Smart Campaign ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กในการเข้าถึงลูกค้าทางออนไลน์ได้มากขึ้น แคมเปญประเภทนี้ต้องการการตั้งค่าและการบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อย โดยอาศัยเทคโนโลยีโฆษณาที่ดีที่สุดของ Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยอัตโนมัติตามรายละเอียดของธุรกิจและเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการโทรจากลูกค้า การเข้าชมสถานที่ตั้ง หรือการกระทำในเว็บไซต์
การสร้างแคมเปญ
เวิร์กโฟลว์การสร้าง Smart Campaign ประกอบด้วยขั้นตอน 2-3 ขั้นตอนที่แตกต่างจากแคมเปญประเภทอื่นๆ แนวทางปฏิบัติแนะนำคือให้เพิ่มเอนทิตีในคำขอ GoogleAdsService.Mutate
รายการเดียว
ขั้นตอนการสร้าง Smart Campaign ใหม่มีดังนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากตัวอย่างโค้ดฉบับสมบูรณ์
- สร้างรายการธีมคีย์เวิร์ดโดยใช้คําแนะนําจาก
SmartCampaignSuggestService
,KeywordThemeConstantService
หรือธีมคีย์เวิร์ดแบบอิสระ ระบบจะใช้ธีมคีย์เวิร์ดเหล่านี้เพื่อดึงข้อมูลคําแนะนํางบประมาณระดับต่างๆ สร้างเกณฑ์แคมเปญธีมคีย์เวิร์ด และสร้างคําแนะนําสําหรับครีเอทีฟโฆษณาแบบข้อความ - เรียกดูคําแนะนําสําหรับจํานวนงบประมาณ บรรทัดแรก และคำอธิบายโฆษณาจาก
SmartCampaignSuggestService
บริการนี้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เป้าหมาย ภาษาเป้าหมาย และธีมคีย์เวิร์ดเพื่อแนะนำจำนวนงบประมาณรายวันhigh
,low
หรือrecommended
รวมถึงบรรทัดแรกสูงสุด 3 รายการและข้อความอธิบาย 2 รายการสําหรับตัวโฆษณา - สร้าง
CampaignBudget
โดยใช้จํานวนงบประมาณที่แนะนํา เราขอแนะนําให้ใช้งบประมาณที่แนะนําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญให้ได้สูงสุด งบประมาณของแคมเปญอัจฉริยะใช้ร่วมกับแคมเปญอื่นๆ ไม่ได้ - สร้าง
Campaign
และSmartCampaignSetting
SmartCampaignSetting
ไม่สามารถอยู่แยกจากCampaign
ที่เชื่อมโยงอยู่ได้ เราจึงขอแนะนําอย่างยิ่งให้สร้างเอนทิตีทั้ง 2 รายการพร้อมกัน - สร้างรายการ
campaign criteria
ในคู่มือนี้ เราจะใช้ธีมคีย์เวิร์ดที่รวบรวมไว้ในขั้นตอนที่ 1 เพื่อสร้างเกณฑ์แคมเปญธีมคีย์เวิร์ด และยังอธิบายเกณฑ์แคมเปญประเภทอื่นๆ ที่รองรับด้วย - สร้าง
AdGroup
Smart Campaign เชื่อมโยงกับAdGroup
ได้เพียงรายการเดียว - สร้าง
AdGroupAd
ที่มีบรรทัดแรก 3-15 รายการ และคำอธิบาย 2-4 รายการ
สถานที่ตั้งของ Business Profile
เมื่อสร้างคําแนะนําหรือสร้างแคมเปญ เราขอแนะนําให้คุณระบุตัวระบุตําแหน่ง Business Profile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Smart Campaign ให้ได้สูงสุด
คุณดูตัวระบุสถานที่ตั้งของ Business Profile ได้จากname
ช่องของ Business Profile API หรือUI ของ Business Profile
เมื่อตั้งค่าในออบเจ็กต์ SmartCampaignSuggestionInfo
หรือ SmartCampaignSetting
ตัวระบุควรเป็นสตริงในรูปแบบนี้
locations/locationId
หากดึงมาจาก Business Profile API ตัวระบุจะอยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่หากดึงมาจาก UI จะต้องเพิ่มตัวระบุต่อท้าย locations/