หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

เริ่มต้นใช้งาน

ภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้ EU ของ Google คุณต้อง เปิดเผยข้อมูลบางอย่างแก่ผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) กับสหราชอาณาจักร และได้รับความยินยอมในการใช้คุกกี้หรือพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นๆ ในเครื่อง ในกรณีที่กฎหมายกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนตัว (เช่น AdID) ในการแสดงโฆษณา นโยบายนี้เป็นผลมาจากข้อกำหนดด้าน ePrivacy ของสหภาพยุโรปและ กฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR)

เพื่อสนับสนุนผู้เผยแพร่โฆษณาให้ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนภายใต้นโยบายนี้ Google ได้นำเสนอ SDK สำหรับ User Messaging Platform (UMP) UMP SDK ได้รับการอัปเดตให้รองรับ มาตรฐานล่าสุดของ IAB การกำหนดค่าทั้งหมดนี้สามารถ จัดการใน AdMob ความเป็นส่วนตัวและ การรับส่งข้อความ

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ทำตามคู่มือเริ่มต้นใช้งานจนจบ

หากคุณกำลังปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับ GDPR โปรดอ่าน ข้อกำหนดของ IAB ส่งผลต่อสหภาพยุโรปอย่างไร ข้อความขอความยินยอม

สร้างประเภทข้อความ

สร้างข้อความสำหรับผู้ใช้ด้วย ประเภทข้อความสำหรับผู้ใช้ที่ใช้ได้ ภายใต้ความเป็นส่วนตัวและ แท็บการรับส่งข้อความ AdMob ของคุณได้ UMP SDK พยายามแสดง ข้อความสำหรับผู้ใช้ที่สร้างจาก AdMob รหัสแอปพลิเคชัน ที่ตั้งไว้ในโปรเจ็กต์ หากไม่มีการกำหนดค่าข้อความสำหรับแอปพลิเคชันของคุณ SDK แสดงผลข้อผิดพลาด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการรับส่งข้อความ

เพิ่มรหัสแอปพลิเคชัน

คุณดูรหัสแอปพลิเคชันได้ใน UI ของ AdMob เพิ่มบัตรประจำตัวลงใน ด้วยข้อมูลโค้ดต่อไปนี้

คุณควรขออัปเดตข้อมูลความยินยอมของผู้ใช้ในทุกแอป เปิดโดยใช้ Update()สิ่งนี้จะกำหนด ผู้ใช้ต้องให้ความยินยอมในกรณีที่ยังไม่ได้ดำเนินการ หรือ หากความยินยอมหมดอายุ

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของวิธีตรวจสอบสถานะเมื่อแอปเริ่มทำงาน

void Start()
{
    // Create a ConsentRequestParameters object.
    ConsentRequestParameters request = new ConsentRequestParameters();

    // Check the current consent information status.
    ConsentInformation.Update(request, OnConsentInfoUpdated);
}

void OnConsentInfoUpdated(FormError consentError)
{
    if (consentError != null)
    {
        // Handle the error.
        UnityEngine.Debug.LogError(consentError);
        return;
    }

    // If the error is null, the consent information state was updated.
    // You are now ready to check if a form is available.
}

โหลดและแสดงแบบฟอร์มความยินยอมหากจำเป็น

หลังจากได้รับสถานะความยินยอมล่าสุดแล้ว โปรดโทร LoadAndShowConsentFormIfRequired() ใน ConsentForm เพื่อโหลดแบบฟอร์มความยินยอม หาก ต้องระบุสถานะความยินยอม SDK จะโหลดแบบฟอร์มและแสดงทันที ที่ระบุ Action<FormError> callback ระบบจะเรียก หลังจากส่งแบบฟอร์มแล้ว หากไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม Action<FormError> callback ระบบจะเรียกใช้ ทันที

void Start()
{
    // Create a ConsentRequestParameters object.
    ConsentRequestParameters request = new ConsentRequestParameters();

    // Check the current consent information status.
    ConsentInformation.Update(request, OnConsentInfoUpdated);
}

void OnConsentInfoUpdated(FormError consentError)
{
    if (consentError != null)
    {
        // Handle the error.
        UnityEngine.Debug.LogError(consentError);
        return;
    }
    

    // If the error is null, the consent information state was updated.
    // You are now ready to check if a form is available.
    ConsentForm.LoadAndShowConsentFormIfRequired((FormError formError) =>
    {
        if (formError != null)
        {
            // Consent gathering failed.
            UnityEngine.Debug.LogError(consentError);
            return;
        }

        // Consent has been gathered.
    });
}

หากคุณจำเป็นต้องดำเนินการใดๆ หลังจากที่ผู้ใช้เลือกหรือยกเลิก วางตรรกะนั้นในตัวแปร Action<FormError> callback สำหรับแบบฟอร์มของคุณ

ส่งคำขอแสดงโฆษณา

ก่อนขอโฆษณาในแอป ให้ตรวจสอบว่าคุณได้รับความยินยอมแล้วหรือไม่ จากผู้ใช้ที่ใช้ CanRequestAds()มี 2 แบบ สิ่งที่ต้องตรวจสอบขณะรวบรวมความยินยอม:

เมื่อรวบรวมความยินยอมในเซสชันปัจจุบันแล้ว
ทันทีที่คุณโทรหา Update() เป็นไปได้ว่าอาจได้รับความยินยอมแล้วในเซสชันก่อนหน้านี้ แบบเวลาในการตอบสนอง แนวทางปฏิบัติแนะนำคืออย่ารอให้การติดต่อกลับเสร็จสิ้นเพื่อให้คุณสามารถ ให้เริ่มโหลดโฆษณาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หลังจากที่คุณเปิดตัวแอป

หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในระหว่างกระบวนการรวบรวมความยินยอม คุณควร ในการขอโฆษณา UMP SDK ใช้สถานะความยินยอมจาก เซสชัน

void Start()
{
    // Create a ConsentRequestParameters object.
    ConsentRequestParameters request = new ConsentRequestParameters();

    // Check the current consent information status.
    ConsentInformation.Update(request, OnConsentInfoUpdated);
}

void OnConsentInfoUpdated(FormError consentError)
{
    if (consentError != null)
    {
        // Handle the error.
        UnityEngine.Debug.LogError(consentError);
        return;
    }

    // If the error is null, the consent information state was updated.
    // You are now ready to check if a form is available.
    ConsentForm.LoadAndShowConsentFormIfRequired((FormError formError) =>
    {
        if (formError != null)
        {
            // Consent gathering failed.
            UnityEngine.Debug.LogError(consentError);
            return;
        }

        // Consent has been gathered.
        if (ConsentInformation.CanRequestAds())
        {
            MobileAds.Initialize((InitializationStatus initstatus) =>
            {
              // TODO: Request an ad.
            });
        }
    });
    
}

ตัวเลือกความเป็นส่วนตัว

แบบฟอร์มความยินยอมบางแบบฟอร์มกำหนดให้ผู้ใช้แก้ไขความยินยอมได้ทุกเมื่อ ปฏิบัติตาม ตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อใช้ปุ่มตัวเลือกความเป็นส่วนตัว หากจำเป็น

ทั้งสองสามารถทำได้โดยดำเนินการดังนี้

ใช้องค์ประกอบ UI เช่น ปุ่มในหน้าการตั้งค่าของแอป ที่สามารถเรียกใช้แบบฟอร์มตัวเลือกความเป็นส่วนตัว
เมื่อทำเสร็จแล้ว LoadAndShowConsentFormIfRequired() ให้ตรวจสอบ PrivacyOptionsRequirementStatus เพื่อพิจารณาว่าจะแสดง องค์ประกอบ UI ที่แสดงแบบฟอร์มตัวเลือกความเป็นส่วนตัวได้
เมื่อผู้ใช้โต้ตอบกับองค์ประกอบ UI ของคุณ ให้เรียกใช้ ShowPrivacyOptionsForm() เพื่อแสดงแบบฟอร์มเพื่อให้ผู้ใช้ อัปเดตตัวเลือกความเป็นส่วนตัวได้ทุกเมื่อ

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีแสดงแบบฟอร์มตัวเลือกความเป็นส่วนตัวจาก Button.

[SerializeField, Tooltip("Button to show the privacy options form.")]
private Button _privacyButton;

private void Start()
{
  // Enable the privacy settings button.
  if (_privacyButton != null)
  {
      _privacyButton.onClick.AddListener(UpdatePrivacyButton);
      // Disable the privacy settings button by default.
      _privacyButton.interactable = false;
  }
}

/// <summary>
/// Shows the privacy options form to the user.
/// </summary>
public void ShowPrivacyOptionsForm()
{
    Debug.Log("Showing privacy options form.");

    ConsentForm.ShowPrivacyOptionsForm((FormError showError) =>
    {
        if (showError != null)
        {
            Debug.LogError("Error showing privacy options form with error: " + showError.Message);
        }
        // Enable the privacy settings button.
        if (_privacyButton != null)
        {
            _privacyButton.interactable =
                ConsentInformation.PrivacyOptionsRequirementStatus ==
                PrivacyOptionsRequirementStatus.Required;
        }
    });
}

การทดสอบ

หากต้องการทดสอบการผสานรวมในแอประหว่างการพัฒนา ให้ทำตาม ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลงทะเบียนอุปกรณ์ทดสอบแบบเป็นโปรแกรม อย่าลืมนำ ที่ตั้งค่ารหัสอุปกรณ์ทดสอบเหล่านี้ก่อนที่คุณจะเผยแพร่แอป

โทร Update()
ตรวจสอบเอาต์พุตของบันทึกสำหรับข้อความที่คล้ายกับตัวอย่างต่อไปนี้ ซึ่ง แสดงรหัสอุปกรณ์และวิธีเพิ่มรหัสเป็นอุปกรณ์ทดสอบ
Android
```
Use new ConsentDebugSettings.Builder().addTestDeviceHashedId("33BE2250B43518CCDA7DE426D04EE231")
to set this as a debug device.
```
iOS
```
<UMP SDK>To enable debug mode for this device,
set: UMPDebugSettings.testDeviceIdentifiers = @[2077ef9a63d2b398840261c8221a0c9b]
```
คัดลอกรหัสอุปกรณ์ทดสอบไปยังคลิปบอร์ด

แก้ไขโค้ด โทร DebugGeography.TestDeviceHashedIds และข้ามเข้า รายการรหัสอุปกรณ์ทดสอบ

void Start()
{
    var debugSettings = new ConsentDebugSettings
    {
        TestDeviceHashedIds =
        new List<string>
        {
            "TEST-DEVICE-HASHED-ID"
        }
    };

    // Create a ConsentRequestParameters object.
    ConsentRequestParameters request = new ConsentRequestParameters
    {
        ConsentDebugSettings = debugSettings,
    };

    // Check the current consent information status.
    ConsentInformation.Update(request, OnConsentInfoUpdated);
}

บังคับระบุภูมิศาสตร์

UMP SDK ให้คุณทดสอบลักษณะการทำงานของแอปได้เสมือนว่าอุปกรณ์ ที่อยู่ใน EEA หรือสหราชอาณาจักรโดยใช้ the DebugGeography field on ConsentDebugSettingsโปรดทราบว่า การตั้งค่าการแก้ไขข้อบกพร่องใช้ได้เฉพาะกับอุปกรณ์ทดสอบ

void Start()
{
    var debugSettings = new ConsentDebugSettings
    {
        // Geography appears as in EEA for debug devices.
        DebugGeography = DebugGeography.EEA,
        TestDeviceHashedIds = new List<string>
        {
            "TEST-DEVICE-HASHED-ID"
        }
    };

    // Create a ConsentRequestParameters object.
    ConsentRequestParameters request = new ConsentRequestParameters
    {
        ConsentDebugSettings = debugSettings,
    };

    // Check the current consent information status.
    ConsentInformation.Update(request, OnConsentInfoUpdated);
}

รีเซ็ตสถานะความยินยอม

ในการทดสอบแอปด้วย UMP SDK คุณอาจพบว่าการรีเซ็ตฟังก์ชัน ของ SDK เพื่อให้คุณสามารถจำลองประสบการณ์การติดตั้งครั้งแรกของผู้ใช้ได้ SDK มี Reset() วิธีในการดำเนินการนี้

ConsentInformation.Reset();