Structured Data สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริง (ClaimReview
)
หากคุณมีหน้าเว็บที่ใช้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างของบุคคลอื่น ก็ใส่ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ClaimReview
ไว้ในหน้าเว็บของคุณได้ ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ClaimReview
ช่วยให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงแบบสรุปแสดงขึ้นในผลการค้นหาของ Google เมื่อหน้าเว็บของคุณปรากฏในผลการค้นหาของคำกล่าวอ้างนั้นๆ
คำแนะนำนี้จะอธิบายรายละเอียดวิธีใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ClaimReview
หากไม่ต้องการเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้างด้วยตนเอง ให้ลองใช้เครื่องมือมาร์กอัปการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเกี่ยวกับเครื่องมือมาร์กอัปการตรวจสอบข้อเท็จจริง
วิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้าง
ข้อมูลที่มีโครงสร้างคือรูปแบบมาตรฐานในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหน้าและจำแนกประเภทเนื้อหาของหน้า หากคุณเพิ่งใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นครั้งแรก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของข้อมูลที่มีโครงสร้าง
ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับวิธีสร้าง ทดสอบ และเผยแพร่ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ดูคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีเพิ่มข้อมูลที่มีโครงสร้างลงในหน้าเว็บได้ใน Codelab สำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้าง
- เพิ่มพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น ดูตำแหน่งการแทรก Structured Data ในหน้าเว็บตามรูปแบบที่คุณใช้อยู่
- ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
- ตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดโดยใช้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย และแก้ไขข้อผิดพลาดที่สําคัญทั้งหมด พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ไม่สําคัญซึ่งอาจมีการรายงานในเครื่องมือด้วย เพราะอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพของ Structured Data ได้ (แต่ไม่จําเป็นว่าต้องมีสิทธิ์ปรากฏในผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย)
- ทำให้หน้าบางหน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้และใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อทดสอบว่า Google เห็นหน้าในลักษณะใด ตรวจสอบว่า Google เข้าถึงหน้าดังกล่าวได้และไม่มีการบล็อกหน้าด้วยไฟล์ robots.txt, แท็ก
noindex
หรือข้อกำหนดให้เข้าสู่ระบบ หากหน้าเว็บดูถูกต้องดีแล้ว คุณขอให้ Google ทำการ Crawl URL อีกครั้งได้ - หากต้องการให้ Google ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่ตลอด เราขอแนะนำให้ส่ง Sitemap ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการแบบอัตโนมัติได้โดยใช้ Search Console Sitemap API
ตัวอย่าง
ลองนึกถึงหน้าเว็บที่ประเมินคำกล่าวอ้างว่าโลกแบน ต่อไปนี้คือตัวอย่างการค้นหา "โลกแบน" ในหน้าผลการค้นหาของ Google Search หากหน้าเว็บมีเอลิเมนต์ ClaimReview
(โปรดทราบว่าภาพดีไซน์จริงอาจต่างออกไป)
นี่คือตัวอย่างข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้าเว็บที่โฮสต์การตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้
<html> <head> <title>The world is flat</title> <script type="application/ld+json"> { "@context": "https://schema.org", "@type": "ClaimReview", "url": "https://example.com/news/science/worldisflat.html", "claimReviewed": "The world is flat", "itemReviewed": { "@type": "Claim", "author": { "@type": "Organization", "name": "Square World Society", "sameAs": "https://example.flatworlders.com/we-know-that-the-world-is-flat" }, "datePublished": "2024-06-20", "appearance": { "@type": "OpinionNewsArticle", "url": "https://example.com/news/a122121", "headline": "Square Earth - Flat earthers for the Internet age", "datePublished": "2024-06-22", "author": { "@type": "Person", "name": "T. Tellar" }, "image": "https://example.com/photos/1x1/photo.jpg", "publisher": { "@type": "Organization", "name": "Skeptical News", "logo": { "@type": "ImageObject", "url": "https://example.com/logo.jpg" } } } }, "author": { "@type": "Organization", "name": "Example.com science watch" }, "reviewRating": { "@type": "Rating", "ratingValue": 1, "bestRating": 5, "worstRating": 1, "alternateName": "False" } } </script> </head> <body> </body> </html>
คำแนะนำเกี่ยวกับการมีสิทธิ์
Google ไม่รับประกันว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแสดงในผลการค้นหา แม้ว่าหน้าเว็บจะมีมาร์กอัปที่ถูกต้องตามการทดสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ การใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ แต่ไม่ได้รับประกันว่าฟีเจอร์นี้จะแสดงผล อัลกอริทึมของ Google จะใช้โปรแกรมระบุการมีสิทธิ์เป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวแปรต่างๆ ซึ่งรวมถึงหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
หากต้องการให้เนื้อหาการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน Google Search คุณจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
- เว็บไซต์ต้องมีหน้าเว็บหลายหน้าที่มาร์กอัปเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้าง
ClaimReview
- คุณต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ Structured Data และหลักเกณฑ์ใน Search Essentials ทั้งหมด
- ข้อมูลที่มีโครงสร้างและเนื้อหาในหน้าต้องไม่ขัดแย้งกัน (เช่น ข้อมูลที่มีโครงสร้างระบุว่าคำกล่าวอ้างเป็นจริง แต่เนื้อหาในหน้าระบุว่าคำกล่าวอ้างเป็นเท็จ) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาและข้อมูลที่มีโครงสร้างระบุไว้ตรงกัน (เช่น ทั้งสองระบุว่าคำกล่าวอ้างเป็นจริง)
- คุณต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความรับผิดชอบ ความโปร่งใส ความอ่านง่าย และการสื่อให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับเว็บไซต์ ตามที่ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนในหลักเกณฑ์ทั่วไปของ Google News
- คุณต้องมีนโยบายแก้ไขหรือมีกลไกให้ผู้ใช้รายงานข้อผิดพลาด
- เว็บไซต์สำหรับหน่วยงานทางการเมือง (เช่น การหาเสียง พรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้ง) ไม่มีสิทธิ์ใช้งานฟีเจอร์นี้
- ผู้อ่านสามารถระบุหาคำกล่าวอ้างและตรวจสอบเนื้อหาของบทความได้ง่าย ผู้อ่านเข้าใจได้ว่าเนื้อหาใดผ่านการตรวจสอบและนำไปสู่ข้อสรุปใด
- คุณต้องแสดงที่มาของคำกล่าวอ้างที่ทำการประเมินอย่างชัดเจนไปยังต้นทางที่ต่างกัน (แยกจากเว็บไซต์ของคุณ) ทั้งที่เป็นเว็บไซต์ คำแถลงต่อสาธารณะ โซเชียลมีเดีย หรือแหล่งที่มาอื่นๆ ที่ติดตามย้อนกลับได้
- การวิเคราะห์การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะต้องติดตามย้อนกลับไปยังแหล่งที่มาและวิธีการได้อย่างโปร่งใส โดยมีการอ้างอิงและรายการอ้างอิงถึงแหล่งที่มาหลัก
หลักเกณฑ์ทางเทคนิค
- หน้าเว็บจะต้องมีเอลิเมนต์
ClaimReview
เพียงรายการเดียวเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงรายการเดียว หากเพิ่มเอลิเมนต์ClaimReview
หลายรายการต่อหน้า หน้านั้นจะไม่มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงรายการเดียว - หน้าที่โฮสต์เอลิเมนต์
ClaimReview
จะต้องมีสรุปโดยย่อเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการประเมินเป็นอย่างน้อย หรือมีข้อความฉบับเต็ม ClaimReview
หนึ่งๆ ต้องอยู่ในหน้าของเว็บไซต์เพียงหน้าเดียว อย่าใส่การตรวจสอบข้อเท็จจริงเดียวกันซ้ำๆ ในหลายหน้า เว้นแต่เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในรูปแบบต่างๆ ของหน้าเดียวกัน (เช่น คุณอาจโพสต์ClaimReview
เดียวกันในหน้าเว็บรุ่นอุปกรณ์เคลื่อนที่และรุ่นเดสก์ท็อป)- หากเว็บไซต์ของคุณรวบรวมบทความตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ไว้ ให้ตรวจสอบว่าบทความทั้งหมดเป็นไปตามเกณฑ์ และคุณได้แสดงรายการเว็บไซต์ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่คุณรวมไว้โดยเป็นรายการที่เปิดเผยและเผยแพร่ต่อสาธารณะ
คำจำกัดความของประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้าง
การใช้การตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องใช้ประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้างต่อไปนี้
คุณต้องใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็นลงในเนื้อหาเพื่อให้มีสิทธิ์แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ คุณอาจใส่พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำด้วยเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
ClaimReview
ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ ClaimReview
ได้ที่ schema.org/ClaimReview
พร็อพเพอร์ตี้ที่ Google รองรับมีดังต่อไปนี้
พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น | |
---|---|
claimReviewed |
สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ได้รับการประเมิน โปรดจำกัดความยาวให้ไม่เกิน 75 อักขระเพื่อลดการตัดข้อความเวลาแสดงในอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
reviewRating |
การประเมินคำกล่าวอ้าง ออบเจ็กต์นี้รองรับทั้งการประเมินแบบเป็นตัวเลขและข้อความ ตอนนี้ผลการค้นหาจะแสดงค่าที่เป็นข้อความเท่านั้น โครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ มีแผนการให้คะแนนที่หลากหลายซึ่งอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงค่าตรงกลาง คุณควรจะจัดทำเอกสารเกี่ยวกับแผนการให้คะแนนดังกล่าวเพื่อชี้แจงความหมายของตัวเลขคะแนน อย่างน้อยที่สุด ต้องมีระบบการให้คะแนนซึ่งกำหนดความหมายของตัวเลขด้วยข้อความสำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่แสดงคะแนนเป็นตัวเลข
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การให้คะแนน |
url |
ลิงก์ไปยังหน้าที่โฮสต์บทความฉบับเต็มของการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดเมนของค่า URL นี้ต้องเป็นโดเมนเดียวกันกับหรือโดเมนย่อยของหน้าที่โฮสต์เอลิเมนต์ |
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ | |||||
---|---|---|---|---|---|
author |
ผู้เผยแพร่เนื้อหาของบทความการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ใช่ผู้เผยแพร่เนื้อหาของคำกล่าวอ้าง
โปรดทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับมาร์กอัปของผู้เขียนเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเกี่ยวกับผู้เขียนในฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดีที่สุด |
||||
itemReviewed |
ออบเจ็กต์ที่อธิบายคำกล่าวอ้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ |
Claim
ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Claim
ได้ที่ schema.org/Claim
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ | |||||
---|---|---|---|---|---|
appearance |
ลิงก์ไปยังหรือคำอธิบายในหน้าของ เราขอแนะนําให้คุณเพิ่ม |
||||
author |
ผู้เขียนคำกล่าวอ้างไม่ใช่ผู้เขียนการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่าใส่พร็อพเพอร์ตี้
|
||||
datePublished |
วันที่กล่าวอ้างหรือเริ่มมีการพูดถึงแบบสาธารณะ (เช่น เมื่อเริ่มได้รับความนิยมในโซเชียลเน็ตเวิร์ก) |
||||
firstAppearance |
ลิงก์ไปยังหรือคำอธิบายในหน้าของ เราขอแนะนําให้คุณเพิ่ม |
Rating
ดูคำจำกัดความที่สมบูรณ์ของ Rating
ได้ที่ schema.org/Rating
พร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น | |
---|---|
alternateName |
การให้คะแนนระดับความเป็นจริงที่กำหนดให้แก่ หากใช้ประโยคที่ยาวกว่านี้ ข้อความเริ่มต้นประโยคควรสื่อความหมายชัดเจน เผื่อในกรณีที่มีการตัดประโยคให้พอดีกับหน้าจอ เช่น "ข้อมูลจำเพาะส่วนใหญ่เป็นความจริง แต่การกล่าวอ้างโดยรวมอาจทำให้เข้าใจผิดได้" |
พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ | |
---|---|
bestRating |
สำหรับการให้คะแนนที่เป็นตัวเลข ค่าที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในสเกลจากแย่ที่สุดไปจนถึงดีที่สุด ต้องมากกว่า |
name |
เหมือนกับ |
ratingValue |
คะแนนที่เป็นตัวเลขของคำกล่าวอ้างนี้ ซึ่งอยู่ในช่วง |
worstRating |
สำหรับการให้คะแนนที่เป็นตัวเลข ค่าที่แย่ที่สุดที่เป็นไปได้ในสเกลจากแย่ที่สุดไปจนถึงดีที่สุด ต้องน้อยกว่า |
ตรวจสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ด้วย Search Console
Search Console เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบประสิทธิภาพของหน้าเว็บใน Google Search คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อสมัครใช้ Search Console เพื่อให้เนื้อหาได้แสดงในผลการค้นหาของ Google แต่การลงชื่อสมัครใช้จะช่วยให้คุณเข้าใจและปรับปรุงวิธีที่ Google เห็นเว็บไซต์ได้ เราขอแนะนำให้ไปดูข้อมูลใน Search Console ในกรณีต่อไปนี้
- หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก
- หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด
- วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ
หลังจากทำให้ข้อมูลที่มีโครงสร้างใช้งานได้เป็นครั้งแรก
หลังจากที่ Google ได้จัดทำดัชนีหน้าของคุณแล้ว ให้ตรวจหาปัญหาโดยใช้รายงานสถานะผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตามหลักแล้ว รายการที่ถูกต้องควรจะมีจํานวนเพิ่มขึ้น และรายการที่ไม่ถูกต้องไม่ควรจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น หากพบปัญหาในข้อมูลที่มีโครงสร้าง ให้ทำดังนี้
- แก้ไขรายการที่ไม่ถูกต้อง
- ตรวจสอบ URL ที่เผยแพร่เพื่อดูว่ายังมีปัญหาอยู่หรือไม่
- ขอการตรวจสอบโดยใช้รายงานสถานะ
หลังจากเผยแพร่เทมเพลตใหม่หรืออัปเดตโค้ด
เมื่อทําการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญในเว็บไซต์ ให้คอยตรวจสอบการเพิ่มขึ้นของรายการที่ไม่ถูกต้องของ Structured Data- หากเห็นว่าจำนวนรายการที่ไม่ถูกต้องเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะคุณเผยแพร่เทมเพลตใหม่ที่ใช้งานไม่ได้ หรือเว็บไซต์โต้ตอบกับเทมเพลตที่มีอยู่ด้วยวิธีใหม่และไม่ถูกต้อง
- หากเห็นว่าจำนวนรายการที่ถูกต้องลดลง (ไม่สอดคล้องกับรายการที่ถูกต้องซึ่งเพิ่มขึ้น) บางทีอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้ฝัง Structured Data ไว้ในหน้าอีกแล้ว ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อดูสาเหตุของปัญหา
วิเคราะห์การเข้าชมเป็นระยะ
วิเคราะห์การเข้าชมจาก Google Search โดยใช้รายงานประสิทธิภาพ ข้อมูลจะแสดงความถี่ที่หน้าปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ใน Search ความถี่ที่ผู้ใช้คลิกหน้า และอันดับเฉลี่ยที่หน้าปรากฏในผลการค้นหา คุณจะใช้ Search Console API ดึงผลการค้นหาเหล่านี้โดยอัตโนมัติก็ได้เช่นกันการแก้ปัญหา
หากประสบปัญหาในการใช้หรือแก้ไขข้อบกพร่องของ Structured Data โปรดดูแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ซึ่งอาจช่วยคุณได้
- หากคุณใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) หรือมีผู้อื่นดูแลเว็บไซต์ ให้ขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุนของระบบหรือผู้ดูแลเว็บดังกล่าว และอย่าลืมส่งต่อข้อความจาก Search Console ที่ระบุรายละเอียดปัญหาด้วย
- Google ไม่รับประกันว่าฟีเจอร์ที่ใช้ Structured Data จะแสดงในผลการค้นหา ดูรายการสาเหตุทั่วไปที่ Google อาจไม่แสดงเนื้อหาของคุณเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียได้ในหลักเกณฑ์ทั่วไปเกี่ยวกับ Structured Data
- Structured Data ของคุณอาจมีข้อผิดพลาดอยู่ ให้ตรวจสอบรายการข้อผิดพลาดของ Structured Data
- หากมีการดำเนินการกับ Structured Data โดยเจ้าหน้าที่ในหน้าของคุณ ระบบจะไม่สนใจ Structured Data ในหน้าดังกล่าว (แม้ว่าหน้าจะยังปรากฏในผลการค้นหาของ Google Search ก็ตาม) วิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Structured Data คือใช้รายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- อ่านหลักเกณฑ์อีกครั้งเพื่อดูว่าเนื้อหาของคุณละเมิดหลักเกณฑ์หรือไม่ ปัญหาอาจเกิดจากเนื้อหาที่เป็นสแปมหรือการใช้มาร์กอัปที่เป็นสแปม อย่างไรก็ตาม ปัญหาอาจไม่ได้เป็นปัญหาด้านไวยากรณ์ ซึ่งทำให้การทดสอบผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียระบุปัญหาเหล่านั้นไม่ได้
- แก้ปัญหาเกี่ยวกับผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียขาดหายไป/จำนวนรวมของผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียลดลง
- ขอให้อดทนรอระหว่างที่เราทำการ Crawl และจัดทำดัชนีอีกครั้ง และโปรดทราบว่าหลังจากที่คุณเผยแพร่หน้าหนึ่งๆ แล้ว อาจใช้เวลาหลายวันกว่า Google จะพบและทำการ Crawl หน้าดังกล่าว ดูคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการ Crawl และจัดทำดัชนีได้ในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ Crawl และจัดทำดัชนีของ Google Search
- โพสต์คำถามในฟอรัม Google Search Central