แนวทางปฏิบัติแนะนําสําหรับ SEO ของวิดีโอ
หากคุณมีวิดีโอในเว็บไซต์ การทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนําด้าน SEO สําหรับวิดีโอเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นค้นพบเว็บไซต์ของคุณผ่านผลการค้นหาวิดีโอใน Google วิดีโอจะปรากฏในหลายๆ ที่บน Google ซึ่งรวมถึงหน้าผลการค้นหาหลัก, โหมดวิดีโอ, Google รูปภาพ และแท็บสำรวจ ดังนี้

เพิ่มประสิทธิภาพให้วิดีโอของคุณปรากฏใน Google โดยทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้
- ช่วยให้ Google ค้นพบวิดีโอของคุณ
- ตรวจสอบว่าวิดีโอของคุณสามารถจัดทำดัชนีได้
- เปิดใช้ฟีเจอร์เฉพาะของวิดีโอ
- นำออก จำกัด หรืออัปเดตวิดีโอเมื่อจำเป็น
- ตรวจสอบวิดีโอด้วย Search Console
- แก้ปัญหาเกี่ยวกับวิดีโอ
ช่วยให้ Google ค้นพบวิดีโอของคุณ
ข้อกำหนดทางเทคนิคในการทำให้เนื้อหาในผลการค้นหาของ Google มีผลกับวิดีโอด้วย วิดีโอของคุณต้องมีข้อกำหนดเพิ่มเติมบางอย่างเพื่อให้ Google Search ค้นพบ, ทำการ Crawl และจัดทำดัชนีวิดีโอได้
- ใช้องค์ประกอบ HTML ที่ใช้กันโดยทั่วไปสำหรับการฝังวิดีโอ Google สามารถค้นหาวิดีโอที่อ้างอิงโดยองค์ประกอบ
<video>
,<embed>
,<iframe>
หรือ<object>
- อย่าใช้ตัวระบุส่วนย่อยเพื่อโหลดวิดีโอ เนื่องจากโดยทั่วไป Google Search ยังไม่รองรับส่วนย่อย URL
- หากคุณใช้ JavaScript ในการแทรกวิดีโอ ให้ตรวจสอบว่าวิดีโอปรากฏใน HTML ที่แสดงผลในเครื่องมือตรวจสอบ URL
- หากคุณใช้ Media API (เช่น Media Source API) ให้ตรวจสอบว่ายังคงมีการแทรกองค์ประกอบคอนเทนเนอร์วิดีโอ HTML แม้ว่าการเรียกใช้ Media API จะดำเนินการไม่สำเร็จก็ตาม (นอกเหนือจากการให้ข้อมูลเมตาเกี่ยวกับวิดีโอ) วิธีนี้จะช่วยให้ Google ยังคงค้นหาตำแหน่งของคอนเทนเนอร์วิดีโอได้แม้ว่าจะมีปัญหาในการเรียกใช้ Media API ก็ตาม
- อย่าพึ่งพาการดำเนินการของผู้ใช้ (เช่น การปัด การคลิก หรือการพิมพ์) เพื่อโหลดวิดีโอ
เราขอแนะนำให้ระบุข้อมูลเมตาเกี่ยวกับวิดีโอเพื่อให้ Google ค้นหาวิดีโอของคุณได้ง่ายขึ้น เรารองรับ Structured Data, Sitemap สำหรับวิดีโอ และโปรโตคอล Open Graph (OGP)
ตรวจสอบว่าวิดีโอของคุณสามารถจัดทำดัชนีได้
วิดีโอต้องเป็นไปตามข้อกำหนดการจัดทําดัชนีต่อไปนี้จึงจะมีสิทธิ์แสดงในฟีเจอร์วิดีโอ
- หน้าดูวิดีโอต้องมีการจัดทำดัชนี
- หน้าดูวิดีโอที่จัดทำดัชนีต้องทำงานได้ดีใน Search ระบบจึงจะพิจารณาจัดทำดัชนีวิดีโอในหน้า
- วิดีโอจะต้องฝังในหน้าดูวิดีโอ
- วิดีโอจะซ่อนอยู่หลังองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ได้
- วิดีโอต้องมีภาพปกที่ถูกต้องซึ่งพร้อมใช้งานใน URL แบบคงที่
ใช้ประเภทไฟล์วิดีโอที่รองรับ
ใช้ประเภทไฟล์วิดีโอที่รองรับเพื่อให้มีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์วิดีโอ Google ประมวลผลข้อมูลไฟล์วิดีโอประเภทต่อไปนี้ได้ 3GP、3G2、ASF、AVI、DivX、M2V、M3U、M3U8、M4V、MKV、MOV、MP4、MPEG、OGV、QVT、RAM、RM、VOB、WebM、WMV 和 XAP
ไม่รองรับ URL ของข้อมูล
ใช้ URL แบบคงที่
CDN บางแห่งใช้ URL ที่หมดอายุเร็ว หาก URL ของภาพปกวิดีโอเปลี่ยนแปลงบ่อยเกินไป Google อาจจัดทำดัชนีวิดีโอของคุณไม่สำเร็จ ใช้ URL ของภาพปกที่ไม่ซ้ำกันและเป็นแบบคงที่สำหรับวิดีโอแต่ละรายการเพื่อให้ระบบจัดทำดัชนีวิดีโอได้
เพื่อให้วิดีโอมีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น ช่วงสำคัญและตัวอย่างวิดีโอ อย่าลืมตรวจสอบว่าไฟล์วิดีโออยู่ที่ URL แบบคงที่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ Google ค้นพบและประมวลผลวิดีโอได้อย่างต่อเนื่องด้วย ตรวจสอบว่าวิดีโอยังมีอยู่และเก็บรวบรวมสัญญาณในวิดีโอ
หากกังวลว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ดี (อย่างเช่นแฮ็กเกอร์หรือนักส่งสแปม) เข้าถึงเนื้อหา คุณยืนยัน Googlebot ได้ก่อนที่จะแสดง URL เวอร์ชันเสถียรของสื่อ เช่น เลือกแสดงพร็อพเพอร์ตี้ contentUrl
แก่ไคลเอ็นต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นอย่าง Googlebot ส่วนไคลเอ็นต์อื่นๆ ที่เข้าถึงหน้าเว็บจะไม่เห็นฟิลด์ดังกล่าว การตั้งค่านี้ทำให้มีเฉพาะไคลเอ็นต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นที่เข้าถึงตำแหน่งของไฟล์วิดีโอได้
สร้างหน้าดูวิดีโอแต่ละรายการโดยเฉพาะ
เพื่อให้มีสิทธิ์สำหรับฟีเจอร์วิดีโอ (รวมถึงผลการค้นหาวิดีโอในหน้าผลการค้นหาหลัก โหมดวิดีโอ ช่วงสำคัญ ป้าย "สด" และรูปแบบริชมีเดียอื่นๆ) ให้สร้างหน้าดูวิดีโอแต่ละรายการโดยเฉพาะ หากเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

วัตถุประสงค์หลักของหน้าดูวิดีโอคือใช้แสดงวิดีโอรายการเดียวต่อผู้ใช้ หน้าต่อไปนี้คือหน้าดูวิดีโอ เพราะการดูวิดีโอเป็นเหตุผลหลักที่ผู้ใช้มาที่หน้านี้
- หน้า Landing Page ของวิดีโอ
- หน้าวิดีโอเพลเยอร์สำหรับตอนของรายการทีวี
- หน้าดูวิดีโอข่าว
- หน้าไฮไลต์กีฬา
- หน้าคลิปกิจกรรม
หน้าเหล่านี้ไม่ใช่หน้าดูวิดีโอ เนื่องจากวิดีโอเป็นส่วนเสริมของเนื้อหาอื่นๆ ทั้งหมดในหน้านี้
- บล็อกโพสต์ที่รีวิววิดีโอที่ฝังไว้
- หน้าผลิตภัณฑ์ที่มีวิดีโอ 360 ของผลิตภัณฑ์
- หน้าหมวดหมู่วิดีโอที่แสดงรายการวิดีโอหลายรายการซึ่งมีความโดดเด่นเท่าๆ กัน
- หน้ารีวิวภาพยนตร์ที่มีตัวอย่างภาพยนตร์ที่ฝังไว้
ตรวจสอบว่าหน้าดูวิดีโอแต่ละหน้ามีชื่อและคำอธิบายหน้าที่ไม่ซ้ำกันสำหรับวิดีโอนั้น ดูเคล็ดลับได้ที่แนวทางปฏิบัติแนะนำในการเขียนชื่อและคำอธิบายที่ดี
การใช้เพลเยอร์แบบฝังของบุคคลที่สาม
หากเว็บไซต์ของคุณฝังวิดีโอจากแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น YouTube, Vimeo หรือ Facebook ระบบของ Google อาจจัดทำดัชนีวิดีโอทั้งในหน้าเว็บและในหน้าที่เทียบเท่าของแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม โดยทั้ง 2 อย่างอาจปรากฏในฟีเจอร์วิดีโอบน Google ได้ ตราบใดที่หน้าดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์การจัดทำดัชนีวิดีโอ
สำหรับหน้าดูวิดีโอที่ฝังเพลเยอร์ของบุคคลที่สามไว้ คุณยังควรให้ Structured Data และจะรวมหน้าเหล่านี้ใน Sitemap สำหรับวิดีโอด้วยก็ได้ หากต้องการมีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์เพิ่มเติมของวิดีโอ โปรดตรวจสอบกับโฮสต์วิดีโอของคุณว่าอนุญาตให้ Google ดำเนินการต่อไปนี้ดึงข้อมูลไฟล์วิดีโอ
URL ไหนคืออันไหน
มี URL หลายรายการที่เชื่อมโยงกับวิดีโอ โดยสรุปเกี่ยวกับขั้นตอนหลักๆ มีดังนี้

URL ที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอ | |
---|---|
1. หน้าดูวิดีโอ |
URL ของหน้าดูวิดีโอที่ฝังวิดีโอ หากคุณใช้ Sitemap สำหรับวิดีโอ URL นี้จะเป็นค่าแท็ก <?xml version="1.0" encoding="UTF-8"?> <urlset xmlns="http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9" xmlns:video="http://www.google.com/schemas/sitemap-video/1.1"> <url> <loc>https://example.com/videos/some_video_landing_page.html</loc> <video:video> ... |
2. วิดีโอเพลเยอร์ |
URL ของเพลเยอร์เฉพาะสำหรับวิดีโอ ซึ่งมักเป็นค่า <iframe src="https://example.com/videoplayer.php?video=123" width="640" height="360" frameborder="0" allow="autoplay; fullscreen; picture-in-picture" allowfullscreen></iframe> วิธีระบุ URL หากคุณใช้ Structured Data ให้ระบุ URL ของวิดีโอเพลเยอร์เป็นค่าสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ "embedUrl": "https://example.com/videoplayer.php?video=123" หากคุณใช้ Sitemap สำหรับวิดีโอ ให้ระบุ URL ของวิดีโอเพลเยอร์เป็นค่าสำหรับแท็ก <video:player_loc>https://example.com/videoplayer.php?video=123</video:player_loc> |
3. ไฟล์วิดีโอ |
URL ของไบต์เนื้อหาจริงของไฟล์วิดีโอ ซึ่งอาจโฮสต์อยู่ในเว็บไซต์ที่ฝัง CDN หรือบริการสตรีมมิง ในองค์ประกอบ <object data="https://streamserver.example.com/video/123/file.mp4" width="400" height="300"></object> ในองค์ประกอบ <video controls width="250"> <source src="https://streamserver.example.com/video/123/file.webm" type="video/webm" /> <source src="https://streamserver.example.com/video/123/file.mp4" type="video/mp4" /> </video> ในองค์ประกอบ <embed type="video/webm" src="https://streamserver.example.com/video/123/file.mp4" width="400" height="300"></embed> วิธีระบุ URL หากคุณใช้ Structured Data ให้ระบุ URL ของไฟล์วิดีโอเป็นค่าสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ "contentUrl": "https://streamserver.example.com/video/123/file.mp4" หากคุณใช้ Sitemap สำหรับวิดีโอ ให้ระบุ URL ของไฟล์วิดีโอเป็นค่าสำหรับแท็ก <video:content_loc>https://streamserver.example.com/video/123/file.mp4</video:content_loc> |
ให้ภาพปกวิดีโอคุณภาพสูง
วิดีโอจะมีสิทธิ์ปรากฏในฟีเจอร์วิดีโอได้ก็ต่อเมื่อมีภาพปกที่ใช้งานได้ หากคุณอนุญาตให้ Google ดึงข้อมูลไฟล์วิดีโอ Google จะพยายามสร้างภาพปกให้คุณโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม คุณกำหนดภาพปกที่จะแสดงในฟีเจอร์วิดีโอได้ด้วยการระบุภาพปกที่ต้องการผ่านแหล่งที่มาของข้อมูลเมตาแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้
- หากคุณใช้องค์ประกอบ HTML
<video>
ให้ระบุแอตทริบิวต์poster
- ใน Sitemap สำหรับวิดีโอ (รวมถึง mRSS) ให้ระบุแท็ก
<video:thumbnail_loc>
(หรือ<media:thumbnail>
ตามลำดับ) - สำหรับ Structured Data ให้ระบุพร็อพเพอร์ตี้
thumbnailUrl
- สำหรับ OGP ให้ระบุพร็อพเพอร์ตี้
og:video:image
หากคุณเลือกที่จะระบุแหล่งที่มาของข้อมูลเมตาหลายแหล่ง (ตัวอย่างเช่น การระบุภาพปกทั้งใน Sitemap และ Structured Data) ให้ตรวจสอบว่าคุณใช้ URL ของภาพปกเดียวกันสำหรับแต่ละวิดีโอในข้อมูลเมตาทั้งหมด
ข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับภาพปกวิดีโอ | |
---|---|
รูปแบบภาพปกที่รองรับ | BMP, GIF, JPEG, PNG, WebP, SVG, and AVIF |
ขนาด | ขั้นต่ำ 60x30 พิกเซล โดยแนะนำให้ใช้ขนาดที่ใหญ่กว่า |
ตำแหน่ง | Googlebot และ Googlebot Image ต้องเข้าถึงไฟล์ภาพปกได้ (อย่าบล็อกไฟล์ด้วย robots.txt หรือข้อกำหนดการเข้าสู่ระบบ) ตรวจสอบว่าไฟล์พร้อมใช้งานใน URL แบบคงที่ |
ความโปร่งใส | พิกเซลของภาพปกอย่างน้อย 80% ต้องมีค่าอัลฟ่า (ความโปร่งใส) มากกว่า 250 |
ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันและไม่ซ้ำใครใน Structured Data
หากต้องการกำหนดลักษณะที่วิดีโอของคุณปรากฏบน Google ให้อธิบายวิดีโอด้วย Structured Data ตรวจสอบว่าข้อมูลที่คุณให้ไว้ใน Structured Data นั้นสอดคล้องกับเนื้อหาวิดีโอจริงและข้อมูลเมตาอื่นๆ ที่คุณระบุ ตรวจสอบว่าได้ระบุข้อมูลที่ไม่ซ้ำกันในพร็อพเพอร์ตี้ thumbnailUrl
, name
และ description
สำหรับวิดีโอแต่ละรายการในเว็บไซต์
เปิดใช้ฟีเจอร์เฉพาะของวิดีโอ
ตัวอย่างวิดีโอ

Google จะเลือกช่วงจากวิดีโอมา 2-3 วินาทีเพื่อแสดงตัวอย่างเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่จะได้ดูในวิดีโอ หากต้องการให้วิดีโอของคุณมีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์นี้ ให้อนุญาต Google ดึงข้อมูลไฟล์เนื้อหาวิดีโอของคุณ คุณกำหนดระยะเวลาสูงสุดสําหรับตัวอย่างวิดีโอเหล่านี้ได้โดยใช้แท็ก max-video-preview
robots meta
ช่วงสำคัญ

ฟีเจอร์ช่วงสำคัญเป็นวิธีหนึ่งในการไปยังส่วนต่างๆ ของวิดีโอที่คล้ายกับบทในหนังสือ โดยจะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณได้อย่างลึกซึ้งขึ้น Google Search พยายามตรวจหาส่วนดังกล่าวในวิดีโอโดยอัตโนมัติและแสดงช่วงสําคัญแก่ผู้ใช้โดยที่คุณไม่ต้องดำเนินการใดๆ หรือคุณจะบอกให้ Google ทราบถึงจุดสําคัญในวิดีโอด้วยตัวเองก็ได้ เราจะจัดลำดับความสำคัญของช่วงสำคัญที่คุณกำหนดไว้ ไม่ว่าจะผ่านทาง Structured Data หรือคำอธิบายใน YouTube
- หากวิดีโอฝังอยู่ในหน้าเว็บหรือคุณใช้งานแพลตฟอร์มวิดีโอ คุณจะเปิดใช้ช่วงสำคัญได้ 2 วิธี ดังนี้
- Structured Data
Clip
: ระบุเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดที่แน่นอนของแต่ละส่วน รวมทั้งระบุป้ายกำกับที่จะแสดงสำหรับแต่ละส่วน โดยรองรับทุกภาษาที่ Google Search พร้อมให้บริการ - Structured Data
SeekToAction
: บอก Google ว่าการประทับเวลามักอยู่ในโครงสร้าง URL เพื่อให้ Google สามารถระบุช่วงสำคัญโดยอัตโนมัติและลิงก์ผู้ใช้ไปยังจุดเหล่านั้นในวิดีโอ ฟีเจอร์นี้รองรับภาษาอังกฤษ สเปน โปรตุเกส อิตาลี จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน ตุรกี เกาหลี ดัตช์ และรัสเซีย
- Structured Data
- หากวิดีโอโฮสต์ใน YouTube คุณจะระบุการประทับเวลาและป้ายกำกับที่แน่นอนได้ในคำอธิบายวิดีโอบน YouTube ดูแนวทางปฏิบัติแนะนำในการมาร์กการประทับเวลาในคำอธิบายของ YouTube โดยรองรับทุกภาษาที่ Google Search พร้อมให้บริการ หากต้องการเปิดใช้ส่วนเนื้อหาในวิดีโอบน YouTube ให้ทำตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเหล่านี้
หากต้องการเลือกไม่ใช้ฟีเจอร์ช่วงสําคัญเลย (รวมถึงการดำเนินการใดก็ตามที่ Google อาจทำเพื่อแสดงช่วงสำคัญให้วิดีโอของคุณโดยอัตโนมัติ) ให้ใช้แท็ก nosnippet
meta
ป้าย "สด"

สำหรับวิดีโอไลฟ์สด คุณเปิดใช้ป้าย "สด" สีแดงให้ปรากฏในผลการค้นหาได้โดยใช้ Structured Data BroadcastEvent
อนุญาตให้ Google ดึงข้อมูลไฟล์วิดีโอ
Google จำเป็นต้องดึงข้อมูลไบต์จริงของไฟล์วิดีโอได้สำเร็จเพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแสดงตัวอย่างวิดีโอและช่วงสำคัญ
อนุญาตให้ Google ค้นหาและดึงข้อมูลไฟล์วิดีโอโดยทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้
- อนุญาตให้ Google ดึงข้อมูล URL ไฟล์สตรีมมิงของวิดีโอ (เช่น M3U8) อย่าบล็อก URL ไบต์จริงของวิดีโอด้วยกฎ
noindex
หรือไฟล์ robots.txt - ไฟล์วิดีโอต้องพร้อมใช้งานใน URL แบบคงที่
- ใช้ Structured Data เพื่อระบุค่า
contentURL
ของประเภทไฟล์ที่รองรับ - โฮสต์ของหน้าดูวิดีโอและเซิร์ฟเวอร์ที่สตรีมวิดีโอจริงต้องมีทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์เพียงพอที่จะรองรับการ Crawl ดังนั้น หากหน้า Landing Page ของคุณที่
example.com/puppies.html
มีวิดีโอลูกสุนัขฝังอยู่ซึ่งมาจากstreamserver.example.com
ทั้งexample.com
และstreamserver.example.com
จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางเทคนิคสำหรับ Google Search และมีขีดความสามารถของเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งาน
นําออกหรือจํากัดวิดีโอ
นำวิดีโอออก
หากต้องการนําวิดีโอออกจากเว็บไซต์ของคุณ ให้ทําอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- แสดง
404 (Not found)
สำหรับหน้าดูวิดีโอที่ฝังวิดีโอที่ถูกนำออกหรือหมดอายุแล้ว นอกจากโค้ดตอบกลับ404
แล้ว คุณยังคงแสดง HTML ของหน้าเว็บได้ตามปกติ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น - ใส่
noindex
robotsmeta
บนหน้าดูวิดีโอใดๆ ที่ฝังวิดีโอที่ถูกนำออกหรือหมดอายุแล้ว ซึ่งจะป้องกันไม่ให้มีการจัดทำดัชนีหน้า Landing Page เหล่านั้น - ระบุวันที่หมดอายุใน Structured Data (แท็ก
expires
) หรือ Sitemap สำหรับวิดีโอ (ใช้องค์ประกอบ<video:expiration_date>
) ตัวอย่าง Sitemap สำหรับวิดีโอ ที่มีวิดีโอหมดอายุในเดือนพฤศจิกายน 2009 มีดังนี้<urlset xmlns="http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9" xmlns:video="http://www.google.com/schemas/sitemap-video/1.1"> <url> <loc>https://example.com/videos/some_video_landing_page.html</loc> <video:video> <video:thumbnail_loc> https://example.com/thumbs/123.jpg </video:thumbnail_loc> <video:title> Grilling steaks for summer </video:title> <video:description> Bob shows you how to grill steaks perfectly every time </video:description> <video:player_loc> https://example.com/videoplayer?video=123 </video:player_loc> <video:expiration_date>2009-11-05T19:20:30+08:00</video:expiration_date> </video:video> </url> </urlset>
เมื่อวันหมดอายุของวิดีโอเป็นวันที่ในอดีต วิดีโอจะไม่ปรากฏในผลการค้นหาวิดีโอ หน้า Landing Page อาจยังคงแสดงในผลการค้นหาบนเว็บโดยไม่มีภาพปกของวิดีโอ โดยจะรวมวันที่หมดอายุจาก Sitemap, Structured Data และแท็ก meta
โปรดตรวจสอบว่าวันที่หมดอายุของวิดีโอแต่ละรายการถูกต้อง แม้ว่าการกำหนดให้วิดีโอใช้งานไม่ได้หลังจากวันที่หมดอายุแล้วจะมีประโยชน์ แต่ก็อาจมีการตั้งวันที่อย่างผิดพลาดเป็นวันที่ในอดีตได้ง่ายๆ ทำให้วิดีโอที่ควรจะใช้งานได้กลับใช้ไม่ได้ หากวิดีโอไม่มีวันหมดอายุ ก็อย่าใส่ข้อมูลวันหมดอายุ
จํากัดวิดีโอตามประเทศของผู้ใช้
คุณจำกัดผลการค้นหาสำหรับวิดีโอโดยอิงตามประเทศของผู้ใช้ หากวิดีโอไม่มีข้อจํากัดเกี่ยวกับประเทศ ให้ข้ามแท็กข้อจํากัดประเทศไปได้
จำกัดการใช้ Structured Data
หากคุณใช้ Structured Data VideoObject
เพื่ออธิบายวิดีโอ ให้ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ regionsAllowed
เพื่อระบุภูมิภาคที่จะแสดงผลการค้นหาวิดีโอ หากคุณไม่ใช้พร็อพเพอร์ตี้นี้ ทุกภูมิภาคจะเห็นวิดีโอในผลการค้นหาได้
หรือจะใช้พร็อพเพอร์ตี้ ineligibleRegion
เพื่อระบุภูมิภาคที่ไม่สามารถแสดงผลการค้นหาวิดีโอก็ได้
จำกัดการใช้ Sitemap สำหรับวิดีโอ
ใน Sitemap สำหรับวิดีโอ คุณใช้แท็ก <video:restriction>
เพื่ออนุญาตหรือปฏิเสธไม่ให้วิดีโอปรากฏในบางประเทศได้ วิดีโอ 1 รายการจะมีแท็ก <video:restriction>
ได้เพียง 1 แท็กเท่านั้น
แท็ก <video:restriction>
ต้องมีรหัสประเทศตามมาตรฐาน ISO 3166-1 แบบ 2 หรือ 3 ตัวอักษร อย่างน้อย 1 รหัสโดยคั่นด้วยเว้นวรรค แอตทริบิวต์ relationship
ที่จำเป็นจะระบุประเภทของข้อจำกัด
relationship="allow"
: วิดีโอจะปรากฏเฉพาะในประเทศที่ระบุ หากไม่ระบุประเทศ วิดีโอจะไม่ปรากฏที่ใดเลยrelationship="deny"
: วิดีโอจะปรากฏทุกที่ยกเว้นในประเทศที่ระบุไว้ หากไม่ระบุประเทศ วิดีโอจะปรากฏทุกที่
ในตัวอย่าง Sitemap สำหรับวิดีโอนี้ วิดีโอจะปรากฏในผลการค้นหาในแคนาดาและเม็กซิโกเท่านั้น
<url> <loc>https://example.com/videos/some_video_landing_page.html</loc> <video:video> <video:thumbnail_loc> https://example.com/thumbs/123.jpg </video:thumbnail_loc> <video:title>Grilling steaks for summer</video:title> <video:description> Bob shows you how to get perfectly done steaks every time </video:description> <video:player_loc> https://example.com/player?video=123 </video:player_loc> <video:restriction relationship="allow">ca mx</video:restriction> </video:video> </url>
เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย
ฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยคือการตั้งค่าในบัญชีผู้ใช้ Google ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะแสดงหรือบล็อกรูปภาพ วิดีโอ และเว็บไซต์ที่อาจไม่เหมาะสมในผลการค้นหาของ Google Search โปรดตรวจสอบว่า Google เข้าใจลักษณะของเว็บไซต์เพื่อให้ Google ใช้ตัวกรองของฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยกับเว็บไซต์ได้ตามความเหมาะสม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดป้ายกำกับหน้าฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัย
ตรวจสอบหน้าสำหรับดูวิดีโอด้วย Search Console
รายงานและเครื่องมือต่อไปนี้ของ Search Console สามารถช่วยคุณตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาวิดีโอของคุณใน Google Search ได้
- รายงานการจัดทําดัชนีวิดีโอ: ดูจำนวนหน้าดูวิดีโอที่ได้รับการจัดทำดัชนีซึ่งมีวิดีโอที่ได้รับการจัดทำดัชนี และดูสาเหตุที่วิดีโออื่นๆ ไม่ได้รับการจัดทําดัชนี
- รายงานผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับวิดีโอ:
ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน Structured Data
VideoObject
- รายงานประสิทธิภาพ: ใช้ตัวกรองลักษณะที่ปรากฏในการค้นหาวิดีโอเพื่อติดตามประสิทธิภาพของวิดีโอใน Google Search
แก้ปัญหาเกี่ยวกับวิดีโอ
คุณแก้ปัญหาเกี่ยวกับวิดีโอได้ด้วย Search Console ดูคู่มือการแก้ปัญหา Sitemap เพื่อรับความช่วยเหลือ