-safe base64 สำหรับผู้ใช้ซึ่งมีข้อมูลคุกกี้ที่ไม่เข้ารหัสของผู้เสนอราคาเป็น Cookie number 1! ค่าที่เข้ารหัสจะเป็น Q29va2llIG51bWJlciAxIQ== ซึ่งจะใช้ในแท็กการจับคู่ดังตัวอย่างต่อไปนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=cookie-monster&google_hm=Q29va2llIG51bWJlciAxIQ%3D%3D" />

เพื่อให้ตอบกลับได้สำเร็จเมื่อ URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาคือ https://cookie-monster.com/pixel URL เปลี่ยนเส้นทางของ Google จะมีลักษณะดังนี้

https://cookie-monster.com/pixel

พารามิเตอร์ google_gid ไม่อยู่ในการเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากแท็กการจับคู่ไม่มี google_cm และ google_hm ไม่รวมอยู่ในการตอบกลับที่สำเร็จ ในคำขอราคาเสนอในอนาคตสำหรับการแสดงผลของผู้ใช้รายนี้ ผู้เสนอราคาจะได้รับข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ใน BidRequest.hosted_match_data สำหรับโปรโตคอล RTB ของ Google หรือ BidRequest.user.buyeruid สำหรับการติดตั้งใช้งาน OpenRTB ของ Google

หากผู้เสนอราคาใช้แท็กการจับคู่แทนโดยที่ค่าของ google_hm ไม่ได้เข้ารหัสฐาน 64 เช่น chocolate_chunk! URL เปลี่ยนเส้นทางอาจมีลักษณะดังนี้

https://cookie-monster.com/pixel?google_hm=2

URL เปลี่ยนเส้นทางด้านบนมีค่า google_hm เป็น 2 ซึ่งบ่งบอกว่าการดำเนินการล้มเหลวเนื่องจากถอดรหัสค่าไม่ได้

ตารางจับคู่ที่โฮสต์โดย Google และผู้เสนอราคาซึ่งมีรายชื่อผู้ใช้

หากผู้เสนอราคาโฮสต์รายการการใช้งานของตนเองนอกเหนือจากรายชื่อผู้ใช้ที่โฮสต์โดย Google และต้องการให้แท็กการจับคู่เพียงแท็กเดียวตรงกับทั้ง 2 ตารางและเพิ่มผู้ใช้ดังกล่าวลงในรายการผู้ใช้ที่กำหนด แท็กการจับคู่ของผู้เสนอราคาดังกล่าวต้องมีพารามิเตอร์ google_cm, google_hm และ google_ula หากข้อมูลคุกกี้ของผู้เสนอราคาคือ Cookie number 1! ค่าที่เข้ารหัสจะเป็น Q29va2llIG51bWJlciAxIQ== ซึ่งจะสร้างแท็กจับคู่ดังตัวอย่างต่อไปนี้

<img src="https://cm.g.doubleclick.net/pixel?google_nid=cookie-monster&google_hm=Q29va2llIG51bWJlciAxIQ%3D%3D&google_cm&google_ula=12345" />

เพื่อให้ตอบกลับได้สำเร็จเมื่อ URL การจับคู่คุกกี้ของผู้เสนอราคาคือ https://cookie-monster.com/pixel URL เปลี่ยนเส้นทางของ Google จะมีลักษณะดังต่อไปนี้

https://cookie-monster.com/pixel?google_gid=ABCDETC&google_cver=1&google_ula=12345,0

เมื่อได้รับการเปลี่ยนเส้นทาง ผู้เสนอราคาจะสามารถจับคู่ User ID ของ Google ที่ระบุใน google_gid กับข้อมูลคุกกี้ในตารางการจับคู่ได้ นอกจากนี้ พวกเขาจะระบุได้ว่าการดำเนินการตารางจับคู่และรายชื่อผู้ใช้ที่โฮสต์โดย Google ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายล่วงหน้าสำหรับผู้เสนอราคาที่กำหนดค่าไว้ให้กำหนดเป้าหมายรหัสรายชื่อผู้ใช้ที่ระบุจะทำให้ผู้เสนอราคาได้รับคำขอราคาเสนอสำหรับการแสดงผลจากผู้ใช้ ในทำนองเดียวกัน ในคำขอราคาเสนอเหล่านี้ ผู้เสนอราคาจะได้รับข้อมูลการจับคู่ที่โฮสต์ไว้ใน BidRequest.hosted_match_data สำหรับโปรโตคอล RTB ของ Google หรือ BidRequest.user.buyeruid สำหรับการใช้งาน OpenRTB ของ Google