คู่มือนี้จะแสดงเพื่อสร้างสิ่งที่คล้ายกับคู่มือ Performance Max ที่มีอยู่ทุกประการ ซึ่งจะถือว่าคุณจะสร้างแคมเปญทั้งหมดในคําขอแบบอะตอมเดียว แทนที่จะสร้างเอนทิตีแต่ละรายการทีละรายการในคําขอแยกต่างหาก ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องใช้รหัสชั่วคราวเพื่อลิงก์ทรัพยากรเข้าด้วยกัน เนื่องจากคุณจะไม่ทราบชื่อทรัพยากรแบบเต็มจนกว่าจะได้รับการตอบกลับจาก API
โดยคุณจะต้องเขียนโค้ดเพื่อไม่ให้สร้างรหัสชั่วคราวที่ซ้ำกัน ดังนี้
let nextId = -1;
function getNextTempId() {
const ret = nextId;
nextId -= 1;
return ret;
}
การเรียก getNextTempId
แต่ละครั้งจะแสดงผลลัพธ์ที่น้อยกว่าผลลัพธ์ก่อนหน้า 1 รายการ เนื่องจากรหัสชั่วคราวทั้งหมดต้องเป็นค่าลบ ให้เริ่มต้นที่ -1
เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว คุณสามารถสร้างอาร์เรย์เพื่อเก็บการดำเนินการทั้งหมดได้ดังนี้
const operations = [];
คุณจะต้องระบุรหัสลูกค้าของลูกค้าที่กําลังสร้างแคมเปญอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากรหัสลูกค้าเป็นสิ่งจําเป็นในชื่อทรัพยากรทุกรายการ
const customerId = AdsApp.currentAccount().getCustomerId();
ทุกครั้งที่ต้องการสร้างการดำเนินการใหม่ คุณจะใช้รหัสชั่วคราวถัดไปในชื่อทรัพยากร เพื่อให้อ้างอิงออบเจ็กต์นี้ได้ในภายหลัง และแทรกออบเจ็กต์ที่สร้างลงในอาร์เรย์
const newOperation = {
[OPERATION_TYPE_VARIES]: {
create: {
resourceName: `customers/${customerId}/[EXACT_PATH_VARIES]/${getNextTempId()}`
// Other fields, relevant to the resource being created.
}
}
}
operations.push(newOperation);
อ่านเพิ่มเติมและดูตัวอย่างการดำเนินการได้ในเอกสารประกอบเกี่ยวกับ REST ของ Google Ads API
เมื่อสร้างการดำเนินการทั้งหมดแล้ว ให้เรียกใช้การดำเนินการเหล่านั้นพร้อมกันในชุดเดียว ดังนี้
AdsApp.mutateAll(operations);