ช่องป้อนข้อความจะจัดเก็บสตริงเป็นค่าและสตริงเป็นข้อความ คือ จะเป็นสตริงที่ถูกต้องเสมอ ในขณะที่ข้อความอาจเป็นสตริงใดๆ ก็ได้ บรรณาธิการ
ช่องป้อนข้อความ
ช่องป้อนข้อความที่มีเครื่องมือแก้ไขเปิดอยู่
ช่องป้อนข้อความในบล็อกที่ยุบ
การสร้างวิดีโอ
JSON
{
"type": "example_textinput",
"message0": "text input: %1",
"args0": [
{
"type": "field_input",
"name": "FIELDNAME",
"text": "default text",
"spellcheck": false
}
]
}
JavaScript
Blockly.Blocks['example_textinput'] = {
init: function() {
this.appendDummyInput()
.appendField("text input:")
.appendField(new Blockly.FieldTextInput('default text'),
'FIELDNAME');
}
};
เครื่องมือสร้างการป้อนข้อความจะใช้ค่าที่ไม่บังคับและไม่บังคับ
โปรแกรมตรวจสอบ ค่าควรแปลงเป็น
สตริง หากเป็น null
หรือ undefined
ระบบจะใช้สตริงว่าง
คำจำกัดความ JSON ยังให้คุณตั้งค่าตัวเลือกตรวจตัวสะกดได้ด้วย
การทำให้เป็นอนุกรมและ XML
JSON
JSON สำหรับช่องป้อนข้อความจะมีลักษณะดังนี้
{
"fields": {
"FIELDNAME": "text"
}
}
โดยที่ FIELDNAME
คือสตริงที่อ้างอิงช่องป้อนข้อความ และ
value คือค่าที่จะใช้กับฟิลด์ ค่า
เป็นไปตามกฎเดียวกันกับค่าตัวสร้าง
XML
XML สำหรับช่องป้อนข้อความจะมีลักษณะดังนี้
<field name="FIELDNAME">text</field>
เมื่อแอตทริบิวต์ name
ของช่องมีสตริงที่อ้างอิงการป้อนข้อความ
และข้อความด้านในคือค่าที่จะใช้กับฟิลด์ โครงสร้างภายใน
ค่าข้อความเป็นไปตามกฎเดียวกันกับค่าของตัวสร้าง
การปรับแต่ง
ตรวจตัวสะกด
setSpellcheck สามารถใช้เพื่อกำหนดว่าฟิลด์นั้นตรวจสอบการสะกดของฟิลด์ที่ป้อนหรือไม่
ช่องป้อนข้อความที่มีและไม่มีการตรวจการสะกด
การตรวจตัวสะกดเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น
การดำเนินการนี้จะมีผลกับช่องแต่ละช่อง ถ้าต้องการแก้ไขทุกช่อง ให้เปลี่ยน
พร็อพเพอร์ตี้ Blockly.FieldTextInput.prototype.spellcheck_
การสร้างโปรแกรมตรวจสอบการป้อนข้อความ
ค่าของช่องป้อนข้อความเป็นสตริง ดังนั้นโปรแกรมตรวจสอบจะต้องยอมรับสตริง
แล้วแสดงผลสตริง null
หรือ undefined
นี่คือตัวอย่างของโปรแกรมตรวจสอบที่นำ "a" ทั้งหมดออก อักขระจาก สตริง:
function(newValue) {
return newValue.replace(/a/g, '');
}