ลิงก์บัญชี Hotel Center กับบัญชี Google Ads ทำให้ตอนนี้ Google Ads ปรับปรุงแคมเปญ Search ที่มีอยู่ด้วยราคาและรูปภาพที่วาดโดยอัตโนมัติ จากฟีด Hotel Center ฟีเจอร์นี้เรียกว่าฟีดการเดินทางสําหรับ Search และ Google Ads
เลือกไม่ใช้ฟีดการเดินทางสําหรับโฆษณา Search
หากไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ คุณใช้ Google Ads API เพื่อเลือกไม่ใช้ได้ การใช้ฟีเจอร์นี้ในระดับลูกค้าและแคมเปญ
เลือกไม่ใช้ในระดับลูกค้า
หากต้องการเลือกไม่ใช้ฟีดการเดินทางสําหรับโฆษณา Search ในระดับลูกค้า ให้ทําดังนี้ ดังต่อไปนี้:
ดึงชื่อทรัพยากรทั้งหมดของ
CustomerAssetSet
เป็นประเภทTRAVEL_FEED
โดยใช้รายงานcustomer_asset_set
SELECT asset_set.resource_name, asset_set.name FROM customer_asset_set WHERE asset_set.type = 'TRAVEL_FEED'
สำหรับชื่อทรัพยากรแต่ละรายการ ให้สร้าง
CustomerAssetSetOperation
และตั้งค่าremove
ไปยังทรัพยากร ที่ดึงมาจากขั้นตอนก่อนหน้าส่งคำขอไปยัง
CustomerAssetSetService.MutateCustomerAssetSets
โดยใช้ สร้างวัตถุCustomerAssetSetOperation
รายการ
หากต้องการเลือกใช้ฟีเจอร์นี้ที่ระดับลูกค้าอีกครั้ง ให้ทำดังนี้
- สำหรับชื่อทรัพยากรแต่ละรายการของ
CustomerAssetSet
ที่ดึงมาจากก่อนหน้านี้ ขั้นตอน ให้สร้างCustomerAssetSet
ใหม่ ตั้งค่าasset_set
เป็นชื่อทรัพยากรและcustomer
สำหรับทรัพยากร ชื่อลูกค้า - สําหรับ
CustomerAssetSet
แต่ละรายการที่สร้างในขั้นตอนก่อนหน้า ให้สร้างCustomerAssetSetOperation
โดยตั้งค่าcreate
เป็นCustomerAssetSet
- ส่งคำขอไปยัง
CustomerAssetSetService.MutateCustomerAssetSets
โดยใช้ สร้างวัตถุCustomerAssetSetOperation
รายการ
เลือกไม่ใช้ที่ระดับแคมเปญ
หากต้องการเลือกไม่ใช้ฟีดการเดินทางสําหรับโฆษณา Search ที่ระดับแคมเปญ คุณต้องยกเว้นสถานะการเลือกรับที่ลบล้างจากระดับลูกค้าก่อน โดยทําดังนี้
เรียกข้อมูล
excluded_parent_asset_set_types
โดยใช้รายงานcampaign
SELECT campaign.excluded_parent_asset_set_types FROM campaign WHERE campaign.id = 'INSERT_YOUR_CAMPAIGN_ID'
สร้างออบเจ็กต์
Campaign
ใหม่โดยตั้งค่าexcluded_parent_asset_set_types
เป็นค่าก่อนหน้า บวกTRAVEL_FEED
และตั้งค่าresource_name
เป็นชื่อทรัพยากรของแคมเปญสร้าง
CampaignOperation
และตั้งค่าupdate
ไปยังที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้Campaign
และupdate_mask
ตามนั้นส่งคำขอไปยัง
CampaignService.MutateCampaigns
โดยใช้CampaignOperation
ที่สร้างไว้ในขั้นตอนก่อนหน้า
จากนั้นทำดังต่อไปนี้
สำหรับแคมเปญที่คุณต้องการเลือกไม่ใช้ ให้ดึงข้อมูลชื่อทรัพยากรทั้งหมดของ
CampaignAssetSet
เป็นประเภทTRAVEL_FEED
โดยใช้รายงานcampaign_asset_set
SELECT asset_set.resource_name, asset_set.name FROM campaign_asset_set WHERE campaign_asset_set.campaign = 'INSERT_YOUR_CAMPAIGN_RESOURCE_NAME' AND asset_set.type = 'TRAVEL_FEED'
สําหรับชื่อทรัพยากรแต่ละรายการ ให้สร้าง
CampaignAssetSetOperation
และตั้งค่าremove
เป็นชื่อทรัพยากรที่ดึงมาจากขั้นตอนก่อนหน้าส่งคำขอไปยัง
CampaignAssetSetService.MutateCampaignAssetSets
โดยใช้ สร้างวัตถุCampaignAssetSetOperation
รายการ
หากคุณต้องการเลือกใช้ฟีเจอร์นี้ที่ระดับแคมเปญอีกครั้ง
- สำหรับชื่อทรัพยากรแต่ละรายการของ
CampaignAssetSet
ที่ดึงมาจากก่อนหน้านี้ ขั้นตอน ให้สร้างCampaignAssetSet
ใหม่ ด้วยasset_set
ที่มีการตั้งค่าasset_set
เป็นชื่อทรัพยากรของชุดเนื้อหา คุณต้องการเลือกใช้และcampaign
ชื่อทรัพยากรของแคมเปญ - สำหรับ
CampaignAssetSet
แต่ละรายการที่สร้างขึ้นในขั้นตอนก่อนหน้า ให้สร้างCampaignAssetSetOperation
ด้วยcreate
ได้รับการตั้งค่าเป็นCampaignAssetSet
- ส่งคำขอไปยัง
CampaignAssetSetService.MutateCampaignAssetSets
โดยใช้ สร้างวัตถุCampaignAssetSetOperation
รายการ
แสดงสถานะการเลือกรับของแคมเปญ
หากคุณต้องการให้สถานะการเลือกใช้ของแคมเปญขึ้นอยู่กับการตั้งค่าที่ ระดับลูกค้าอีกครั้ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- สร้างออบเจ็กต์
Campaign
ใหม่ที่มีexcluded_parent_asset_set_types
ไม่มีTRAVEL_FEED
ในรายการ และตั้งค่าresource_name
เป็นชื่อทรัพยากรของแคมเปญ - สร้าง
CampaignOperation
แล้วตั้งค่าupdate
เป็นCampaign
และupdate_mask
ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ - ส่งคำขอไปยัง
CampaignService.MutateCampaigns
ใช้CampaignOperation
ที่สร้างขึ้นในขั้นตอนก่อนหน้า
การรายงาน
คุณสามารถใช้ ClickType.TRAVEL_ASSETS
เพื่อระบุข้อมูลประสิทธิภาพของโฆษณาที่แสดงเป็นฟีดการเดินทางสําหรับโฆษณา Search เช่น การดึงข้อมูลประสิทธิภาพของโฆษณาในแคมเปญทั้งหมด
SELECT campaign.name, segments.click_type, metrics.impressions, metrics.clicks FROM campaign WHERE segments.click_type = 'TRAVEL_ASSETS'