ตรวจสอบสิทธิ์และให้สิทธิ์แอป Chat และคำขอ Google Chat API

การตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์เป็นกลไกที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนและการเข้าถึงทรัพยากรตามลำดับ เอกสารนี้จะอธิบายวิธีการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์สำหรับแอป Chat และคำขอ Chat API

ภาพรวมของกระบวนการ

แผนภาพต่อไปนี้แสดงขั้นตอนระดับสูงของการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์สำหรับ Google Chat

ขั้นตอนระดับสูงสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์ Google Chat
รูปที่ 1 ขั้นตอนระดับสูงสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์ Google Chat

  1. กำหนดค่าโปรเจ็กต์ Google Cloud, เปิดใช้ Chat API และกำหนดค่าแอป Chat: ในระหว่างการพัฒนา คุณสร้างโปรเจ็กต์ Google Cloud ในโปรเจ็กต์ Google Cloud คุณจะเปิดใช้ Chat API, กำหนดค่าแอป Chat และตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พัฒนาบน Google Workspace และสร้างแอป Chat

  2. Call Chat API: เมื่อแอปเรียกใช้ Chat API แอปจะส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบการตรวจสอบสิทธิ์ไปยัง Chat API หากแอปของคุณตรวจสอบสิทธิ์ด้วยบัญชีบริการ ระบบจะส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเป็นส่วนหนึ่งของโค้ดแอป หากแอปของคุณต้องใช้การเรียกใช้ Chat API โดยใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้

  3. ขอทรัพยากร: แอปขอสิทธิ์เข้าถึงด้วยขอบเขตที่คุณระบุไว้ขณะตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์

  4. ขอความยินยอม: หากแอปของคุณตรวจสอบสิทธิ์ในฐานะผู้ใช้ Google จะแสดงหน้าจอขอความยินยอม OAuth เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจว่าจะให้สิทธิ์แอปเข้าถึงข้อมูลที่ขอหรือไม่ การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยบัญชีบริการไม่จําเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้

  5. ส่งคําขอทรัพยากรที่ได้รับอนุมัติ: หากผู้ใช้ให้ความยินยอมสําหรับขอบเขตการให้สิทธิ์ แอปจะรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบและขอบเขตที่ผู้ใช้อนุมัติไว้ในคําขอ ระบบจะส่งคําขอไปยังเซิร์ฟเวอร์การให้สิทธิ์ของ Google เพื่อรับโทเค็นการเข้าถึง

  6. Google แสดงผลโทเค็นการเข้าถึง: โทเค็นการเข้าถึงมีรายการขอบเขตที่ได้รับ หากรายการขอบเขตที่แสดงผลจํากัดมากกว่าขอบเขตที่ขอ แอปจะปิดฟีเจอร์ที่จำกัดโดยโทเค็น

  7. ทรัพยากรที่ขอการเข้าถึง: แอปของคุณใช้โทเค็นเพื่อการเข้าถึงจาก Google เพื่อเรียกใช้ Chat API และเข้าถึงทรัพยากรของ Chat API

  8. รับโทเค็นรีเฟรช (ไม่บังคับ): หากแอปของคุณต้องเข้าถึง Google Chat API เกินอายุการใช้งานของโทเค็นการเข้าถึงรายการเดียว แอปจะได้รับโทเค็นรีเฟรช ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อใช้ OAuth 2.0 เพื่อเข้าถึง Google API

  9. ขอทรัพยากรเพิ่มเติม: หากแอปต้องการสิทธิ์เข้าถึงเพิ่มเติม แอปจะขอให้ผู้ใช้มอบสิทธิ์ขอบเขตใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้มีคำขอใหม่เพื่อรับโทเค็นการเข้าถึง (ขั้นตอนที่ 3-6)

กรณีที่แอป Chat กำหนดให้ต้องตรวจสอบสิทธิ์

แอปแชทสามารถส่งข้อความเพื่อตอบสนองต่อการโต้ตอบของผู้ใช้ หรือส่งแบบไม่เป็นไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ในนามของผู้ใช้ได้ด้วย เช่น สร้างพื้นที่ใน Chat หรือดูรายชื่อบุคคลในพื้นที่ใน Chat

แอปใน Chat ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์เพื่อตอบสนองต่อการโต้ตอบของผู้ใช้ เว้นแต่ว่าแอปใน Chat จะเรียกใช้ Chat API หรือ Google API อื่นขณะประมวลผลการตอบกลับ

หากต้องการส่งข้อความแบบไม่พร้อมกันหรือทำงานในนามของผู้ใช้ แอปใน Chat จะส่งคำขอ RESTful ไปยัง Chat API ซึ่งต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์และให้สิทธิ์

การตอบสนองต่อการโต้ตอบของผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องตรวจสอบสิทธิ์

แอป Google Chat ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบสิทธิ์ในฐานะผู้ใช้หรือแอป Chat เพื่อรับและตอบสนองเหตุการณ์การโต้ตอบแบบซิงค์

แอป Google Chat จะได้รับเหตุการณ์การโต้ตอบทุกครั้งที่ผู้ใช้โต้ตอบกับหรือเรียกใช้แอป Chat ซึ่งรวมถึง

แผนภาพต่อไปนี้แสดงลำดับคำขอตอบกลับระหว่างผู้ใช้ Chat กับแอป Chat

ไม่ต้องมีการให้สิทธิ์สําหรับเหตุการณ์การโต้ตอบของแอป Chat
ภาพที่ 2 เหตุการณ์การโต้ตอบในแอป Chat ไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์

  1. ผู้ใช้ส่งข้อความไปยังแอป Chat ใน Google Chat
  2. Google Chat จะส่งต่อข้อความไปยังแอป
  3. แอปจะได้รับข้อความ ประมวลผล และส่งกลับคำตอบไปยัง Google Chat
  4. Google Chat จะแสดงผลคำตอบสำหรับผู้ใช้หรือในพื้นที่ทำงาน

ลำดับนี้จะเกิดซ้ำสำหรับเหตุการณ์การโต้ตอบของแอป Chat แต่ละเหตุการณ์

ข้อความแบบไม่พร้อมกันต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์

ข้อความแบบไม่พร้อมกันจะเกิดขึ้นเมื่อแอป Chat ส่งคำขอไปยัง Chat API ซึ่งต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์

การเรียกใช้ Chat API จะช่วยให้แอปใน Chat โพสต์ข้อความไปยัง Google Chat หรือทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงเข้าถึงข้อมูลในนามของผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น หลังจากตรวจพบว่าเซิร์ฟเวอร์หยุดทำงาน แอป Chat จะเรียกใช้ Chat API เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • สร้างพื้นที่ใน Chat เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการหยุดทำงานโดยเฉพาะ
  • เพิ่มบุคคลไปยังพื้นที่ใน Chat
  • โพสต์ข้อความไปยังพื้นที่ใน Chat เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับการหยุดทำงาน

แผนภาพต่อไปนี้แสดงลำดับข้อความแบบไม่พร้อมกันระหว่างแอป Chat กับพื้นที่ทำงานใน Chat

ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์สำหรับข้อความแบบไม่พร้อมกัน
รูปที่ 3 ข้อความแบบไม่พร้อมกันต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์

  1. แอปใน Chat จะสร้างข้อความโดยเรียกใช้ Chat API โดยใช้เมธอด spaces.messages.create และระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้ในคำขอ HTTP
  2. Google Chat จะตรวจสอบสิทธิ์แอป Chat ด้วยบัญชีบริการหรือข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้
  3. Google Chat จะแสดงผลข้อความของแอปในพื้นที่ใน Chat ที่ระบุ

ขอบเขตของ Chat API

กำหนดค่าหน้าจอคำยินยอม OAuth และเลือกขอบเขต เพื่อกำหนดข้อมูลที่แสดงต่อผู้ใช้และผู้ตรวจสอบแอป รวมทั้งลงทะเบียนแอป เพื่อให้คุณเผยแพร่ในภายหลังได้

หากต้องการกำหนดระดับการเข้าถึงที่อนุญาตแก่แอป คุณต้องระบุและประกาศขอบเขตการให้สิทธิ์ ขอบเขตการให้สิทธิ์คือสตริง URI ของ OAuth 2.0 ที่มีชื่อแอป Google Workspace, ประเภทข้อมูลที่แอปเข้าถึง และระดับการเข้าถึง

ขอบเขตที่ไม่มีความละเอียดอ่อน

รหัสขอบเขต คำอธิบาย
https://www.googleapis.com/auth/chat.bot

อนุญาตให้แอปแชทดูแชทและส่งข้อความ

ขอบเขตนี้รองรับเฉพาะการตรวจสอบสิทธิ์แอปด้วยบัญชีบริการ คุณไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หรือการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนโดยใช้ขอบเขตนี้

ขอบเขตที่ละเอียดอ่อน

รหัสขอบเขต คำอธิบาย
https://www.googleapis.com/auth/chat.spaces สร้างการสนทนาและพื้นที่ทำงาน ตลอดจนดูหรือแก้ไขข้อมูลเมตา (รวมถึงการตั้งค่าประวัติและการตั้งค่าการเข้าถึง) ใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.spaces.create สร้างการสนทนาใหม่ใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.spaces.readonly ดูแชทและพื้นที่ทำงานใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.memberships ดู เพิ่ม อัปเดต และนำสมาชิกออกจากการสนทนาใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.memberships.app เพิ่มและนำตัวเองออกจากการสนทนาใน Google Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.memberships.readonly ดูสมาชิกในการสนทนาของ Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages.create เขียนและส่งข้อความใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages.reactions ดู เพิ่ม และลบความรู้สึกที่มีต่อข้อความใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages.reactions.create เพิ่มความรู้สึกที่มีต่อข้อความใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages.reactions.readonly ดูความรู้สึกที่มีต่อข้อความใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.users.readstate ดูและแก้ไขเวลาที่อ่านล่าสุดของการสนทนาใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.users.readstate.readonly ดูเวลาที่อ่านล่าสุดของการสนทนาใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.admin.spaces.readonly ดูแชทและพื้นที่ทำงานที่เป็นของโดเมนของผู้ดูแลระบบใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.admin.spaces ดูหรือแก้ไขแชทและพื้นที่ทำงานที่เป็นของโดเมนของผู้ดูแลระบบใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.admin.memberships.readonly ดูสมาชิกและผู้จัดการในการสนทนาของโดเมนผู้ดูแลระบบใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.admin.memberships ดู เพิ่ม อัปเดต และนำสมาชิกและผู้จัดการออกจากการสนทนาของโดเมนผู้ดูแลระบบใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.app.spaces

สร้างการสนทนาและพื้นที่ทำงาน ตลอดจนดูหรืออัปเดตข้อมูลเมตา (รวมถึงการตั้งค่าประวัติและการตั้งค่าการเข้าถึง) ใน Chat ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตนี้รองรับเฉพาะการตรวจสอบสิทธิ์แอปด้วยบัญชีบริการ คุณไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หรือการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนโดยใช้ขอบเขตนี้

https://www.googleapis.com/auth/chat.app.spaces.create

สร้างการสนทนาและพื้นที่ทำงานใหม่ใน Chat ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตนี้รองรับเฉพาะการตรวจสอบสิทธิ์แอปด้วยบัญชีบริการ คุณไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หรือการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนโดยใช้ขอบเขตนี้

https://www.googleapis.com/auth/chat.app.memberships

ดู เพิ่ม อัปเดต และนำสมาชิกออกจากการสนทนาและพื้นที่ทำงานใน Chat ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตนี้รองรับเฉพาะการตรวจสอบสิทธิ์แอปด้วยบัญชีบริการ คุณไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หรือการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนโดยใช้ขอบเขตนี้

https://www.googleapis.com/auth/chat.customemojis ดู สร้าง และลบอีโมจิที่กำหนดเองใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.customemojis.readonly ดูอีโมจิที่กำหนดเองใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.users.spacesettings ดูและอัปเดตการตั้งค่าพื้นที่ทำงานของผู้ใช้ Chat

ดู API การตั้งค่าผู้ใช้พื้นที่ทำงานที่ getSpaceNotificationSetting, updateSpaceNotificationSetting

ขอบเขตที่จํากัด

รหัสขอบเขต คำอธิบาย
https://www.googleapis.com/auth/chat.delete ลบการสนทนาและพื้นที่ทำงาน รวมถึงนำสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่เกี่ยวข้องใน Chat ออก
https://www.googleapis.com/auth/chat.import นําเข้าพื้นที่ ข้อความ และการเป็นสมาชิกไปยัง Chat ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ให้สิทธิ์แอปใน Chat นําเข้าข้อมูล
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages ดู เขียน ส่ง อัปเดต และลบข้อความ รวมถึงเพิ่ม ดู และลบความรู้สึกที่มีต่อข้อความ
https://www.googleapis.com/auth/chat.messages.readonly ดูข้อความและความรู้สึกใน Chat
https://www.googleapis.com/auth/chat.admin.delete ลบการสนทนาและพื้นที่ทำงานของโดเมนผู้ดูแลระบบ รวมถึงนำสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่เกี่ยวข้องใน Chat ออก
https://www.googleapis.com/auth/chat.app.delete

ลบการสนทนาและพื้นที่ทำงาน รวมถึงนำสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่เกี่ยวข้องใน Chat ออก ต้องอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ

ขอบเขตนี้รองรับเฉพาะการตรวจสอบสิทธิ์แอปด้วยบัญชีบริการ คุณไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หรือการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมนโดยใช้ขอบเขตนี้

ขอบเขตในตารางก่อนหน้านี้ระบุความละเอียดอ่อนตามคำจำกัดความต่อไปนี้

หากแอปของคุณต้องใช้สิทธิ์เข้าถึง Google API อื่นๆ คุณสามารถเพิ่มขอบเขตเหล่านั้นได้เช่นกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขต Google API ได้ที่หัวข้อการใช้ OAuth 2.0 เพื่อเข้าถึง Google API

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขตสําหรับ Google Workspace API ได้ที่หัวข้อกําหนดค่าหน้าจอขอความยินยอม OAuth และเลือกขอบเขต

ประเภทของการตรวจสอบสิทธิ์ที่จำเป็น

แอปใน Chat ตรวจสอบสิทธิ์และให้สิทธิ์ด้วย Chat API ได้ 2 วิธีดังนี้

การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้
การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ ช่วยให้แอป Chat เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้และดำเนินการต่างๆ ในนามของผู้ใช้ ขอบเขต OAuth จะระบุข้อมูลและการดําเนินการที่อนุญาต เว้นแต่แอป Chat จะติดตั้งโดยผู้ดูแลระบบหรือได้รับการมอบสิทธิ์ทั่วทั้งโดเมน ในครั้งแรกที่แอป Chat ดำเนินการในนามของผู้ใช้ ผู้ใช้ต้องให้สิทธิ์แอป Chat โดยใช้หน้าจอขอความยินยอม OAuth
การตรวจสอบสิทธิ์แอป

การตรวจสอบสิทธิ์แอปช่วยให้แอป Chat ใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบของบัญชีบริการได้ รวมถึงเข้าถึงข้อมูลและดำเนินการต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากแอป Chat ใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบของตนเองในการเข้าถึงและทำงานกับทรัพยากร ผู้ใช้ปลายทางจึงไม่จำเป็นต้องอนุมัติการเรียก API ของแอป Chat และคุณจะเพิ่มขอบเขตการให้สิทธิ์ OAuth ที่รองรับการให้สิทธิ์แอปลงในหน้าจอขอความยินยอม OAuth ไม่ได้

ขอบเขตการให้สิทธิ์ OAuth 2 ประเภทรองรับการตรวจสอบสิทธิ์แอป ดังนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/chat.bot: แอปใน Chat สามารถเรียกใช้เมธอด Google Chat API ที่รองรับขอบเขตการให้สิทธิ์นี้เพื่อสร้าง อัปเดต รับ แสดงรายการ หรือลบทรัพยากรที่มีสิทธิ์เข้าถึง เช่น ข้อความในพื้นที่ทำงานที่ผู้ใช้ปลายทางเพิ่มแอปใน Chat ของคุณ แอปแชทของคุณสามารถให้สิทธิ์ขอบเขตการให้สิทธิ์นี้ด้วยตนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ดูแลระบบหรือผู้ใช้ปลายทางให้สิทธิ์
  • https://www.googleapis.com/auth/chat.app.* (เวอร์ชันตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์): การใช้ขอบเขตเหล่านี้ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบแบบครั้งเดียว หากต้องการเตรียมบัญชีบริการของแอป Chat เพื่อรับการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ ให้สร้างไคลเอ็นต์ OAuth ที่เข้ากันได้กับ Google Workspace Marketplace และกำหนดค่าแอปใน SDK ของ Google Workspace Marketplace ขอบเขตเหล่านี้ช่วยให้แอปใน Chat เรียกใช้เมธอด Google Chat API ที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น chat.app.spaces.create อนุญาตให้แอปสร้างพื้นที่ทำงานใน Chat

หากเมธอดรองรับทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้หรือแอป Chat API จะแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันตามประเภทการตรวจสอบสิทธิ์ที่คุณใช้ ดังนี้

  • เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอป วิธีการจะแสดงเฉพาะทรัพยากรที่แอป Chat สามารถเข้าถึงได้
  • เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ วิธีการจะแสดงเฉพาะทรัพยากรที่ผู้ใช้เข้าถึงได้

เช่น การเรียกใช้เมธอด spaces.list() ที่มีการให้สิทธิ์แอปจะแสดงรายการพื้นที่ทำงานที่แอป Chat เป็นสมาชิก การเรียกใช้ spaces.list() ด้วยการให้สิทธิ์ผู้ใช้จะแสดงรายการพื้นที่ทำงานที่ผู้ใช้เป็นสมาชิก ในทางปฏิบัติ คุณอาจใช้การตรวจสอบสิทธิ์ทั้ง 2 ประเภทเมื่อเรียกใช้ Chat API ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบและฟีเจอร์ของแอป Chat

สำหรับการเรียก Chat API แบบไม่พร้อมกัน

ตารางต่อไปนี้แสดงเมธอดของ Chat API และขอบเขตการให้สิทธิ์ที่รองรับ

วิธีการ รองรับการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ รองรับการตรวจสอบสิทธิ์แอป ขอบเขตการให้สิทธิ์ที่รองรับ
พื้นที่ทำงาน  
สร้างพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces.create
  • chat.spaces
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอปและการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ (มีให้ใช้งานในตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์) ให้ทำดังนี้
  • chat.app.spaces.create
  • chat.app.spaces
ตั้งค่าพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces.create
  • chat.spaces
รับพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces.readonly
  • chat.spaces
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.admin.spaces.readonly
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอปและการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ (มีให้ใช้งานในตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์) ให้ทำดังนี้
  • chat.app.spaces
แสดงรายการพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces.readonly
  • chat.spaces
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
ค้นหาพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ ระบบจะดำเนินการดังนี้
  • chat.admin.spaces.readonly
อัปเดตพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.admin.spaces
เมื่อมีการตรวจสอบสิทธิ์ของแอปและการอนุมัติของผู้ดูแลระบบ (มีให้บริการในเวอร์ชันตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาแอป) จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.app.spaces
ลบพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.delete
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ
  • chat.admin.delete
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอปและการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ (มีให้ใช้งานในตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์) ให้ทำดังนี้
  • chat.app.delete
ดําเนินการนําเข้าสําหรับพื้นที่ทํางานให้เสร็จสมบูรณ์ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.import
ค้นหาข้อความส่วนตัว เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.spaces.readonly
  • chat.spaces
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
สมาชิก  
สร้างสมาชิก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.memberships
  • chat.memberships.app
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.admin.memberships
เมื่อมีการตรวจสอบสิทธิ์ของแอปและการอนุมัติของผู้ดูแลระบบ (มีให้บริการในเวอร์ชันตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาแอป) จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.app.memberships
รับสมาชิก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.memberships.readonly
  • chat.memberships
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอป
  • chat.bot
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ
  • chat.admin.memberships.readonly
แสดงสมาชิก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.memberships.readonly
  • chat.memberships
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอป
  • chat.bot
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.admin.memberships.readonly
ลบสมาชิก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.memberships
  • chat.memberships.app
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ
  • chat.admin.memberships
เมื่อมีการตรวจสอบสิทธิ์ของแอปและการอนุมัติของผู้ดูแลระบบ (มีให้บริการในเวอร์ชันตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาแอป) จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.app.memberships
อัปเดตสมาชิก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.memberships
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้โดยใช้สิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ จะมีการดำเนินการต่อไปนี้
  • chat.admin.memberships
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอปและการอนุมัติจากผู้ดูแลระบบ (มีให้ใช้งานในตัวอย่างสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์) ให้ทำดังนี้
  • chat.app.memberships
ข้อความ  
สร้างข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.create
  • chat.messages
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์แอป
  • chat.bot
รับข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.readonly
  • chat.messages
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
แสดงข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.readonly
  • chat.messages
  • chat.import
อัปเดตข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
ลบข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages
  • chat.import
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
รีแอ็กชัน  
สร้างความรู้สึก เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.reactions.create
  • chat.messages.reactions
  • chat.messages
  • chat.import
แสดงรีแอ็กชัน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.reactions.readonly
  • chat.messages.reactions
  • chat.messages.readonly
  • chat.messages
ลบรีแอ็กชัน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.reactions
  • chat.messages
  • chat.import
อีโมจิที่กำหนดเอง  
สร้างอีโมจิที่กำหนดเอง เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.customemojis
ลบอีโมจิที่กำหนดเอง เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.customemojis
รับอีโมจิที่กำหนดเอง เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.customemojis
  • chat.customemojis.readonly
แสดงรายการอีโมจิที่กำหนดเอง เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.customemojis
  • chat.customemojis.readonly
สื่อและไฟล์แนบ  
อัปโหลดสื่อเป็นไฟล์แนบ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.create
  • chat.messages
  • chat.import
ดาวน์โหลดสื่อ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.messages.readonly
  • chat.messages
เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
รับไฟล์แนบของข้อความ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ของแอป ให้ทำดังนี้
  • chat.bot
สถานะการอ่านของผู้ใช้
รับสถานะการอ่านพื้นที่ทำงานของผู้ใช้ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.users.readstate
  • chat.users.readstate.readonly
อัปเดตสถานะการอ่านพื้นที่ทำงานของผู้ใช้ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.users.readstate
รับสถานะการอ่านชุดข้อความของผู้ใช้ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.users.readstate
  • chat.users.readstate.readonly
การตั้งค่าพื้นที่ทำงานของผู้ใช้
ดูการตั้งค่าการแจ้งเตือนพื้นที่ทำงานของผู้ใช้ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.users.spacesettings
อัปเดตการตั้งค่าการแจ้งเตือนพื้นที่ของผู้ใช้ เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
  • chat.users.spacesettings
กิจกรรมใน Space
รับเหตุการณ์ในพื้นที่ทำงาน เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ คุณต้องใช้ขอบเขตตาม ประเภทเหตุการณ์ต่อไปนี้
  • สำหรับเหตุการณ์เกี่ยวกับข้อความ ให้ทำดังนี้
    • chat.messages
    • chat.messages.readonly
  • สำหรับเหตุการณ์เกี่ยวกับความรู้สึก
    • chat.messages.reactions
    • chat.messages.reactions.readonly
    • chat.messages
    • chat.messages.readonly
  • สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับการเป็นสมาชิก
    • chat.memberships
    • chat.memberships.readonly
  • สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับพื้นที่ทำงาน ให้ทำดังนี้
    • chat.spaces
    • chat.spaces.readonly
แสดงเหตุการณ์ใน Space เมื่อใช้การตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ คุณต้องใช้ขอบเขตสําหรับ ประเภทเหตุการณ์แต่ละประเภทที่รวมอยู่ในคําขอ ดังนี้
  • สําหรับเหตุการณ์เกี่ยวกับข้อความ ให้ทำดังนี้
    • chat.messages
    • chat.messages.readonly
  • สำหรับเหตุการณ์เกี่ยวกับความรู้สึก
    • chat.messages.reactions
    • chat.messages.reactions.readonly
    • chat.messages
    • chat.messages.readonly
  • สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับการเป็นสมาชิก
    • chat.memberships
    • chat.memberships.readonly
  • สำหรับกิจกรรมเกี่ยวกับพื้นที่ทำงาน ให้ทำดังนี้
    • chat.spaces
    • chat.spaces.readonly

สําหรับเหตุการณ์การโต้ตอบของแอป Chat

ตารางต่อไปนี้แสดงวิธีทั่วไปที่ผู้ใช้โต้ตอบกับแอปแชท และระบุว่าต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์หรือไม่

สถานการณ์ ไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ รองรับการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้ รองรับการตรวจสอบสิทธิ์แอป
รับข้อความจาก
เหตุการณ์การโต้ตอบกับแอป Chat
การเรียกกลับของ Apps Script
Google Cloud Pub/Sub
วิธีตอบกลับข้อความ
แบบซิงโครนัส โดยใช้เหตุการณ์การโต้ตอบของแอป Chat
แบบซิงค์โดยใช้ค่าที่แสดงผลจากแคล็กแบ็กของ Apps Script
วิธีส่งข้อความใหม่
ใช้เว็บฮุคขาเข้า