วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน 2011
การทดสอบผู้ใช้ทำให้เราเรียนรู้ว่าผู้ค้นหาชอบเนื้อหาเวอร์ชัน "ดูทั้งหมด" ในหน้าเดียวมากกว่าหน้าคอมโพเนนต์ที่มีแค่บางส่วนของข้อมูลชิ้นเดียวกันและใช้ตัวแบ่งหน้าอย่างไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ (ซึ่งทำให้ผู้ใช้ต้องคลิก “ถัดไป" และโหลด URL อื่นขึ้นมา)
ดังนั้นเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ เมื่อเราตรวจพบว่าชุดเนื้อหา (เช่น page-1.html
, page-2.html
ฯลฯ) มีเวอร์ชันหน้าเดียวด้วย (เช่น page-all.html
) ตอนนี้เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงเวอร์ชันหน้าเดียวนั้นในผลการค้นหา คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ในขั้นตอนนี้หากเว็บไซต์มีตัวเลือกการดูทั้งหมด เราจะดำเนินการให้คุณเอง นอกจากนี้ ระบบจะรวมพร็อพเพอร์ตี้การจัดทำดัชนีอย่างเช่นลิงก์ต่างๆ จากหน้าคอมโพเนนต์ในชุดเนื้อหาไปยังหน้าดูทั้งหมดด้วย
เวลาในการตอบสนองช้าอาจทำให้ความพึงพอใจในหน้าดูทั้งหมดน้อยลง
เป็นที่น่าสนใจว่า ในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ชอบหน้าดูทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับเวลาในการตอบสนองที่ช้า (เช่น เมื่อหน้าดูทั้งหมดต้องใช้เวลาโหลดสักพักเนื่องจากมีรูปภาพจำนวนมาก) ซึ่งก็มีเหตุผลเพราะเราทราบดีว่าผู้ใช้ไม่ค่อยพอใจกับการแสดงผลที่ช้า แม้โดยทั่วไปหน้าดูทั้งหมดจะเป็นที่ต้องการ แต่สิ่งสำคัญในฐานะผู้ดูแลเว็บก็คือการรักษาสมดุลระหว่างความชอบนี้กับเวลาที่ใช้ในการโหลดและประสบการณ์ของผู้ใช้โดยรวม
แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับชุดเนื้อหา
-
หากเว็บไซต์ของคุณมีหน้าดูทั้งหมด เราตั้งใจที่จะตรวจหาเนื้อหาเวอร์ชันดูทั้งหมดและหน้าคอมโพเนนต์ที่เกี่ยวข้องของหน้าดูทั้งหมด (หากมี) อยู่แล้ว คุณจึงไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หากต้องการทำให้เราทราบอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น คุณอาจใส่
rel="canonical"
จากหน้าคอมโพเนนต์ลงในหน้าดูทั้งหมดก็ได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่เราจะตรวจพบชุดหน้าเนื้อหาตามที่ควรจะเป็นเหตุใดจึงได้ผล ในแผนภาพ
page-2.html
ของชุดเนื้อหาอาจระบุเป้าหมาย Canonical เป็นpage-all.html
เพราะpage-all.html
เป็นชุดหลักของเนื้อหาในpage-2.html
เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อความและเลือกpage-all.html
ในผลการค้นหา แม้ว่าคำค้นหาจะเกี่ยวข้องกับpage-2.html
มากที่สุด แต่เรารู้ว่าผู้ใช้จะยังคงเห็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องของpage-2.html
ในpage-all.html
ในทางกลับกัน
page-2.html
ไม่ควรกำหนดให้page-1.html
เป็นหน้า Canonical เพราะเนื้อหาของpage-2.html
ไม่ได้รวมอยู่ในpage-1.html
เป็นไปได้ว่าคำค้นหาของผู้ใช้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในpage-2.html
แต่หากมีการตั้งค่า Canonical ของpage-2.html
เป็นpage-1.html
ผู้ใช้อาจเลือกpage-1.html
ในผลการค้นหาและพบว่าตนยังต้องไปยังหน้าอื่นอีกเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งนั่นจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีสำหรับผู้ใช้ และทำให้เราแสดงผลการค้นหาที่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด และยังอาจนำการเข้าชมจากกลุ่มที่ไม่ใช่เป้าหมายมายังเว็บไซต์ของคุณด้วยอย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ต้องการให้หน้าดูทั้งหมดปรากฏในผลการค้นหาจริงๆ ให้ทำดังนี้
-
ตรวจสอบว่าหน้าคอมโพเนนต์ในชุดเนื้อหาไม่มี
rel="canonical"
ที่ไปยังหน้าดูทั้งหมด และ -
มาร์กอัปหน้าดูทั้งหมดเป็น
noindex
โดยใช้วิธีมาตรฐานวิธีใดก็ได้
-
ตรวจสอบว่าหน้าคอมโพเนนต์ในชุดเนื้อหาไม่มี
-
หากต้องการให้หน้าคอมโพเนนต์แต่ละหน้าปรากฏ (หรือหากไม่มีหน้าดูทั้งหมด) ในกรณีนี้อาจเป็นไปได้ว่า เว็บไซต์ของคุณอยู่ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งหรือทั้ง 2 สถานการณ์ต่อไปนี้
- หน้าดูทั้งหมดไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับแสดงในผลการค้นหา (เช่น เวลาในการโหลดนานเกินไปหรือการไปยังส่วนต่างๆ ยากเกินไปสำหรับผู้ใช้)
- ผู้ใช้ต้องการประสบการณ์การใช้งานแบบหลายหน้ามากกว่า และอยากให้ระบบนำไปยังหน้าคอมโพเนนต์ในผลการค้นหา ไม่ใช่ไปยังหน้าดูทั้งหมด
หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจใช้เอลิเมนต์
rel="next"
และrel="prev"
ที่เป็น HTML แบบมาตรฐานเพื่อระบุความสัมพันธ์ระหว่างหน้าคอมโพเนนต์ในชุดเนื้อหาของคุณ หากดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยทั่วไป Google จะพยายามทำดังต่อไปนี้- รวมพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการจัดทำดัชนีอย่างเช่นลิงก์ต่างๆ ระหว่างหน้าหรือ URL ของคอมโพเนนต์เข้าด้วยกัน
- ส่งผู้ใช้ไปยังหน้าหรือ URL ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดจากหน้าคอมโพเนนต์ โดยทั่วไปแล้ว หน้าที่เกี่ยวข้องที่สุดคือหน้าแรกของเนื้อหา แต่อัลกอริทึมของเราอาจนำผู้ใช้ไปยังหน้าคอมโพเนนต์หน้าหนึ่งในชุดเนื้อหา
เราเห็นอยู่บ่อยๆ ที่ผู้ดูแลเว็บใช้ rel="canonical"
จากหน้าคอมโพเนนต์กับหน้าแรกของชุดเนื้อหาอย่างไม่ถูกต้อง (เช่น page-2.html
มี rel="canonical"
ไปยัง page-1.html
) เราไม่แนะนำให้ทำแบบนี้เพราะที่จริงแล้วหน้าคอมโพเนนต์ไม่ได้มีเนื้อหาที่ซ้ำกัน การใช้ rel="next"
และ rel="prev"
จะเหมาะสมกว่า
สรุป
เพราะผู้ใช้ชอบตัวเลือกแบบดูทั้งหมดในผลการค้นหา เราจึงพยายามมากขึ้นที่จะตรวจหาและแสดงหน้าเวอร์ชันนี้แก่ผู้ค้นหาอย่างเหมาะสม หากมีเนื้อหาเป็นชุด คุณไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม แต่หากต้องการให้สัญญาณเพิ่มเติมแก่ Google ว่าจะแสดงข้อมูลของคุณแก่ผู้ใช้ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ให้ทำดังนี้
-
คุณสามารถใช้
rel="canonical"
จากหน้าคอมโพเนนต์เป็นเวอร์ชันหน้าเดียวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหน้าดูทั้งหมด หรือไม่เช่นนั้น -
หากหน้าดูทั้งหมดให้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดีแก่ผู้ใช้เว็บไซต์ ให้ใช้แอตทริบิวต์
rel="next"
และrel="prev"
เพื่อเป็นสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับ Google ในการระบุชุดของหน้าเว็บและยังคงแสดงหน้าคอมโพเนนต์ในผลการค้นหา
และเช่นเคย หากมีข้อสงสัยใดๆ คุณโพสต์ถามได้ในฟอรัมความช่วยเหลือสำหรับผู้ดูแลเว็บ